หน้ากากของอาชญากรรมพลวัต 2016

การออกมารับข้อเท็จจริงของประธานบริษัทมิตซูบิชิมอเตอร์สของญี่ปุ่นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 6 ของญี่ปุ่น และอันดับ 16 ของโลก ถือเป็นประเด็นเรื่องของธรรมาภิบาลและอาชญากรรมทางธุรกิจ ได้ทั้งนั้น แม้จะสารภาพเพื่อหวังว่าจะเกิดการลงโทษแค่ครึ่งราคา ก็สะท้อนความร้อนในผลลัพธ์ของระบบทุนนิยมญี่ปุ่นได้หมดเปลือก


วิษณุ โชลิตกุล

 

การออกมารับข้อเท็จจริงของประธานบริษัทมิตซูบิชิมอเตอร์สของญี่ปุ่นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 6 ของญี่ปุ่น และอันดับ 16 ของโลก ถือเป็นประเด็นเรื่องของธรรมาภิบาลและอาชญากรรมทางธุรกิจ ได้ทั้งนั้น แม้จะสารภาพเพื่อหวังว่าจะเกิดการลงโทษแค่ครึ่งราคา ก็สะท้อนความร้อนในผลลัพธ์ของระบบทุนนิยมญี่ปุ่นได้หมดเปลือก

วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา นายเทตสึโร ไอคาวะ ประธานบริษัทมิตซูบิชิ ค่ายยานยนต์ญี่ปุ่น แถลงที่กรุงโตเกียว ยอมรับว่า พนักงานบริษัทตกแต่งข้อมูลผลทดสอบประหยัดน้ำมันของรถยนต์ประมาณ 6.25 แสนคัน ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา และมาตรการเฉพาะหน้าคือ บริษัทจะระงับการผลิตและจำหน่ายรถรุ่นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นรถขนาดเล็กขายในญี่ปุ่น กับเปิดสอบสวนรถยนต์ที่จำหน่ายในต่างประเทศ

การยอมรับอย่างน่าอับอายมีขึ้นไล่หลังเรื่องอื้อฉาวขนาดใหญ่โกงทดสอบค่าไอเสียของโฟล์คสกวาเกน แห่งเยอรมนีเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งกลายเป็นมรสุมลูกใหญ่ของค่ายรถดังแห่งเยอรมนีจนถึงปัจจุบัน

นายเทตสึโร กล่าวว่าไม่รู้จะช่วยอย่างไร นอกจากขออภัยอย่างสุดซึ้งต่อลูกค้าและผู้ถือหุ้นที่บริษัททำการทดสอบอย่างไม่เหมาะสม ให้แสดงค่าการใช้น้ำมันดีกว่าอัตราที่เป็นจริง ทำให้ลูกค้าจำนวนมากซื้อรถของบริษัทเนื่องจากได้รับข้อมูลการทดสอบที่ผิดพลาดและนำมาสู่การตัดสินใจเป็นลูกค้าของบริษัท และวิธีการทดสอบที่ใช้ ยังแตกต่างจากที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนดอีกด้วย

ในคำขออภัยไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม และไม่ได้ตอบคำถามว่ามีรถรุ่นไหนที่ได้รับผลกระทบบ้าง และที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขาทำเรื่องนี้มานานเท่าไรที่สวมเขาให้ลูกค้าผู้ภักดี  เพียงแต่ยอมรับว่า กระบวนการดังกล่าวที่ผิดพลาดในการทดสอบอาจจะยาวนานมาก โดยพบว่าขั้นตอนการทดสอบผิดพลาดมาตั้งแต่ปี 1991 รวมถึงข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพการใช้น้ำมันของรถยนต์

หลังจากที่ประกาศยอมรับจะด้วยเพราะจำนนต่อหลักฐานหรือเพราะเหตุอื่น ข่าวร้ายก็ส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ ค่ายนี้  อย่างรุนแรง และมีการตรวจสอบภายในบริษัท โดยจัดตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาตรวจสอบการทดสอบอัตราประหยัดน้ำมันภายในบริษัททันที

เริ่มแรกสุดปัญหานี้กระทบรถเล็ก หรือมินิคาร์รุ่น “eK Wagon” กับ“eK Space” ของค่ายมิตซูบิชิเอง และ รุ่น Dayz กับ “Dayz Roox” ที่มิตซูบิชิผลิตให้นิสสัน และเป็นนิสสันที่ตรวจพบว่าค่าประหยัดน้ำมันไม่คงที่ และได้รายงานความผิดปกตินี้กลับไป  แต่ในระยะต่อไปจะกระทบกับรถยนต์ที่ค่ายนี้ผลิตจากฐานผลิตสำคัญในญี่ปุ่น ไทย ฟิลิปปินส์ และบราซิลทั้งหมดในในรอบ 25 ปี

