EFORL บ่จี๊
หากดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น EFORL หรือ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า สถานการณ์ของบริษัทเริ่มถดถอยอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ความคืบหน้าในการทำธุรกิจความสวยความงามก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน
สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย
คุณนริศ จากรามอินทรา กรุงเทพฯ พูดถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ของหุ้น EFORL หรือบริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีผลขาดทุนกว่า 30 ล้านบาท ทั้งที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรกว่า 100 ล้านบาท มันทำให้ผมรู้สึกแย่กับหุ้นตัวนี้มากขึ้นในทันที เพราะที่ผ่านมาเคยเชื่อว่า ธุรกิจเสริมความงามจะไปได้สวย สุดท้ายกลับไม่เป็นเหมือนที่คาดคิดไว้เลยแม้แต่นิดเดียว จึงสงสัยว่า ในไม่ช้าคงมีรายการถังแตกเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่ทราบว่า อาจารย์เห็นด้วยกับความคิดแบบนี้ของผมไหมครับ
หากดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น EFORL หรือ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า สถานการณ์ของบริษัทเริ่มถดถอยอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ความคืบหน้าในการทำธุรกิจความสวยความงามก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน
ตรงนี้คือข้อเสียที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายหุ้นทิ้งอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเมื่อส่องดูงบการเงินแบบละเอียดจะเห็นว่า สินทรัพย์ที่ใหญ่ขึ้นมาพร้อมกับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน บริษัทจำเป็นต้องเบ่งกำไรให้ได้มากที่สุดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ที่ก่อไว้ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถของผู้บริหารมากพอสมควร(ดูตารางประกอบ)
ปี 55 | ปี 56 | ปี 57 | ปี 58 | |
สินทรัพย์รวม | 60.86 | 840.99 | 7,366.28 | 7,305.49 |
หนี้สินรวม | 29.54 | 143.22 | 5,417.06 | 4,307.47 |
ส่วนของผู้ถือหุ้น | 31.32 | 697.78 | 938.50 | 1,305.13 |
รายได้รวม | 87.20 | 170.76 | 1,490.21 | 4,530.03 |
กำไรสุทธิ | -65.43 | 26.46 | 240.73 | 210.39 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | -0.02 | 0.00 | 0.03 | 0.02 |
(หน่วย : ล้านบาท)
เมื่อความจริงปรากฏออกมาว่า ความสามารถในการทำกำไรไม่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อน และการเทรดหุ้น ณ ตอนนี้ก็อยู่ค่า P/E 25 เท่า ย่อมทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นกังวล เพราะเป็นการเทรดที่สูงเกินไป เมื่อเทียบกับผลงานงวดล่าสุดที่ออกมาขาดทุนหน้าตาเฉย
หากสถานการณ์ยังดำเนินแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อบริษัทในวงกว้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งตัวอาจารย์ไม่รู้เหมือนกันว่า กลุ่มผู้บริหารมีแผนกอบกู้ให้กิจการกลับมาทำกำไรอย่างยั่งยืนอย่างไร?
ในเมื่อสิ่งที่กำลังทำทุกวันนี้ ไม่ได้มีอะไรที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่กลับทำให้ผู้คนสงสัยมากขึ้นว่า ทำไมต้องมีการซื้อวุฒิศักดิ์เข้ามา ต่อจากนั้นก็ขายวุฒิศักดิ์ออกไป บวกกับมีคนตรงกลางเข้ามาเกี่ยวข้องอีกทอดหนึ่ง เรื่องราวเลยชวนปวดหัวกันไปใหญ่ เพราะผู้คนทั่วไปไม่รู้ว่า ดีลดังกล่าวจะก่อให้เกิดการรั่วไหลของเงินหรือเปล่า?
สรุปก็คืออาจารย์เห็นด้วยบนสมมุติฐานที่ว่า หากปล่อยให้สถานการณ์ของบริษัทย่ำแย่ต่อไปแบบนี้ สุดท้ายก็คงเกิดรายการถังแตกนะครับ
…
กราฟประกอบข่าว : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 19 พ.ค.59