SOLAR วงแตก

ประเด็นของที่อาจารย์ค่อนข้างให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ คงเป็นการรวมตัวของนักลงทุนที่ชอบเรียกตัวเองว่า “VI” เพราะนักลงทุนกลุ่มนี้ชอบถึงความสำเร็จในการลงทุนเป็นประจำ พร้อมกับเสนอแนวทางการลงทุนที่ทำให้เชื่อว่า คนอื่นก็สามารถสำเร็จเหมือนกับตัวเองได้


สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

คุณอดิพงษ์ จากมีนบุรี กรุงเทพฯ พูดถึงข่าวคราวของหุ้น SOLAR หรือ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือเยอะแยะไปหมด และส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างรุนแรง จึงสงสัยข่าวที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ว่า มีการแตกคอกันจริงไหม? ทั้งที่ 1 เดือนก่อนหน้านี้ เห็นเว็บไซต์บางแห่งยังเชียร์ให้เล่นหุ้นตัวนี้ ทำให้เชื่อว่า นี่เป็นเกมแหกตารายย่อยหรือเปล่า

 

ประเด็นของที่อาจารย์ค่อนข้างให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ คงเป็นการรวมตัวของนักลงทุนที่ชอบเรียกตัวเองว่า “VI” เพราะนักลงทุนกลุ่มนี้ชอบถึงความสำเร็จในการลงทุนเป็นประจำ พร้อมกับเสนอแนวทางการลงทุนที่ทำให้เชื่อว่า คนอื่นก็สามารถสำเร็จเหมือนกับตัวเองได้

น่าเสียดายที่โลกของความเป็นจริง ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ซึ่งเป็นผลมาจากรูปแบบการลงทุนที่แตกต่างกัน รวมถึงข้อมูลสำคัญบางอย่างที่เกี่ยวกับตัวหุ้น ก็กระจายไม่ทั่วถึงอย่างที่ควรจะเป็น ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นว่า VI บางคนมีกำไร และ VI บางคนก็ขาดทุน

 เหมือนกับกรณีของหุ้น SOLAR หรือ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) อาจารย์ถือเป็นช็อตที่บอกเล่าเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นอุทาหรณ์สอนใจเหล่านักลงทุนว่า เกมการเงินไม่เข้าใครออกใคร ขนาดกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เข้ามาใหม่ยังหักกันได้ ย่อมสะท้อนถึงตัวธุรกิจพลังงานทางเลือกไม่ได้ดีเหมือนกันทุกเจ้านะครับ

อาจารย์จึงขอยกข้อความท่อนหนึ่งขึ้นมาบรรยาย เพราะเนื้อหาในส่วนนั้นมีการพูดถึงอนาคตที่สดใสของหุ้น SOLAR  ซึ่งเป็นการกล่าวไว้ว่า หุ้นพลังงานทดแทนเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ เพราะ “ต้นทุนการผลิต” ของพลังงานทดแทนมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการผลิตไฟฟ้าแบบดั้งเดิม (พลังงานน้ำ พลังงานก๊าซธรรมชาติ พลังงานจากน้ำมันเตา) เริ่มสูงขึ้น จนในที่สุดจะเกิด “จุดตัด” ในอนาคต และอาจจะทำให้การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานจากแสงอาทิตย์มีอนาคตที่ดีขึ้น

ตรงนี้เป็นข้อมูลที่พูดกันแบบหยาบๆ ไม่ได้ลงในรายละเอียดว่า ต้นทุนในการทำธุรกิจไม่เหมือนกัน และโครงการที่กำลังจะทำนั้น มีคู่แข่งเข้ามาร่วมแบ่งปันกี่ราย หรือแม้กระทั้งเมื่อได้โครงการดังกล่าวมาแล้ว ต่อจากนั้นตัวบริษัทจะเบ่งกำไรได้หรือเปล่า?

นี่คือจุดแตกหักที่ทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่บางคนตัดขายหุ้นทิ้งทันที เพราะโปรเจ็คที่ร่วมกันลงขันนั้น ไม่เป็นไปตามแผน ซึ่งต้องรอให้ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง 1.นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี 2.นายนริศ จิระวงศ์ประภา 3.นายอัครเดช โรจน์เมธา 4.นายจีรเดช จงวัฒนาศิลป์กุล 5.นายนิพนธ์ สังวาลมานนท์ ออกมาเปิดเผยความในใจผ่านสื่อกันเอาเอง

หากไม่ชี้แจงอะไรออกมาอย่างเป็นทางการก็แสดงว่า มีปัญหาภายในเกิดขึ้นจริงๆ ส่วนจะเป็นการแหกตารายย่อยหรือเปล่า อันนี้ให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินกันเอาเองครับ

Back to top button