ตั้งหลักก่อนไหม?โมนิก้าและทีมงาน

*เดี๊ยนยอมรับว่า อาการแกว่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นแกว่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง มันเป็นสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจของนักลงทุนอย่างร้ายแรง จนพวกจิตอ่อนเกิดอาการไขว้เขว ขายหุ้นผิดจังหวะจะโคนไปหมด “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหลบไปตั้งหลักสักพักหนึ่ง เพราะเมื่อดูตามเนื้อผ้าที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันเป็นอะไรที่พูดยากมากๆ แถมพอถึงเวลาที่ต้องทำจริงๆ กลับทำได้ยากกว่าหลายเท่านะคะ

*ด้วยเหตุนี้อย่าได้กังวลใจอะไรไปเลย เพราะข้อมูลที่ได้รับมาอีกทอดหนึ่ง ก็มีการพูดถึงกรอบลงทุนที่วนไปวนมา ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคนสามารถเข้าไปเก็บหุ้นได้ในจังหวะไหน? หากช้อนหุ้นได้ในราคาต่ำๆ ก็คงรู้สึกแฮปปี้เอ็นจอย… หากเข้าไปเก็บหุ้นในราคาสูง ก็คงต้องลุ้นจนตัวโก่ง “โมนิก้า” ถึงต้องการให้เหล่านักเล่นเคลียร์หน้าเสื่อให้เรียบร้อยตั้งแต่ตอนนี้เจ้าค่ะ

*เนื่องจากสัปดาห์นี้จะมีการซื้อขายหุ้นแค่ 2 วัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องกอดหุ้นไว้ในพอร์ตเยอะๆ เพราะไม่รู้ว่า ตัวแปรในระหว่างวันที่ไม่มีการเทรดมีอะไรมากระทบบ้าง “โมนิก้า” ถึงชอบให้แฟนคลับ “เข้าเร็ว ออกเร็ว” เพื่อความคล่องตัวในการเล่นหุ้นช่วงตลาดผันผวน บวกกับข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นในจังหวะนี้มีแต่เรื่องราวชวนระทึกขวัญ จึงต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างตั้งแต่เนิ่นๆ  พะยะค่ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น JAS จนสุดท้ายหุ้นขึ้นมาปิดที่ 4.36 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่า 4.16 พันล้านบาท ทั้งที่ 1 เดือนก่อนหน้านี้ดัชนียืนอยู่ที่ 3.50 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องอ่านเกมให้ขาดก่อนเข้าลงทุน เพราะจังหวะของการลงทุนเที่ยวนี้เปลี่ยนเร็วเหลือเกิน..บางวันขึ้นแรง บางวันลงแรง บางวันนิ่งๆ จำได้ไหมจ๊ะ

*ส่วนในรายของ GL ทะยานขึ้นมาปิดที่ 25 บาท บวกไป 2.10 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 690 ล้านบาท ล้วนเป็นช็อตที่เหล่านักเล่นเชื่อกันว่า กำไรปี 59 จะออกมาเริ่ดสะแมนแตน จึงมีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นจนทำ new high เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนลีสซิ่ง และเมื่อดูจากแฟนคลับเจ้าประจำที่ยังหนาแน่น หุ้นมีโอกาสไปอีกค่อนข้างสูง แต่ทันทีที่เหลือบดูค่า P/E ปาเข้าไป 50 เท่า “โมนิก้า” คิดว่า มันไม่ใช่แล้วมั้ง!

*บทเรียนเรื่องดังกล่าวดูได้จากราคาหุ้น SUPER ทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 2.08 บาทได้ไม่ทันไร ต่อจากนั้นมีแรงเทขายถล่มออกมาไม่เลี้ยง จนหุ้นเซถลาลงมาปิดที่ 1.84 บาท ลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 6%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการลดอุณหภูมิของหุ้นไม่ให้ฮีตจนเกินไป หากหุ้นจะลงต่ออีกวันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการไต่ระดับของหุ้น BIG อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งได้แรงซัพพอร์ตมาจากผลการดำเนินงานที่เข้าตากรรมการ หุ้นถึงไต่เพดานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายมาจบที่ราคา 3 บาท บวกไป0.26 บาท หรือขึ้นไป 9.50%  ด้วยมูลค่า 255 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่คนเล่นต้องผ่องหุ้นออกไปบางส่วนในช่วงที่หุ้นถีบตัวขึ้น เพราะไซเคิลของหุ้นเป็นแบบขึ้นแรงแล้วพักน่ะสิ

*ส่วนรายที่ขึ้นแรงแล้วทุบอย่าง EVER มันเป็นจังหวะที่แฟนคลับต้องเล่นเกมเร็ว เหตุผลของการขึ้นยังเกี่ยวข้องกับการเข้าองค์ทรงเจ้า ไม่มีเรื่องปัจจัยพื้นฐานเข้ามาสนับสนุนสักเท่าไหร่? “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.92 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 8.20% ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท  มันเป็นภาพที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นหุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 1.05 บาท ต่อจากนั้นหุ้นลงมายืน 0.85 บาทไงล่ะค่ะ

* ไหนๆ พูดถึงหุ้นที่มีแพทเทิร์นเดิมๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึง THAI เพื่อย้ำถึงกรอบการวิ่งของหุ้นยังอยู่ที่ระดับ 13-15 บาทเหมือนเดิม บวกกับตลอดระยะเวลา 1 เดือนก็ยังอยู่ในทรงนี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 14.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มันได้แรงหนุนจากนโยบายจับมือกับ AirAsia ทุกอย่างเลยเข้าทางไปหมดพะยะค่ะ

*สำหรับรายที่พยายามฉีกกฎอย่าง QTC พอถึงจุดหนึ่งของการลงทุนที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” ก็เห็นแรงเทขายทยอยออกมาเป็นระลอก จนหุ้นอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 9.10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่า 650 ล้านบาท ทั้งที่ดันหุ้นขึ้นไปถึง 9.75 บาท มันเป็นภาพที่ย้ำกับนักเล่นสั้นว่า เมื่อโอกาสทำกำไรรออยู่เบื้องหน้า ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรีรออะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีประเด็นเยอะแยะแล้ว “โมนิก้า” ขอเจียดเวลาให้กับหุ้นสุดรักอย่าง TACC เพื่อฉายภาพการขายน้ำในช่วงที่ผ่านมาให้แฟนคลับได้รู้ว่า ทุกอย่างน่าจะไปได้ดีเมื่อดูจากแผนงานที่พูดไว้ตั้งแต่ต้นปี 59 เดี๊ยนจึงขอเดาเล่นๆ อย่างไม่เป็นทางการว่า งบไตรมาส 1 คงจะสวยไม่เบา และปีนี้คงได้เห็นหุ้นทะยานขึ้นไปทำ new high เหนือระดับ 7 บาทแน่ๆ ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 6 บาทกลมๆ มันน่าสนจริงๆ นะตัวเอง!

*เหมือนกับประเด็นที่เกิดขึ้น MILL ภายใต้การขับเคลื่อนของ “สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล”  ซึ่งนั่งในตำแหน่งเอ็มดีใหญ่ ก็ประกาศกร้าวกลางวงประชุมว่า ปี 59 จะเป็นปีที่เติบโตอย่างยั่งยืน เพราะการปรับโครงสร้างการเงินสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ แถมยังชี้ให้ดูค่า  D/E  ในปี 58 ลดลงจาก 3 เท่า เหลือแค่ 2.2 เท่า และในไตรมาส 1 ปี 59  จะลดลงเหลือ 1.5 เท่า..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะจ๊ะ