ถูกจัดหนัก จัดเต็มแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
ไม่รู้กลัวว่าคนจะเข้าใจกันผิดๆ ว่ามีการลดมูลค่าคำฟ้องคดี หรือเพราะกลัวว่าราคาหุ้นของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL จะวิ่งแรงเกินห้ามใจหรืออย่างไร นายชาติ หงส์เทียมจันทร์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จึงออกมาเปิดเผยข้อมูลใหม่ที่มากกว่าเดิม และน่าจะชัดเจนกว่าเดิม
ไม่รู้กลัวว่าคนจะเข้าใจกันผิดๆ ว่ามีการลดมูลค่าคำฟ้องคดี หรือเพราะกลัวว่าราคาหุ้นของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL จะวิ่งแรงเกินห้ามใจหรืออย่างไร นายชาติ หงส์เทียมจันทร์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จึงออกมาเปิดเผยข้อมูลใหม่ที่มากกว่าเดิม และน่าจะชัดเจนกว่าเดิม
เปิดเผยคราวนี้ ราคาหุ้นของ TPIPL ตลอดวานนี้จึงได้ร่วงชนิดไม่มีหูรูดกันเลยทีเดียว
เรื่องของเรื่องมันมาจากเอกสารของฝ่ายบริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ลงชื่อนางอรพิน เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2559 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ โดยพนักงานอัยการจังหวัดสระบุรี ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องบริษัทเป็นจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.287/2559 และคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.288/2559 ของศาลจังหวัดสระบุรี โดยเรียกให้ใช้ราคาค่าแร่ฯ และค่าภาคหลวงฯ เป็นจำนวนทุนทรัพย์ 327,680,219.25 บาท และ 1,671,128,829.14 บาท ตามลำดับ รวมแล้วตกประมาณ 1,998.80 ล้านบาท
โดยบริษัทได้รับทราบสำเนาคำฟ้องโดยวิธีการปิดหมาย ฉบับลงวันที่ 8 เมษายน 2559
คดีดังกล่าว ทำให้คนเข้าใจกันไปว่า น่าจะเป็นคดีเดียวกันกับคดีเดิมเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ซึ่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ โดยพนักงานอัยการ จากจังหวัดสระบุรี ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทเป็นจำเลย ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 776/2558 ของศาลจังหวัดสระบุรี ฐานละเมิดโดยเรียกค่าเสียหายให้ใช้ราคาแร่อุตสาหกรรม เป็นจำนวนทุนทรัพย์ 4,066,515,823.54 บาท
ครั้งนั้น TPIPL ได้ชี้แจงต่อตลาดว่า ยังไม่ได้รับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องในคดีดังกล่าวแต่อย่างใด
เพียงแต่ว่า ความแตกต่างของตัวเลขมูลค่าคำฟ้องคดีแพ่งระหว่างคดีปี 2558 สำหรับข้อกล่าวหาซึ่ง “ไม่ใช่ที่ดินของบริษัท” มูลค่า 4,066.51 ล้านบาท ที่เปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้า มาเป็น “ที่ดินของบริษัทโดยชอบด้วยกฎหมายบางส่วน” มาเหลือเพียงแค่ 1,998.80 ล้านบาทในปีนี้ ทำให้เกิดคำถามว่าทำไมมูลค่าจึงลดลง
นายชาติ ระบุว่า ความจริงแล้ว มันคนละคดีกัน ต่างกรรมต่างวาระ ทำให้มูลค่ารวมของคำฟ้องของกรมฯ คือ 6,337,367,279.45 บาท ตะหาก
รายละเอียดที่นายชาติเปิดเผยนั้น ช่วยทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยระบุว่า จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐหลายภาคส่วนตรวจสอบพบว่า TPIPL มีการทำเหมืองหินปูนออกนอกเขตพื้นที่ประทานบัตร เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมดำเนินคดีทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายกับบริษัทฯ ตามคดีแพ่งที่ 776/2558 ของศาลจังหวัดสระบุรี กรณีลักลอบทำเหมืองในพื้นที่คำขอประทานบัตรของบริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 4,338,558,231.45 บาท
ความฟ้องร้องคดีดังกล่าว ยังไม่ได้สิ้นสุด และไม่ได้ยกเลิก เพราะต่อมา จากการตรวจสอบ ในปี 2558 ยังพบว่า บริษัทยังคงมีการกระทำความผิดซ้ำในพื้นที่คำขอประทานบัตรเดิม และทำเหมืองในเขตพื้นที่ห้ามทำเหมือง (Buffer Zone) ในเขตประทานบัตรของบริษัทฯ จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คดี และดำเนินคดีทางแพ่งเพิ่ม 2 คดี คือ คดีแพ่งที่ 287/2559 กรณีบริษัทฯ ทำเหมืองซ้ำในพื้นที่คำขอประทานบัตรเดิมอีก คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 327,680,219 บาท และคดีแพ่งที่ 288/2559 กรณีทำเหมืองในเขตพื้นที่ห้ามทำเหมือง ในเขตประทานบัตรของบริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหาย จำนวน 1,671,128,829 บาท
ท้ายสุด กรมฯ ก็ได้ฟ้องร้องเพิ่มในคดีอาญาอีก 1 คดี รวมแล้ว มีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับ TPIPL5 คดี โดยคดีอาญา จำนวน 2 คดี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน เพื่อเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการ
ส่วนคดีแพ่ง มีจำนวน 3 คดี ได้มีการฟ้องคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายกับบริษัทฯ คิดเป็นค่าเสียหายรวม 6,337,367,279.45 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นศาล
ถือว่างานนี้ จัดหนัก…และจัดเต็ม…โดยไม่เกี่ยวกับทักษิณ ชินวัตรและพวกแต่อย่างใด…อย่าเข้าใจเป็นอื่น
แล้วอธิบดีชาติ หงส์เทียมจันทร์ ก็ย้ำอีกว่า…ถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้สาธารณชนทราบต่อไป
ส่วนกรณีที่นางอรพิน แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัทจะใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อต่อสู้คดีต่อไป โดยอ้างว่า ไม่ได้กระทำผิดตามคำฟ้องของพนักงานอัยการดังกล่าว และ ”…บริษัทได้ชำระค่าตอบแทนให้แก่รัฐ โดยถูกต้องตามกฎหมาย และทางรัฐไม่ได้รับความเสียหายที่กล่าวอ้างโดยพนักงานอัยการจังหวัดสระบุรี…” ก็ว่ากันไปตามหลักฐาน
ตัวเลข 6.337 พันล้านบาท แม้จะยังไม่ชี้ขาด และต้องใช้เวลาอีกยาวนานก็คงทำให้นักลงทุนถอยห่าง TPIPL และไม่กล้ารับราคาหุ้นที่ร่วงลงมาเหมือนนกเขาเหิน…ที่ไม่ได้บินกลับขึ้นไป…อย่างแน่นอน
เว้นแต่จะมีคนชื่อ และคนอย่าง ประชัย…หลายๆ คนที่มีนิสัยเช่นเดียวกัน
อิ อิ อิ