เคาะขวาเบาๆโมนิก้าและทีมงาน

*ช่วงนี้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยมีอารมณ์ตลกโปกฮาเหมือนสัปดาห์ก่อนๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า การไม่ทำตัวโอนอ่อนตามกระแสตลาดหุ้น มักทำให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” พลาดจังหวะขายหุ้นทำกำไรกันหลายรอบ แถมได้ยินข่าวร้อนที่ต่อสายจากทางไกลเม้าท์ให้ฟังว่า ขาใหญ่ก็โดนกันไม่ใช่น้อย! เพราะปรากฏการณ์แทงข้างหลังยังเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เนืองๆ น่ะสิ


*ช่วงนี้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยมีอารมณ์ตลกโปกฮาเหมือนสัปดาห์ก่อนๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า การไม่ทำตัวโอนอ่อนตามกระแสตลาดหุ้น มักทำให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” พลาดจังหวะขายหุ้นทำกำไรกันหลายรอบ แถมได้ยินข่าวร้อนที่ต่อสายจากทางไกลเม้าท์ให้ฟังว่า ขาใหญ่ก็โดนกันไม่ใช่น้อย! เพราะปรากฏการณ์แทงข้างหลังยังเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เนืองๆ น่ะสิ

*ด้วยเหตุนี้ถึงอยากให้แฟนคลับแก้ลำเหตุการณ์นี้ด้วยการพยายามเคาะหุ้นเก็บไว้บ้าง และบางครั้งไม่จำเป็นต้องรอให้หุ้นลงมาถึงแนวรับสำคัญ ก็สามารถเข้าเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตได้เหมือนกัน เพราะวงรอบที่เล่นเที่ยวนี้มันเป็นลักษณะ w-shape “โมนิก้า” ถึงพยายามให้คนที่ยังปักหลักเทรดหุ้นแบบไม่กลัวฟ้ากลัวฝน ลองปรับเปลี่ยนสไตล์เป็นแบบ “แย็บแล้วถอย” เพื่อสะสมคะแนนไปเรื่อยๆ เจ้าค่ะ

*ยิ่งดัชนีกระชากลงมาปิดที่ 1,385.86 จุด ลบไป 14.64 จุด ด้วยมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ยิ่งเป็นจังหวะในการเคาะขวาเบาๆ เพื่อสัมผัสถึงแรงซื้อที่เข้ามาในรอบนี้ว่าจะหนาแน่นเพียงใด ซึ่งเหมือนเป็นการคลำทางเพื่อเปิดช่องในการทำกำไรเมื่อดัชนียกตัวขึ้น เดี๊ยนถึงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ยังคงเป็นรูปแบบซ้ำไปซ้ำมา จึงไม่มีอะไรต้องคิดให้ปวดสมองอีกต่อไป..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะคะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของ PTT ในช่วง 1 เดือนครึ่ง พร้อมกับปรากฏสัญญาณแบบ M-Shape โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 280-320 จุด แถมรอบที่ผ่านย่อลงมาแตะระดับ 290 จุดแล้วเด้งขึ้นไปหายอดด้านบนในทันที ขณะที่ราคาล่าสุดหุ้นยืนอยู่ที่ระดับ 303 บาท ลบไป 8 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.96 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงถามว่า สมควรที่จะเคาะขวาแบบชิวๆ ไหมล่ะจ๊ะ

*อีกหนึ่งกรณีที่มีลักษณะคล้ายกัน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ BEM เพราะเกมหุ้นเที่ยวนี้ถูกออกแบบให้เป็นการเข้าทำแบบรวดเร็ว ไม่ต้องพิจารณาอะไรมากมาย หลังเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า เหตุผลที่ใช้ในการ “ขายหุ้น” หรือ “ซื้อหุ้น” พอเดาได้ว่า มันมาจากเรื่องรายได้เป็นหลัก! จึงต้องถามกันอีกครั้งว่า การที่หุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 6.20 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่า 1.17 พันล้านบาท มันถึงจังหวะเคาะเบาๆ หรือยัง? เพราะพวกเราก็รู้กันอยู่แล้วว่า กำไรปีนี้จะออกมาเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์นี่หน่า!

