รวยเพราะร้อน-แล้งแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
เดินไปทางไหนยามนี้ มีแต่คนส่ายหน้ายิ่งกว่าพัดลมว่า เศรษฐกิจไม่ดี...บ่หั่งเช้ง
เดินไปทางไหนยามนี้ มีแต่คนส่ายหน้ายิ่งกว่าพัดลมว่า เศรษฐกิจไม่ดี…บ่หั่งเช้ง
เหตุผลก็เพราะภัยแล้งจนกระทั่งร้อนจัดเข้าข่ายเจียนบ้า เจียนคลั่งไปทุกขณะ
ภัยแล้งและภัยร้อนยิ่งอาละวาดรุนแรงเท่าใด ก็ยิ่งมีด้านสว่างให้กับบางธุรกิจได้เป็นโอกาสทองเช่นกัน โดยเฉพาะพวกที่ทำธุรกิจหารายได้เกี่ยวกับน้ำ
ธุรกิจของบริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR ที่บุกเบิกและสร้างธุรกิจด้วยการเริ่มต้นนวัตกรรมของนายวีรวัฒน์ แจ้งอยู่ ในการผลิตเครื่องกรองน้ำมาตรฐานที่ต่างชาติได้อายกันมาจนเป็นธุรกิจมากกว่า 1.5 พันล้านบาทในขณะนี้ และมีโอกาสจะทะลุ 2 พันล้านบาทในปีนี้จากความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ และทีมงาน
เครือข่ายขายตรง และผ่านโมเดิร์นเทรด รวมทั้งขายผ่านช่องทางอื่นๆ ที่นับวันจะสยายปีกใหญ่ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ฐานที่มั่นเดิมคือ กรุงเทพฯ และปริมณฑลเหมือนเดิม ทำให้ปีนี้ เป็นโอกาสทองที่อานิสงส์ของภัยร้อน-ภัยแล้ง เข้ามาหนุนช่วย
ภัยร้อนทำให้คนกระหายน้ำ แต่ภัยแล้งทำให้น้ำสะอาดหายาก ดังนั้น การมีน้ำดื่มธรรมดา ต้องไม่พอ จะซื้อน้ำขวดยี่ห้อต่างๆ รึก็มีราคาแพง สู้ซื้อเครื่องกรองน้ำสักเครื่องหนึ่งในราคาผ่อนส่ง ก็สามารถลดต้นทุนชีวิตของการหาน้ำดื่มสะอาดได้หลากหลายแบบ
จะเป็นน้ำด่าง หรือน้ำดื่มที่กรองบริสุทธิ์ หรือ อาร์โอ ก็ได้ และก็ดีทั้งนั้น
แถมล่าสุดยังขายแอร์คอนดิชั่นผ่านเครือข่ายเสียอีก เรียกว่าเสริมพลังหารายได้รับภัยร้อน-ภัยแล้งครบวงจรก็ว่าได้
โอกาสทองอย่างนี้ ไม่น่าประหลาดใจที่ กรรมการผู้จัดการ นายวิรัช วงศ์นิรันดร์ จะแสดงออกอย่างมั่นใจสุดๆ ว่า ผลการดำเนินงานในปี 2559 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยจะมีรายได้รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,617 ล้านบาท
การรุกเพื่อเป็นบริษัทรายได้ 2 พันล้านเช่นนี้ เกิดจากการที่มีแผนขยายไลน์สินค้าเพิ่มมากขึ้น และอยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าเพื่อนำเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอื่นๆ นอกเหนือจากเครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องซักผ้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม…เรียกว่าขายได้ทั้งร้อนจัด และหนาวจัด…ทุกฤดูเลยก็ว่าได้
รวยด้วยร้อน-แล้งอย่างเดียว ไม่พอเสียแล้วในอนาคต
ขณะเดียวกันยังมีแผนขยายการลงทุนไปยังประเทศลาวและเวียดนาม ซึ่งจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2/2559 และเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
จะรุกขยายตัวเพื่ออนาคตอย่างนี้ ต้องระดมทุน แต่เนื่องจาก TSR เพิ่งจะระดมทุนทางอ้อมไปหมาดๆ ผ่านการจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และเงินสดเพื่อเสียภาษีอีก 0.02 บาท ก็คงจะไม่มีการเพิ่มทุนใหม่ แต่คงใช้วิธีออกหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท อายุไม่เกิน 3 ปี เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ, ใช้ในการลงทุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
การออกหุ้นกู้หรือการก่อหนี้ใหม่อีก 500 ล้านบาท ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โต เพราะบริษัทที่มีหนี้ต่ำ โดยค่าดี/อีแค่ 0.74 เท่า แล้วหลังจากออกหุ้นกู้รอบใหม่นี้ ค่าดี/อีก็จะเพียงแค่ 1.29 เท่า….สบายๆๆๆ
เพียงแต่ประเด็นเรื่องอัตรากำไรสุทธิของ TSR ระดับปัจจุบันที่อยู่เพียงแค่ 8.87% นั้น ถือว่าต่ำเกินสมควร การเพิ่มรายได้…ไม่ใช่ประเด็นเสียแล้ว การทำกำไรต่างหาก ที่ควรต้องเร่งปรับปรุง…
ไม่งั้น ราคาหุ้นก็คงต่ำเตี้ยที่รอบๆ 7.00 บาทนั้นเอง…ขึ้นๆ ลงๆ อยู่อย่างนี้
ซีอีโอ วีรวัฒน์ และเอ็มดีใหญ่ นิรันดร์ ทราบแล้วเปลี่ยน…อิ อิ อิ