โล่งใจโมนิก้าและทีมงาน

*หากนักลงทุนเกาะติดสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างใกล้ชิดจะพบว่า การขึ้นลงของดัชนีในแต่ละสัปดาห์ ล้วนขึ้นอยู่กับตัวเลขเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขกำไร ตัวเลขราคาหุ้น ตัวเลขเศรษฐกิจ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับติดตามข่าวสารที่มีการนำเสนอตลอดเวลา เพราะเป็นตัวช่วยในการลงทุนที่ดีไงล่ะค่ะ


*หากนักลงทุนเกาะติดสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างใกล้ชิดจะพบว่า การขึ้นลงของดัชนีในแต่ละสัปดาห์ ล้วนขึ้นอยู่กับตัวเลขเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขกำไร ตัวเลขราคาหุ้น ตัวเลขเศรษฐกิจ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับติดตามข่าวสารที่มีการนำเสนอตลอดเวลา เพราะเป็นตัวช่วยในการลงทุนที่ดีไงล่ะค่ะ

*เห็นได้จากตัวเลข GDP ในไตรมาส 1 เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม จนมีการปรับเพิ่มประมาณการตัวเลขแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่จะทำให้อะไรหลายอย่างดีขึ้นอย่างแน่นอน วานนี้ถึงเห็นดัชนีไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 1,406.57 จุด บวกไป 8.94 จุด ด้วยมูลค่า 5.29 หมื่นล้านบาท มันเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องลุยเข้าไปเลย หากต้องการเล่นรอบนะคะ

*วันนี้ถึงต้องโฟกัสไปที่รูปแบบการเล่นเป็นแบบไหน? หากเป็นสไตล์บู๊เลือดท่วมจอ ต้องกำหนดจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน หากเป็นสไตล์บุ๋น ต้องกำหนดจุดขายทำกำไรให้ชัดเจน “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับเปลี่ยนสไตล์การเล่นไปเรื่อยๆ เพื่อความคล่องตัวในการลงทุน เพราะสิ่งที่ทุกคนรู้อยู่เต็มอกในช่วงนี้คือ มันต้องมองกันเป็นช่วงๆ ไม่สามารถมองอะไรยาวๆ ได้หรอกจ๊ะ

*เหมือนกับกรณีของ ADVANC กระชากขึ้นมาปิดที่ 159.50 บาท บวกไป 13 บาท หรือขึ้นไป 8.90% ด้วยมูลค่า 5 พันล้านบาท มันเป็นผลของความชัดเจนเรื่องการประมูล 4G ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ค่ายสีเขียวเป็นคนชนะการประมูลในราคา 7.50 หมื่นล้านบาทอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นเพียงเจ้าเดียวที่เข้าประมูล และผลดังกล่าวก็ทำให้เซียนสำนักต่างๆ มองผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทอยู่ตรงไหนออกน่ะสิ

*ผลดังกล่าวยังทำให้หุ้นแม่ INTUCH กระชากขึ้นมาปิดที่ 53.75 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 7.50% ด้วยมูลค่า 1.50 พันล้านบาท พร้อมกับออกตัวแรงว่า แม้ลูกจะมีภาระค่าใช้จ่ายค่าประมูล 4G แต่ลูกยังมีปัญญาจ่ายปันผลให้แม่ พร้อมกับสำทับเพิ่มเติมว่า ไม่ต้องห่วงฉัน! จึงกลายเป็นจังหวะที่มีลุ้นว่า หุ้นจะขึ้นไปถึงยอดเดิม 65 บาทอีกครั้ง หลังเปิดแก๊ปไว้ที่บริเวณ 55 บาท กับ 60 บาท ซึ่งตามตำราเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ต้องขึ้นไปปิดแก๊ป..ต่อจากนี้จะแรลลี่อีกครั้งนะคะ