*เช่นเดียวกับในรายของ IRPC เดี๊ยนรู้ เขารู้ เธอรู้ ทุกคนรู้ว่า ความสามารถในการทำกำไรในอนาคตจะดีขึ้น แต่ราคาหุ้นยังไม่สามารถวิ่งฝ่าแนวต้าน 5.30 บาทขึ้นไปได้สักที! หากนับรวมเหตุการณ์ในครั้งนี้เข้าไปด้วย นี่ถือเป็นครั้งที่ 4 ในการกลับมาสะสมแรงซื้ออีกรอบ ซึ่งมีจุดแนวรับสำคัญอยู่ด้วยกัน 2 จุดคือ 4.80 บาท กับ 4.70 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 4.88 บาท ลบไป 0.08 บาท ด้วยมูลค่า 770 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย..จริงไหมตัวเอง!

*ส่วนคนที่ชอบความตื่นเต้นเร้าใจขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดู GL หุ้นลีสซิ่งตัวจี๊ดที่ทำไรได้อย่างเด็ดดวง ยังคงทะยานขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดลงเอยที่ราคา 29.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 390 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นการเดิมพันที่นักลงทุนต้องดูกันเอาเองว่า หุ้นจะทะยานไปได้อีกหรือเปล่า? หลังขึ้นมาใกล้ราคาเป้าหมาย 30 บาทที่โบรกฯบางแห่งให้ไว้น่ะสิ

*สำหรับตัวที่ไม่น่าเข้าไปเสี่ยง เพราะยังเคลียร์ปัญหาไม่จบ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ SOLAR มากกว่าหุ้นตัวอื่นๆ เพราะการดิ่งลงเที่ยวนี้มาพร้อมกับข่าววงแตก และจนป่านนี้ยังไม่มีอะไรชี้แจงออกมาเลย บรรดาขาเผือกถึงร้อยท่อต่อสายตรงมาหาเดี๊ยนกันเยอะแยะไปหมด บ้างก็บอกว่า คนเก่าหลอกคนใหม่ บ้างก็บอกว่า คนใหม่หลอกคนใหม่ บ้างก็บอกว่า สัญญาไม่เป็นสัญญา ขณะที่คำชี้แจงดันออกมาว่า มั่นใจไตรมาส 2 จะดีขึ้นแบบนี้ มันคุยกันไม่รู้เรื่องนะเนี่ยซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นรูดลงมาปิด 4.20 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 6.70% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาทไงล่ะ

*อีกหนึ่งกรณีที่น่าศึกษา “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ PLAT หลังทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา และราคาหุ้นก็ตอบรับด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.55 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่า 120 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ยืนอยู่ที่ 5.20 บาท เดี๊ยนถือเป็นการสะท้อนราคาเหมาะสมไปแล้วระดับหนึ่ง ต่อจากนั้นคงจะไต่ระดับขึ้นค่อนข้างยาก เพราะวันนี้เทรดกันบนค่า P/E 26 เท่าแล้วน่ะสิ

*เช่นเดียวกับในรายของ DCORP จนป่านนี้หนูยังไม่รู้ว่า มีข่าวดีอะไรซ่อนไว้อีก เพราะโปรเจ็กต์ที่เม้าท์ให้ฟังก่อนหน้า วันนี้ยังไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าเท่าที่ควร แถมเมื่อเหลือบดูตัวกำไรที่ทำได้กระจ้อยร่อย “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า การขึ้นมาปิดที่ 12.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่า 120 ล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนเสียวซ่านจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว เพราะมันขึ้นจากอะไรก็ไม่รู้..อิอิอิ

Back to top button