หุ้น ‘ทีเอ็มบี’ ลูบคมตลาดทุน
วานนี้หุ้นแบงก์ทีเอ็มบี(TMB) ราคาปิดตลาดบวกขึ้นมา 0.12 บาท ปิดที่ 2.32 บาท เปลี่ยนแปลง 5.45%
ธนะชัย ณ นคร
วานนี้หุ้นแบงก์ทีเอ็มบี(TMB) ราคาปิดตลาดบวกขึ้นมา 0.12 บาท ปิดที่ 2.32 บาท เปลี่ยนแปลง 5.45%
เห็นโบรกฯ เขาบอกว่า เป็นการปรับขึ้นทางเทคนิค
เพราะที่ผ่านมาหุ้น TMB อยู่ในภาวะ Over sold ก็คือขายเว่อร์เกินไปนั่นแหละ ทำให้ราคาลงมาเร็วมาก และลงไปต่ำถึง 2.18 บาทต่อหุ้นเมื่อช่วงอาทิตย์ก่อนหน้านี้
ราคาหุ้นลงไปต่ำสุดในรอบ 2 ปี 4 เดือน
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นลงมาเร็ว ก็มาจากปัจจัยของหุ้นในกลุ่มธนาคาร และของ TMB เอง
หุ้นกลุ่มธนาคารหลังแจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/59 กันออกมา
ปรากฏว่า ราคาปรับลงมาหลายตัว
นั่นเพราะมีปัจจัยเกี่ยวกับเรื่องที่นักลงทุนกังวลกับปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 นี้อีกหรือไม่
หากเพิ่ม…. ก็หมายความว่า ต้องตั้งสำรองหนี้ฯ กันเพิ่มอีก
ยังไม่รวมประเด็นเรื่องส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก
อย่างที่รับข้อมูลกันไปแล้วว่า ธนาคารพาณิชย์ต่างปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทลงมา
แต่ไม่ได้ปรับลดเงินฝาก
ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยหรือที่เรียกกันว่า NIM:Net Interest Margin มันแคบลง และจะทำให้กำไรสุทธิที่จะต้องได้ก็พลอยลดวูบลงไปด้วย
ทีนี้บรรดานักวิเคราะห์เขาก็มีการคำนวณกันสิ
เช่น ธนาคารแห่งไหน จะได้รับผลกระทบอย่างไรกับลดเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ และไม่ลดดอกเบี้ยเงินฝาก
และแบงก์ทีเอ็มบี ก็เป็นหนึ่งในแบงก์ที่ถูกระบุว่า จะได้รับผลกระทบ ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การในการหารายได้จากค่าธรรมเนียมเข้ามาช่วยอย่างไร
ทีเอ็มบียังมีประเด็นที่ต้องติดตามอีก 1–2 เรื่อง
นั่นคือ ในช่วงกลางปีนี้คุณบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะอยู่ในตำแหน่งครบอีก 1 สมัย(รวมเป็น 2 สมัย หรือ 8 ปี)
คุณบุญทักษ์นั้น น่าจะทำงานไปถึงปลายปีนี้
และซีอีโอคนนี้ก็เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า เขาจะไม่ต่ออายุในตำแหน่งนี้แล้ว
และเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นไปตามที่คุณบุญทักษ์ บอกเอาไว้ เพราะขณะนี้กระบวนการสรรหา ซีอีโอคนใหม่ ของทีเอ็มบี ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ซีอีโอคนใหม่ น่าจะเริ่มงานในกลางปีนี้ และคนคนนี้ ก็จะทำงานควบคู่ไปกับคุณบุญทักษ์ ถึงสิ้นปี 2559
แน่นอนว่า นักลงทุนต้องเฝ้าจับตาว่า ซีอีโอคนใหม่จะเป็นใคร ฝีไม้ลายมือสู้คนเก่าได้หรือไม่ และนโยบายการทำงานจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
คุณบุญทักษณ์ นั้น ให้ความสำคัญกับการ “ตั้งการ์ด” ให้แน่น
หรือจะเห็นว่าเงินกองทุนของทีเอ็มบี แกร่งยิ่งกว่ากำแพงเมืองจีน และตัวเลข Coverage Ratio ก็มากเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มธนาคาร รองจากแบงก์กรุงเทพ และแบงก์กรุงศรีฯ
เห็นไหมธรรมดาซะที่ไหน
ดังนั้น หากคนใหม่มารับไม้ต่อ แล้วนโยบายไม่เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก รวมถึงทำงานกับเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นใหญ่คือ กระทรวงการคลัง และกลุ่มไอเอ็นจี ได้ดี ก็ไม่น่ามีปัญหา(และคิดว่าจะไม่มีปัญหา)
อีกเรื่องของทีเอ็มบี และเป็นข่าวมานาน
นั่นก็คือ การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มผู้ถือหุ้น
เรื่องนี้ จริงๆ แล้วทั้งกลุ่มไอเอ็นจี และคลัง แม้ไม่ได้ยืนยันเป็นทางการว่า ต้องการขายหุ้น
แต่บรรดาบุคคลในแวดวงตลาดเงิน และตลาดทุน ต่างก็ค่อนข้างมั่นใจว่า ในที่สุดก็น่าจะขาย เพียงแต่ว่าต้องรอเวลา และราคาที่เหมาะสม และยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด
ทีเอ็มบีนั้น แม้ผลประกอบการจะออกมาดี แต่ก็มีปัจจัยอย่างที่ว่าเข้ามากดดันราคาเช่นกัน
หุ้นทีเอ็มบีนั้น ในช่วงที่ราคาปรับขึ้นไปมากกว่า 3.00 บาท จริงๆ แล้ว ราคาก็ยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของโบรกฯ หรืออาจจะมากกว่านิดหน่อย(กับเป้าหมายของบางโบรกฯ)
ส่วนตอนนี้โบรกฯ ปรับลดราคาเป้าหมายทีเอ็มบีลงมา ราคาก็ยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย หรือมีอัพไซด์อยู่
ผมกลับมาเขียนเรื่องทีเอ็มบีอีกครั้งเพราะว่า มีนักลงทุนที่รู้จักกันโทรมาหา และบางคนก็มีเขียนจดหมายเข้ามา เพื่อถามเรื่องหุ้นทีเอ็มบีกันเยอะ
เรื่องราวของทีเอ็มบีก็มีประมาณนี้