ปรากฏการณ์ใหม่!โมนิก้าและทีมงาน

*ไม่รู้ว่า “โมนิก้า” มโนไปเองหรือเปล่า? ถึงมองหุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานล่าช้า กลายเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแจ่มแจ้งกว่าบริษัทที่ประกาศเจ้าแรกๆ จึงขอโฟกัสไปที่เรื่องกำไรเป็นลำดับแรก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เหมือนเป็นการเปิดช่องให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น และยังเป็นการแต่งแต้มสีสันให้กับตลาดหุ้นไทยมากขึ้นอีกด้วยนะคะ


*ไม่รู้ว่า “โมนิก้า” มโนไปเองหรือเปล่า? ถึงมองหุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานล่าช้า กลายเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแจ่มแจ้งกว่าบริษัทที่ประกาศเจ้าแรกๆ จึงขอโฟกัสไปที่เรื่องกำไรเป็นลำดับแรก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เหมือนเป็นการเปิดช่องให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น และยังเป็นการแต่งแต้มสีสันให้กับตลาดหุ้นไทยมากขึ้นอีกด้วยนะคะ

*เนื่องจากช็อตที่นำเล่นในเที่ยวนี้มีทั้งเรื่อง “สมหวัง” และ “ผิดหวัง” ซึ่งทำให้คนที่อ่านเกมออก มีจังหวะปล่อยของในราคาสูง พร้อมกับทำให้เหล่าผู้เล่นไปรอช้อนซื้อเมื่อหุ้นอ่อนตัวลงมา ซึ่งเป็นบรรยากาศเดิมๆ ที่เห็นกันมาแล้วหลายรอบด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงชินชากับการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนี จนสุดท้ายลงเอยด้วยการปิดที่ระดับ 1,397.63 จุด บวกไป 2.94 จุด ด้วยมูลค่า 4.82 หมื่นล้านบาทไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่ต้องไปสืบเสาะ “คนซื้อ คนขาย” ให้เสียเวลาเคาะหุ้น เพราะวัฏจักรของการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต่างจากรอบก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” จึงขอเม้าท์ถึงหุ้นรายตัวที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกตื้นตันใจอย่างแรงว่า หุ้นที่แอบเชียร์ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจจอร์จ จนเชื่อว่า โอกาสในการทำกำไรในงวดถัดไปจะดียิ่งขึ้นไปอีก จึงเป็นจังหวะของการทยอยสะสมหุ้นไว้ในพอร์ตนะจะบอกให้

*โดยเฉพาะในรายของเจ้าจำปี THAI วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า “เฮียสมคิด” พูดอะไรก็เป็นอย่างนั้น เคยบอกให้ทุกคนรู้ว่า กำไรแน่นอน พร้อมกับนั่งยัน นอนยัน ตะแคงยัน สุดท้ายก็มาตรงตามคำบอกเล่าทุกอย่าง “โมนิก้า” จึงขอปรบมือดังๆ ให้เฮียสักสามสี่ยก (พูดได้อย่างสบายใจสุดๆ โดยไม่ต้องกลัว ก.ล.ต.กับ ตลท. เล่นงาน แต่ถ้าเป็นบริษัทอื่น ป่านนี้โดนเล่นงานอ่วม) ขณะที่ราคาหุ้นก็ตอบรับเรื่องดังกล่าวด้วยการลงมาปิดที่ 15.40 บาท ลบไป 0.40 บาท เดี๊ยนเม้าท์ได้แค่ว่า อยากรวยหุ้นตัวนี้ ต้องตามดูเฮียแกพูดนะจ๊ะ

*สำหรับในรายของ SC ภายใต้การบริหารงานของลูกเขยคนโปรด (ลูกชายไม่เอาอ่าว?) “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสนใจสุดๆ เพราะการขยับขึ้นมาปิดที่ 3.22 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.50% มันเกิดจากแรงขับเคลื่อนผลการดำเนินงานไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 200%  จนหุ้นมีโอกาสขึ้นไปทดสอบกรอบราคาด้านบนที่ 3.40 บาทอีกรอบแบบนี้..พ่อตาแฮปปี้ไหมค่ะ