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ราคาหุ้นมิตซูบิชิในตลาดโตเกียวจะร่วงหนักต่อเนื่องนานถึง 6 วันทำการ หลังจากข่าวนี้ปรากฏกระจายออกไปถือเป็นการดิ่งหนักสุดของหุ้นบริษัทนับจากปี 2547 ซึ่งช่วงนั้น มิตซูบิชิกำลังดิ้นรนพลิกฟื้นจากหมิ่นเหม่ล้มละลาย เพราะขาดแคลนเงินสดและการเรียกคืนรถครั้งใหญ่หลายครั้ง โดยที่ล่าสุดมาร์เก็ตแคปของบริษัทและตลาดหุ้นนั้นลดลงไปครึ่งเดียวของก่อนหน้าวันประกาศการฉ้อฉลตามนี้

ผู้บริหาร บริษัทมิตซูบิชิ ยอมรับว่ายังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะชดเชยให้กับลูกค้าที่ซื้อรถของตนเอง และของค่ายอื่นที่ผลิตส่งให้ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมานี้อย่างไรขณะที่กำลังเจรจากับ บริษัทนิสสันมอเตอร์ ซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญว่า จะทำอย่างไรกับรถยนต์จำนวน 625,000 คัน ที่เพิ่งจัดส่งสู่ท้องตลาดในหลายประเทศ

ในขณะที่นิสสันก็ได้ประกาศว่าจะหยุดขายรถรุ่น Dayz กับ  Dayz Roox ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตขายเฉพาะไปตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น

กระทรวงการขนส่งของญี่ปุ่นได้แถลงว่ามิตซูบิชิจะต้องส่งผลการตรวจสอบมลพิษและกำลังเครื่องยนต์ใหม่ภายใน 21 พฤษภาคมเพราะผลทดสอบที่สุด เพราะผลการทดสอบครั้งแรกที่ทำให้บริษัทต้องออกมาขออภัยนั้นยังไม่เพียงพอที่จะสรุปอะไรได้

นักกฎหมายภาษีของญี่ปุ่นประเมินว่ามิตซูบิชิจะต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลเนื่องจากระบบการเก็บภาษีปัจจุบันของธุรกิจรถยนต์เป็นการเก็บภาษีตามการปล่อยมลพิษสู่อากาศเป็นสำคัญ ดังนั้นค่าปรับด้านภาษีนี้ก็จะเป็นต้นทุนที่สำคัญอีกด้านหนึ่งนอกเหนือจากการชดใช้ให้กับผู้บริโภค

คำถามตามมาว่าในกรณีของค่ายรถยนต์โฟล์กสวาเกน ซึ่งทำผิดแบบเดียวกันและต้องจ่ายค่าปรับรวมทั้งค่าเสียหายอื่นๆ มูลค่าถึง 1.62 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หากบทลงโทษนั้นจะใช้กับมิตซูบิชิแล้ว บริษัทนี้ซึ่งมีปัญหาการเงินมาอย่างโชกโชนในรอบ 2 ทศวรรษจะสามารถชำระความเสียหายดังกล่าวได้หรือไม่

มีการประเมินว่าขณะนี้มิตซูบิชิมอเตอร์สมีเงินสดอยู่ในมือเพียงแค่484.7 พันล้านเยน หรือแค่ 4 พันกว่าล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ต่ำที่สุดในบรรดาผู้ผลิตนัดรถยนต์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น 

ซีอีโอของบริษัทนิสสันมอเตอร์ประกาศหลังจากมีข่าวนี้ออกมาว่าจะต้องทบทวนความร่วมมือการเป็นมนุษย์รวมถึงผลิตรถยนต์กับค่ายมิตซูบิชิอย่างจริงจังอีกครั้ง

งานนี้อาจะลุกลามไปถึงขั้นที่ทำให้ฐานะทางการเงินของมิตซูบิชิปิดตำนานและถูกเทกโอเวอร์ได้ไม่ยากหากค่าเสียหายมากเกินกว่าฐานะที่จะจ่ายได้

ถือเป็นบทเรียนธุรกิจที่สำคัญอีกครั้ง

Back to top button