ดีแตก…หลอกขายหมูแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

แล้วความหวังของราคาเป้าหมายก็ล่มสลาย นักลงทุนที่ถือหุ้น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จึงกลายเป็นเทวดาตกสวรรค์ชนิดกลับตัวไม่ทัน

โถ…พี่เล่นประกาศงบค่ำก่อนวันหยุดยาว ที่กำไรสุทธิลดฮวบ ไม่ใช่แค่ต่ำกว่าคาดเท่านั้น แต่ยังลดจากระยะเดียวกันปีก่อนเสียอีก

กำไรสิ้นงวด 31 มีนาคม 2559 อยู่ที่ระดับ 3,023.66 ล้านบาท เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน 3,839.40 ล้านบาท ลดลงมากถึง 21.25%

หากลงลึกในรายละเอียด รายได้จากการขายลดลง จากปีก่อนที่ 53,861.82 ล้านบาท มาเหลือแค่ 42,575.45 ล้านบาท ไม่ใช่ปัญหา เพราะกำไรขั้นต้นเพิ่มมาก จากระดับ 3,703.81 ล้านบาท มาเป็น 4,574.21 ล้านบาท แสดงว่ามูลค่าเพิ่มโดดเด่น แต่ที่เสียหายไปคือ รายได้อื่นๆ ลดลง (ไม่มีกำไรพิเศษ แต่มีรายจ่ายพิเศษแทน) ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงานหรือ EBITDA ลดลงฮวบฮาบ จากระดับเมื่อไตรมาสแรกปีก่อน ที่ 5,251.34 ล้านบาท มาเหลือแค่ 2,379.48 ล้านบาท

กำไรที่หดหายนี้ จะบอกว่าผู้บริหารไม่มีฝีมือ หรือมือตกก็คงไม่ใช่ เพราะส่วนที่หายไปนั้นคือรายได้พิเศษ และการเพิ่มรายจ่ายพิเศษเข้ามา ซึ่งเป็นแค่…มายาของตัวเลขนั้นเอง

อย่างนี้ ใครที่ขายหุ้น IRPC เมื่อวานนี้ ถือว่าขายหมู…ปราศจากข้อกังขาใดๆ

คำชี้แนะของนักวิเคราะห์ที่ออกมาในเชิงลบตบท้ายงบที่กำไรลดต่ำลง ยังออกมาทำให้ขวัญนักลงทุนกระเจิงมากขึ้นอีกว่า กำไรที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบต่อไตรมาส ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการบันทึกผลประโยชน์ทางภาษีเงินได้คาดว่าจะมีการใช้ประโยชน์จาก Loss carry forward และมีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ในส่วนของ core-earnings…พูดง่ายๆ ว่าฟลุกน่ะแหละ

นอกจากนั้น ยังมีการสำทับเพิ่มด้วยว่า  ผลประกอบการในไตรมาส 2 นี้ ยังย่ำแย่ต่อไปเพราะมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงไปอีก สวนทางกับราคาหุ้นที่ผ่านมาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้ราคาหุ้นเริ่มเต็มมูลค่า…จึงแนะนำใหม่ว่า ราคาเป้าหมายสิ้นปี น่าจะอยู่ที่ระดับ 5.5 บาท

คำชี้แนะดังว่า ทำให้ราคาหุ้น IRPC วานนี้ ร่วงเป็นใบไม้หลุดขั้วเลยทีเดียว ปิดที่ 4.82 บาท ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

ตอนที่จะเชียร์แขก ก็บอกว่าดีงั้น…ดีงี้ แต่เมื่อบทจะทุบโหดขึ้นมาก็มีเหตุผลอีก…นี่คือนักวิเคราะห์ผู้แล้งน้ำใจ

สุกฤตย์ สุรบถโสภณ เอ็มดีใหญ่ ที่พยายามออกมาบอกว่า อนาคตของ IRPC จะไม่มีปรากฏการณ์แบบอดีตอีก เพราะกำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่กำไรเป็นกอบเป็นกำ…คงต้องปวดตับกันต่อไป

เช่นกันกับบรรดานักลงทุนที่ถือหุ้นIRPC สูงกว่า 5.00 บาท…เพราะคงต้องร้องเพลงเก่าๆ อย่าง The Long and Winding Road ของ The Beatles กันต่อไป

ต่างกันเพียงแต่ว่า ยามนี้ หุ้น IRPC ไม่ได้มีสภาพเป็นหุ้นนอกสายตา และยังต้องอยู่ในจอเรดาร์ของนักลงทุนกันอย่างจริงจัง เนื่องจากหากดูจากงบการเงิน ถือว่า กำไรกลับมาโดดเด่นแล้ว เพียงแต่อาจจะมีบางรายการมาบดบังให้ดูน่ารำคาญบ้างเท่านั้น

ไม่มีรายการ “กินยาผิดซอง” เกิดขึ้นแน่นอน เหตุผลก็…เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ IRPC ผ่านขวากหนามมาสารพัดหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ในการรักษาบาดแผลเรื้อรังยาวนานในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญโชกโชน

โดยเฉพาะ ‘โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาด หรือ Delta’ และ ‘โครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ หรือUHV’ ภายใต้กรอบลงทุนตามโครงการฟีนิกส์ ซึ่งทำให้ IRPC ลบปมด้อยเรื่อง ‘ความสามารถในการแข่งขันต่ำ’ ที่เคยถือเป็น ‘จุดตำหนิเรื้อรัง’ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับบริษัทที่อยู่ในครอบครัว ปตท.

การไม่ต้องพึ่งตัวเลข “กำไรพิเศษ” มาอุดงบสิ้นงวดซ้ำซากอีก แต่มี “กำไรจากการดำเนินงาน” โชว์เนื้อๆ เป็นคำยืนยันได้ชัดเจน

ใครที่ขายหมูเมื่อวานนี้…ยังไม่ถือว่าสายเกินไป เพราะนี่คือเวลาซื้ออย่างแท้จริง…

ไม่เชื่อ ห้ามลบหลู่…อิ อิ อิ