พื้นฐาน?!…ไม่ต้องแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
บริษัทจดทะเบียน ชื่อคล้ายญี่ปุ่น แต่สัญชาติไทยอย่าง บริษัททาคูนิกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI รายงานผลประกอบการงวดไตรมาสแรกไปแล้ว ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิน่ารักน่าชัง 0.93 ล้านบาท (หรือ 9.3 แสนบาท) หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.0012 บาท จากรายได้ที่ทรงตัว (ลดลงเล็กน้อย 293.32 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน ที่ 309.39 ล้านบาท)
บริษัทจดทะเบียน ชื่อคล้ายญี่ปุ่น แต่สัญชาติไทยอย่าง บริษัททาคูนิกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI รายงานผลประกอบการงวดไตรมาสแรกไปแล้ว ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิน่ารักน่าชัง 0.93 ล้านบาท (หรือ 9.3 แสนบาท) หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.0012 บาท จากรายได้ที่ทรงตัว (ลดลงเล็กน้อย 293.32 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน ที่ 309.39 ล้านบาท)
กำไรสุทธิที่จิบจ๊อยนี้ เทียบกับไตรมาสแรกปีก่อนที่ 28.41 ล้านบาท ถือว่าน่าผิดหวัง และถดถอยลงอย่างชัดเจน
รายได้และกำไรที่ร่วงโรยนี้ สะท้อนข้อเท็จจริงของธุรกิจของ TAKUNI ได้ดีโดยไม่ต้องบรรยายเพิ่มเติมว่าช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจเดิมในเรื่องแก๊สและบริการนั้น กำลังพ้นยุคไปแล้ว แต่ยังหาธุรกิจใหม่ที่เป็น “วัวให้น้ำนมเป็นทองคำ” ยังไม่ได้
รายได้รวมที่ลดลง เทียบกับต้นทุนขายที่ทรงตัวเท่ากับปีก่อนเป๊ะๆ (หากไม่นับตัวเลขหลังจุดทศนิยม) 262.70 ล้านบาท ทำให้กำไรขั้นต้นและ EBITDA ร่วงลงเป็นลูกโซ่…แต่ความหวังที่เสี่ย ประเสริฐตรีวีรานุวัฒน์ พร้อมกับลูกสาวคนเก่ง นางสาวนิตาตรีวีรานุวัฒน์ และกรรมการบริษัท เคยวาดฝันเอาไว้เรืองรองคือ การลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล กลายเป็นสวรรค์ล่ม
การลงทุนในกิจการไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าว ที่ทำให้ผู้ถือหุ้นของ TAKUNI ได้ประจักษ์กับการเพิ่มทุนมโหฬารจากเดิม 200 ล้านบาทเป็น 600 ล้านบาท (เป็นหุ้นสามัญ 200 ล้านหุ้นขายผู้ถือหุ้นเดิมหุ้นละ 1.00 บาทส่วนวอร์แรนต์แจกฟรี 200 หน่วยเพื่อแปลงสิทธิได้หุ้นสามัญ 1 ต่อ 1 ในราคาแปลงสิทธิ TAKUNI-W ที่ 2 บาท)เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มากถึง 200% เพื่อที่จะเปิดทางให้มติคณะกรรมการบริษัทบรรลุเป้าหมายในการเข้าซื้อหุ้น 45% มูลค่า 140 ล้านบาทในบริษัท เวลล์โคราช จำกัด ต่อจากบริษัทรัชฎาพาวเวอร์จำกัดโดยเวลล์โคราชเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าโดยใช้เปลือกไม้และเศษไม้เป็นวัตถุดิบมีกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์