*อีกหนึ่งตัวจี๊ดที่ “โมนิก้า” อยากให้ทุกคนได้เฝ้าดูในยามนี้ก็คือ SEAFCO บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับฐานราก วันนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า หุ้นเริ่มขยับขึ้นเมื่อใด ช่วงนั้นงานเดินค่อนข้างดี และเมื่อเหลือบดูการเทรดหุ้นเที่ยวนี้อยู่ที่ P/E 19 เท่า ย่อมเป็นจังหวะให้นกรู้กระโจนเข้าเก็บหุ้นเพิ่มเติม เพราะเมื่อคิดจากกำไรที่ออกมาดี หุ้นน่าจะกลับขึ้นไปทดสอบยอดเดิมบริเวณ 12-13 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 9.75 บาทเองนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SUPER หลังจากประกาศผลการดำเนินงานพลิกมีกำไร “โมนิก้า” ก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มขึ้นมาในทันที แถมยังมาเจอดอกที่ 2 เรื่องจำนวนไฟฟ้าภายในสิ้นปีจะแตะ 1,000 เมกะวัตต์ และยังมีเรื่องราคาหุ้นยังเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะแบบนี้ วันนี้ถึงต้องรีบสอยหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตตั้งแต่เนิ่นๆ หลังหุ้นยังย่ำเตาะแตะอยู่ที่ 1.76 บาท บวกไป 0.01 บาทเท่านั้นเองค่ะ

*ส่วนในรายของพระเอกตัวจริง AJD ก็กลับมาสวมบทฮีโร่แบบไม่มีอะไรต้องกังขา หลังประกาศกำไรในงวดแรกแตะระดับ 80 บาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนทำได้แค่ 10 ล้านบาท หรือเติบโต 7 เท่าตัว มันเป็นจังหวะที่กระตุ้นให้นักเล่นต้องหันมามองหุ้นตัวนี้อีกรอบ หากนำเรื่องดังกล่าวมารวมโปรเจ็กต์อาลีบาบาที่กำลังเวิร์กสุดๆ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับหุ้นตัวนี้เพิ่มขึ้นเป็นกอง และคงเป็นสาเหตุให้ “เสี่ย ย.” เก็บหุ้นตัวนี้ไว้เป็นอย่างดีล่าสุดหุ้นอยู่ที่1.15 บาท ลบไป 0.02 บาท มันเป็นจังหวะที่ต้องเริ่มคิดกันแล้วนะคะ

 *เหมือนกับในรายของหุ้นที่ทำธุรกิจท่อ WIIK ประกาศกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 140%  แถมยังมีโปรเจ็กต์มูลค่ามหาศาลอยู่ในมือแบบนี้กระมั้ง ราคาหุ้นถึงไม่เคยอ่อนตัวหลุดแนวรับ 2.80 บาทสักที อีกทั้งที่ผ่านมาเคยเกิดปรากฏการณ์ลักษณะนี้มาทั้งหมด 4 ครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้มองการขึ้นมาปิดที่ 2.98 บาท บวกไป 0.02 บาท ด้วยมูลค่า 65 ล้านบาท มันเหมือนเป็นการขยับหาเป้า 3.20 บาทอีกรอบพะยะค่ะ

*ตบท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่ BM ประกาศตัวเลขกำไรไตรมาส 1 ทั้งสิ้น 13 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.59 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 2,000% พร้อมกับมีการคาดการณ์กำไรในปี 59 น่าจะขึ้นไปถึงระดับ 100 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองช็อตนี้ไม่ธรรมดา เพราะเมื่อคำนวณด้วยการนำจำนวนหุ้น 400 ล้านหุ้นมาหากำไรต่อหุ้น ก็ได้ตัวเลขอยู่ที่ระดับ 0.25 บาท หลังจากนั้นนำมาเทียบกับ P/E 30 เท่า (ครึ่งหนึ่งของตลาด mai) ราคาเป้าหมายก็จะอยู่ราวๆ 7.50 บาท วันนี้ก็น่าจะได้เห็นการไล่ราคากันอย่างคึกคัก  เพราะของดีถูกปล่อยออกมาให้เห็นกันแบบจะจะน่ะสิ

Back to top button