ระบบดี…ซะอย่างแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
วันนี้บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ไม่มีนายวิทูร สุริยวนากุล ผู้ริเริ่มก่อตั้งและบุกเบิกธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างแบบโมเดิร์นเทรดบริหารอีกต่อไปแล้ว แต่ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้สะท้อนให้เห็นว่า บุคคลไม่สำคัญเท่ากับระบบที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น
วันนี้บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ไม่มีนายวิทูร สุริยวนากุล ผู้ริเริ่มก่อตั้งและบุกเบิกธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างแบบโมเดิร์นเทรดบริหารอีกต่อไปแล้ว แต่ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้สะท้อนให้เห็นว่า บุคคลไม่สำคัญเท่ากับระบบที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น
การลาออกจากทุกตำแหน่งของนายวิทูร ทำให้ประธานกรรมการบริษัทอย่าง นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ต้องมาออกแถลงข่าวในฐานะโฆษกจำเป็นแทน ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะนอกจากความเก๋าของท่านประธานอาชีพคนนี้แล้ว…งบการเงินยังคงสดสวยมากกว่าเดิมอีก
กำไรสุทธิไตรมาสแรกของ GLOBAL อยู่ที่ 451.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 216.80 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น
กำไรที่พุ่งแรงมาจากรายได้จากการขายในไตรมาสแรกที่พุ่งเกินกว่า 14.17% มาอยู่ที่ 5,154.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,515.02 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ เพราะมาจากการเปิดสาขาเพิ่ม 4 สาขา และการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม ขณะที่รายได้อื่นในไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 172.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
กำไรที่เติบโตมากกว่ารายได้ ถือว่าเป็นฝีมือในการบริหารจัดการที่ชัดเจน แต่มีคำถามว่า กำไรและรายได้ที่เติบโตอย่างสวนกระแสเศรษฐกิจไทยยามนี้ เป็นเรื่องบังเอิญชั่วคราว หรือยั่งยืนยาวนาน
คำตอบคือ น่าจะเป็นการดำเนินแผนงานอย่างระวังรอบคอบมากกว่า เพราะแผนการสร้างความเติบโตให้กับ GLOBAL ในอนาคตยังไม่ได้หยุดยั้ง ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 2 ที่คาดว่าจะมีการปรับตัวดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่ายอดขายรวมจะเติบโตประมาณ 14% จากการเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา ในเดือนมิถุนายน 2559 ได้แก่ สาขาปทุมธานี, สาขาศาลายา และสาขาสิงห์บุรี ขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิมคาดว่าจะยังคงทรงตัวจากไตรมาส 1/59 ที่เติบโต 3-4%
รวมความแล้วในปี 2559 คาดว่า GLOBAL จะยังคงเติบโตต่อไปไม่ว่าวิทูร สุริยะวนากุล จะไม่ได้มีบทบาทบริหารเช่นเดิมในยุคก่อตั้งอีกต่อไปแล้ว
มีการประเมินว่า ปี 2559 GLOBAL จะมีรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากตัวเลขปีก่อน 17,410.93 ล้านบาท โดยจะมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.50% และ อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6-7% เหตุผลคือ การลงทุนของภาครัฐช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัททางอ้อม ซึ่งทำให้บริษัทที่เกี่ยวข้องและประชาชนมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น จนมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบของบริษัทให้สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังเพิ่มประเภทสินค้า โดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่ให้มาร์จิ้นสูงเข้ามาขาย คิดเป็นสัดส่วน 13-14% ของสินค้าที่บริษัทขายทั้งหมด และตั้งเป้าเพิ่มสินค้านำเข้าเป็น 20% ในอนาคต รวมทั้งจากการที่บริษัทมีแผนเปิดสาขาเพิ่มทั้งปี 12 สาขา จากในปัจจุบันมี 38 สาขา
ทั้งนี้ ยังไม่นับการขยายตัวในต่างประเทศที่กำลังเริ่มดำเนินการทั้งในสปป.ลว และเมียนมา หรือกัมพูชา ที่เพิ่งจะเริ่มต้น
นั่นหมายความว่า นับจากนี้ไป สิ่งที่วิทูร วางรากฐานเอาไว้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ราบรื่นอย่างเป็นระบบและมืออาชีพ…ผู้ถือหุ้นสบายใจ นอนหลับฝันดี และมั่นใจอนาคตของ GLOBAL ว่าจะไม่ทรุดฮวบไปเพราะใครคนใดคนหนึ่งจากไป
แม้จะน่าเสียดาย สำหรับนายวิทูร ซึ่งก่อตั้งและปลุกปั้น GLOBAL มายาวนานกว่า 20 ปี ด้วยกลยุทธ์ชนบทล้อมเมืองที่แหวกแนวจนประสบความสำเร็จ แต่ต้องมากลายเป็น ”กิ้งกือหกคะเมน” จากความผิดพลาดเล็กน้อยที่ส่งผลต่อธรรมาภิบาลของบริษัท…กลายเป็นตราบาปยาวนาน
นายวิทูรพร้อมด้วยบุคคลที่เกี่ยวข้องคือ ลูก 2 คน และ กรรมการตรวจสอบ นายสุรศักดิ์ จันโทริ ถูก ก.ล.ต.กล่าวหาว่า อาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้น GLOBAL เข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบต่อบุคคลภายนอก ระหว่างที่กลุ่มซิเมนต์ไทยทุ่มเงินมูลค่า 10,000 ล้านบาท ซื้อหุ้นเมื่อหลายปีก่อน ทั้งจากกลุ่มนายวิทูรบางส่วน ซื้อหุ้นเพิ่มทุนซึ่ง GLOBAL จะออกและขายแบบเฉพาะเจาะจง ในราคาหุ้นละ 14 บาท และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์บางส่วน ทั้งหุ้นสามัญที่ราคา 14 บาทต่อหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ที่ราคา 9.30 บาท
ผลลัพธ์ของการกล่าวโทษและ “รับสารภาพครึ่งราคา” ทำให้นายวิทูรต้องลาออกจากทุกตำแหน่งบริหารใน GLOBAL กะทันหัน จากผลพวงของพฤติกรรมที่เข้าข่าย “สิงโตกินหนอน” อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้…เป็นการเสียสละตนเอง ด้วยการเลือกลาออกเพื่อยุติปัญหาทั้งปวง ยินยอมล้างมือในอ่างทองคำอย่างบอบช้ำ
อนาคตของ GLOBAL ในวันที่ไม่มีนายวิทูรที่ยังไปได้สวย ถือว่าเกิดจากรากฐานที่แข็งแกร่งดุจศิลา…เพื่อจะเดินหน้าฝ่าฟันการแข่งขันต่อไปที่นับวันจะเข้มข้นและเต็มไปด้วยความท้าทายนานัปการ
พื้นฐานดีซะอย่าง…สบายไป 8 อย่าง
อิ อิ อิ