การลงทุนดังกล่าว เสี่ยประเสริฐยืนยันว่า จะมีการบันทึกรายได้เข้า TAKUNI ทันที เพราะเวลล์ โคราช ได้ดำเนินการขายไฟเชิงพาณิชย์หรือ COD ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 สำหรับสัญญาสัมปทานขายไฟฟ้าจำนวน 8 เมกะวัตต์เป็นระยะเวลา 5 ปีต่อสัญญาได้ครั้งละ 5 ปีซึ่ง “จะทำให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจใหม่คือธุรกิจผลิตและขายไฟฟ้าซึ่งจะทำให้มีรายได้มั่นคงและเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัท”
หากเป็นไปตามที่เสี่ยประเสริฐกล่าวอ้าง งบไตรมาสแรกของปี 2559 นี้…จะต้องมีการบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน เวลล์ โคราชในงบการเงินของ TAKUNI ด้วยอย่างมีนัยสำคัญ ตามเงื่อนไขบันทึกบัญชีเพราะถือหุ้นมากถึง 45%
แต่…ขอประทานโทษ ตัวเลขส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนของบริษัทร่วม กลับปรากฏตัวเลขติดลบ 6.793 ล้านบาท แสดงว่าที่เคยคุยเอาไว้ว่าจะมีรายได้และกำไรทันทีนั้น…มันไม่เป็นไปตามที่พูดเอาไว้
พลาดเป้าหมายชนิดตรงกันข้ามเลยทีเดียว
ในมุมของธุรกิจแล้ว เท่ากับ Star (ธุรกิจดาวรุ่ง) ได้กลายเป็น Dog (ธุรกิจถ่วงรั้งความเจริญ) ไปเสียฉิบ…พลิกความคาดหมาย
คนที่จะต้องตอบคำถามว่า ทำไม…กำไรในการลงทุนกลายเป็นขาดทุน แบบสาละวันเตี้ยลงๆๆๆ หรือมีการเล่นซ่อนหาตัวเลขกำไรขาดทุนอยู่ที่ไหน…จึงเป็นภาระบนบ่าของเสี่ยประเสริฐ และลูกสาวคนเก่งที่เรียนจบการเงินจากอังกฤษอย่างนางสาวนิตา…ซึ่งก็ควรตอบในเร็ววันเพราะงานนี้คุยเอาไว้เยอะก่อนการเพิ่มทุน
ก่อนประกาศเพิ่มทุนเมื่อเดือนตุลาคม ราคาหุ้นของ TAKUNI ถูกดันขึ้นไปตามสัญญาณทางเทคนิค และตามเสียงของคนเชียร์แขก(และติดในรายชื่อหุ้นติดอันดับหัวแถว Trading Alert ของตลาดมาเกือบตลอดปี 2558) จนสูงถึง 13.60 บาท เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ด้วยค่าพี/อีของ TAKUNI ล่าสุดอยู่ที่ 106 เท่า และก่อนหน้านั้นราคาก็วิ่งขึ้นไม่มีขาลงเลยทั้งที่ยามนั้นมีอัตรากำไรสุทธิต่ำเพียงแค่ 5.60%
การเพิ่มทุนในเดือนตุลาคมโดยมีเหตุผลชนิดเสียงดังฟังชัดจากเสี่ยประเสริฐว่า “ก็ผมมีเงินเท่านี้ ไม่ต้องการก่อหนี้ ซื้อได้แค่ราคา 1 บาท ก็เพิ่มทุนแค่ 1 บาท” ผ่านไปได้ด้วยดี ก่อนที่ราคาหุ้นจะปรับฐานลงมาอยู่ที่ระดับ 3 บาทเศษในปัจจุบัน
กำไรที่น่าผิดหวังของ TAKUNI ทำให้พี/อีในอนาคตจะต้องพุ่งแรงกว่าระดับปัจจุบันที่ระดับ 69 เท่า คำถามจากนี้ไปก็คือ TAKUNI-W ที่ตอนนี้ซื้อขายในตลาดที่ระดับ 1.12 บาท เทียบกับราคาหุ้นเหนือ 3.70 บาท คุ้มค่าสำหรับการแปลงสิทธิที่ราคา 2 บาทต่อหุ้นหรือไม่ในอนาคต
สำหรับขาประจำของหุ้น TAKUNI อาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหุ้นตัวนี้ อย่างที่รู้กันดี เคลื่อนไหวโดยไม่สนใจกับพื้นฐานมาตั้งแต่แรก…ทุกคนรู้ดีว่านี่คือเกมเก็งกำไรที่เกิดจากความคาดหวังในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต…เสมือนหวังกินน้ำบ่อหน้า…อยู่แล้ว
ขอให้เส้นกราฟสวยก็โอเคแล้ว ที่เหลือก็ “ชั่งหัวมัน”…จริงหรือไม่
ต้องถามเสี่ยประเสริฐ เท่านั้น…แล้วคำตอบที่ได้ อาจจะเต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลานสารพัดชนิดเกลื่อนโต๊ะ
อิ อิ อิ