*เม้าท์ถึงเรื่องแรลลี่ทีไร “โมนิก้า” อยากให้ดูหุ้น PTT PTTEP ไว้เป็นตัวอย่างในการลงทุนเที่ยวถัดไป เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ฟ้องว่า หุ้นจะวิ่งขึ้นไปหาจุดสมดุลด้วยตัวของมันเอง และเมื่อทุกอย่างถึงจุดต่ำสุดในการทำธุรกิจ ต่อจากนั้นจะเป็นจุดที่ทุกอย่างจะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นแม่พยายามฝ่าแนวต้าน 320 บาท แต่ราคาล่าสุดปิดได้แค่312 บาท บวกไป 5 บาท ส่วนหุ้นลูกพยายามฝ่าแนวต้าน 80 บาท แต่ทำได้แค่ปิดตรงบริเวณ 78 บาท บวกไป 2.50 บาท..มันน่าสนไหมล่ะค่ะ

*EA เป็นอีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์ถึงทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะเป็นหุ้นที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณภาพ ล่าสุดผลประกอบการไตรมาส 1 โตกว่า 20% และปี 59 จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เหตุไฉนหุ้นถึงรูดลงมาจากยอด 23 บาทแบบง่ายๆ อันนี้เป็นโจทย์ที่นักเล่นต้องถามใจตัวเองว่า หุ้นแบบนี้ควรซื้อไหม? และมองการเด้งขึ้นมาปิดที่ 21.60 บาท บวกไป 0.60 บาท เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องนี้อย่างไร?..งานนี้ไม่ต้องถามความเห็นเดี๊ยน เพราะคำตอบที่ทุกคนจะได้ก็คือ “ไม่ซื้อได้ไง?”…อิอิอิ

*เช่นเดียวกับในรายของ SCI หากดูตามท้องเรื่องที่ถูกปูพื้นมาเป็นเวลานาน “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ทำให้แฟนคลับได้หายใจโล่งคอ หลังพ่อหนุ่มนักบริหารงานรุ่นใหม่ประกาศโปรเจ็กต์มูลค่า 1.40 หมื่นล้านบาทอย่างเป็นทางการ แฟนคลับทั่วสารทิศเลยออกอาการวี้ดว้ายกระตู้วู้กันยกใหญ่ แถมเป็นการประกาศตอนปิดตลาดเสียด้วย สงสัยวันนี้ระเบิดระเบ้ออย่างแน่นอน ล่าสุดหุ้นนิ่งอยู่ที่ 9.90 บาท น่าสนไหมล่ะจ๊ะ

*ส่วนที่สร้างความผิดหวังอย่างร้ายแรง “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้น TPIPL ประกาศผลขาดทุนกว่า 50 ล้านบาท ทั้งที่นักวิเคราะห์ค่าย K เคยทำข้อมูลออกมาว่า น่าจะมีกำไรราว 400 ล้านบาท ก็เลยทำให้แมงเม่าหัวเสียกันเป็นทิวแถว เพราะพากันติดหุ้นบนยอดดอย พร้อมกับมีข่าวลือทางเสียๆ หายๆ ออกมาเป็นระยะว่า งานนี้เป็นการทำทางให้ เสี่ย น. ได้ออกของอย่างสบายใจแน่ๆ (จริงเท็จแค่ไหน ตามไปสืบกันเอาเอง) ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานร่วงลงมาปิดที่ 2.28 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 11.60% วอลุ่มทิ้งเพียบแบบนี้ สงสัยจะโงหัวขึ้นลำบากแล้วล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับ SOLAR ซึ่งวันนี้มีการพูดกันอย่างหนาหูว่า ก๊วนผู้ถือหุ้นใหญ่ก็เป็นนักเล่นหุ้นกันอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีการรวมตัวแบบเฉพาะกิจเกิดขึ้น พร้อมกับมีการวาดฝันโปรเจ็กต์อย่างสวยหรู ชี้นกเป็นนก..ชี้ไม้เป็นไม้ แต่เผอิญสิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นฝันสลาย บรรยากาศวงแตกเลยเกิดขึ้นก่อนกำหนด ชาวเผือกถึงเม้าท์กันว่า ฝนตกขี้หมูไหล..ล่าสุดหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 5 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่า 633 ล้านบาทแบบนี้ เขาเผือกกันว่า พี่หมอน่าจะรู้ดีสุด..จริงปะ!

Back to top button