สามล้อถูกหวยแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นตัวเลขกำไรของสายการบินแห่งชาติ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI คือ งวดสิ้นปีบัญชี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 6,228.97 ล้านบาท แต่หลังจากนั้น บริษัทนี้ก็ทำแฮตทริก ขาดทุนรวด 3 ปีซ้อนติดกัน ปีละเกิน 1.2 หมื่นล้านบาททั้งสิ้น
ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นตัวเลขกำไรของสายการบินแห่งชาติ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI คือ งวดสิ้นปีบัญชี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 6,228.97 ล้านบาท แต่หลังจากนั้น บริษัทนี้ก็ทำแฮตทริก ขาดทุนรวด 3 ปีซ้อนติดกัน ปีละเกิน 1.2 หมื่นล้านบาททั้งสิ้น
แล้วในช่วง 4 ปีดังกล่าว ก็มีการเปลี่ยนตัวกรรมการผู้อำนวยการใหญ่แทบจะเฉลี่ยปีละครั้งกันเลยทีเดียว..ไม่ลาออก ก็ถูกบีบให้ออก หรือ แค่รักษาการ
ปีนี้ งบการเงินไตรมาสแรกของ THAI ยังไม่ประกาศ แต่นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) คนปัจจุบัน ก็แย้มพรายมาแล้วล่วงหน้าชนิดไม่ต้องเกรงหน้าตาของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ก.ล.ต.ในข้อกล่าวหาว่า “ปากสว่าง” โดยไม่ถึงเวลาอันสมควร หรือให้ข่าวสารชี้นำราคาล่วงหน้าอันไม่เหมาะสม
จะเพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองก็อดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯเก่า หรือไงก็ไม่ทราบ
นายจรัมพร แจ้งในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันพุธที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา
รายละเอียดก็เป็นเรื่องความคืบหน้าแผนปฏิรูปองค์กรของ THAI ให้ คนร.รับทราบ โดยตามแผนแล้ว THAI ต้องหยุดการขาดทุนให้ได้ในปี 2559 นี้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กร และปี 2560 THAI จะเติบโตอย่างมีกำไรระยะยาว
ระหว่างรายงานตัวเลขผลประกอบการล่วงหน้าของ THAI ในไตรมาสแรกก็หลุดรั่วออกมาว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2559 (ม.ค.-มี.ค. 59) จะมีกำไรสุทธิประมาณ 500 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าตลอดทั้งปี 2559 จะมีรายได้ 194,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท
ตัวเลขดังกล่าว ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ตั้งไว้ว่า ในปี 2559 THAI ควรมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 12,000 ล้านบาท โดยจะต้องลดค่าใช้จ่าย โดยไม่รวมรายการน้ำมันให้ได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
หากพิจารณาจากมุมมองของการลงทุน บริษัทที่มีสุขภาพทรุดโทรมเหมือนคนป่วย ขาดทุนเรื้อรัง 3 ปีต่อเนื่อง กลับมาทำกำไรได้ ก็น่าจะต้องแสดงความยินดี ไม่ว่ากำไรนั้นจะเกิดจากการดำเนินงานปกติ หรือกำไรพิเศษก็ตาม
อย่างน้อยก็น่าจะให้เครดิตผู้บริหารบ้าง …ธุรกิจย่อมดีบ้างแย่บ้าง ตามวงจรเศรษฐกิจ เพียงแต่การประเมินผลงานจะต้องเอาจริงเอาจัง …ไม่ใช่อะไรก็อ้างแต่ PKI บ้าๆ บอๆ หรือ “ความเหมาะสม” (ที่ไม่รู้แปลว่าอะไร)
เพียงแต่ว่า หากมองจากมุมของนักบัญชี อัตรากำไรสุทธิ (net profit margin) เทียบกับ รายได้ประมาณ 48,800 ล้านบาท ซึ่งต่ำติดพื้นแค่ 1% ก็ต้องถือว่า THAI เป็นธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงต่ออนาคตอย่างรุนแรงเพราะเข้าข่าย “กำไรบางเกิน หนี้ท่วม และความสามารถแข่งขันต่ำ”
ครบสูตรบริษัทที่ไม่สมควรลงทุนด้วยประการทั้งปวง..ไม่สมกับเป็นสายการิบนแห่งชาติเอาเสียเลย..ว่างั้นเถอะ
เป็นไปดังที่วอร์เรน บัฟเฟตต์เคยป่าวประกาศเอาไว้หลายปีก่อนเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ว่า “….อย่าลงทุนในสื่อโทรทัศน์ และสายการบินเด็ดขาด…”
กำไรที่เกิดขึ้นนี้ มีคนรู้ทันแม้ไม่ได้อ่านงบการเงินมาก่อนว่า น่าจะเกิดจากกำไรพิเศษ มากกว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติ..เพราะว่ากันตามจริงแล้ว ไตรมาสที่สี่ของปีก่อนและไตรมาสแรกของปีจะเป็นช่วงจังหวะ “ไฮซีซั่น” ที่จะต้องมีกำไร ในขณะที่จะขาดทุนในไตรมาสที่สองและสามที่เป็น “โลว์ซีซั่น”
คำอธิบายเรื่องการกลับมาทำกำไรของดีดีใหญ่ ระบุว่า เป็นเพราะสามารถควบคุมต้นทุนได้ตามเป้า โดยไตรมาส 1/2559 THAI สามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ 4.7 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 10.5% ของค่าใช้จ่ายรวม โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาก เพราะ THAI ได้ทำประกันความเสี่ยง (Hedging) ราคาน้ำมัน สัดส่วน 50% ของปริมาณการใช้ และได้เริ่มทำประกันความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันสำหรับปี 2560 ไว้แล้วส่วนหนึ่ง แต่หากไม่รวมรายการน้ำมัน จะมีค่าใช้จ่ายลดลง 1 พันล้านบาท หรือประมาณ 4%
กำไรที่น้อยนิด และต้นทุนที่ลดไม่ใช่เพราะฝีมือ แต่เพราะราคาน้ำมันลดลง ที่ดีดีใหญ่รายงานจึงถูก นักบัญชีเก่าอย่าง รมว.คลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ดักคอเอาไว้ว่าเหตุที่ THAI สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ตามเป้า เป็นเพราะราคาน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น THAI ควรลดค่าใช้จ่ายในรายการอื่นๆ ให้ได้ด้วย
ตัวเลขกำไร 500 ล้านบาท หลุดออกมาถึงริมฝีปากผู้สื่อข่าว ดังนั้น จึงกลายมาเป็นประเด็นร้อนทันที เพราะตัวเลขดังกล่าวได้รับการยืนยันว่ามีจริงจากคนสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมคือ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม
งานนี้เล่นเอาอดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างนายจรัมพร ต้องแจ้งตลาดฯในเวลาต่อมาว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนพูดเรื่องตัวเลขดังกล่าว…เอาตัวรอดไปข้างๆ คูๆ ตามระเบียบ
เพียงแต่นั่นไม่ได้ทำให้ราคาหุ้น THAI หยุดวิ่งระยะสั้นรับข่าวในวันนั้นเพื่อฉลองการกลับมำทกำไร ตามประสา “สามล้อถูกหวย” กันสักเล็กน้อย
ในการชี้แจงกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุม นายจรัมพรระบุ (อย่างระมัดระวังดอกพิกุลจะร่วง) ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2559 ออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดย THAI มีรายได้อยู่ที่ 4.88 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 4.94 หมื่นล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้าเพียง 1% โดยมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 78% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3%
พลั้งปากไปนิดเดียว…เกือบเสียศูนย์ซะแล้ว อิ อิ อิ