VNG ยังสดใส

ความเป็นเลิศทางด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ (Panel Board) เพื่อใช้ทดแทนไม้ธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ แผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิ้ล ของ VNG ยังคงรักษาผลประกอบการได้เป็นอย่างดี


–คุณค่าบริษัท–

 

ความเป็นเลิศทางด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ (Panel Board) เพื่อใช้ทดแทนไม้ธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ แผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิ้ล ของ บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG ยังคงรักษาผลประกอบการได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทมีรายได้จากการขายขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,590.10 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,531.52 ล้านบาท  เนื่องจากปริมาณขายผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทและบริษัทย่อย คือแผ่นเอ็มดีเอฟและแผ่นปาร์ติเกิ้ล เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 318.69 ล้านบาท หรือ 0.20 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 269.05 ล้านบาท หรือ 0.17 บาทต่อหุ้น

สิ่งสำคัญเมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงดูดี เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 4,098.49 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียน 4,024.12 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio อยู่ที่ระดับ 1.02 เท่า  แสดงว่า สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทยังมากพอสมควร

ส่วนหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 6,014.62 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 7,808.72 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.77 เท่า แสดงว่า บริษัทไม่มีปัญหาหนี้สินมารบกวนการดำเนินงาน

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 59 ขยายตัวต่อจากไตรมาสก่อน โดยเป็นผลจาก 1) ปริมาณส่งออก MDF Board ไปตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นหลังการชำระเงินของอิหร่านเข้าระบบเรียบร้อยตั้งแต่ปลายก.พ. 59 และคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นจนถึงไตรมาส 3 ปี 59 แล้ว คาดปริมาณขาย MDF Board ในไตรมาส 2 ปี 59 จะขยับขึ้นเป็น 2 แสนลบม. (จาก 1.73 แสนลบม.ในไตรมาส 1 ปี 59)

ส่วนปริมาณขาย Particle Board ทรงตัวที่ 2 แสนลบม.ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปี 59 โดยเน้นตลาดเกาหลีใต้ต่อ ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยทรงตัวจากงวดเดียวกันของไตรมาสก่อน (โดยราคา MDF Board อยู่ที่ประมาณ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อลบม. ราคา Particle Board อยู่ที่ 4,500 ดอลลาร์ต่อลบม. และราคา Laminated Flooring 210 บาทต่อตรม.)  และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นราว 110bsp จากไตรมาส 1 ปี 59 เป็น 28.8% ในไตรมาส 2 ปี 59 จากต้นทุนวัตถุดิบเศษไม้ลดลงราว 10% จากงวดเดียวกันของไตรมาสก่อน และประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นทำให้ใช้กาวน้อยลง ในเบื้องต้นประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 59 ไว้ที่ 380 ล้านบาท เติบโต 19% จากงวดเดียวกันของไตรมาสก่อน

อีกทั้งคาดไตรมาส 3 ปี 59 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากการผลิต MDF Board ทำได้เพิ่มขึ้นหลังการปรับเปลี่ยนสายการผลิต Particle Board เป็น MDF Board กำลังการผลิต 3 แสนลบม.ต่อปีแล้วเสร็จในกลางปี 59 และเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 59 เป็นต้นไป โดยเริ่มใช้กำลังการผลิต 50-60% ก่อนแล้วเป็นเต็มที่ในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้าหรือประมาณครึ่งแรกของปี 60 ขณะเดียวกันต้นทุนยังอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม ราคาขายผลิตภัณฑ์อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14.30 บาทต่อหุ้น

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.บริษัท เดอะ วนชัย กรุ๊ป อ๊อฟ คอมปานีส์ จำกัด 840,212,699 หุ้น 53.62%

2.ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 92,764,585 หุ้น 5.92%

3.นายสมประสงค์ สหวัฒน์ 31,789,100 หุ้น 2.03%

4.นายวรรธนะ เจริญนวรัตน์ 31,461,500 หุ้น 2.01%

5.นายภัทท สหวัฒน์ 29,621,300 หุ้น 1.89%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย สมภพ สหวัฒน์ ประธานกรรมการ

2.นาย สมภพ สหวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร

3.นาย สืบตระกูล สุนทรธรรม รองประธานกรรมการ

4.นาย สืบตระกูล สุนทรธรรม กรรมการอิสระ

5.น.ส. ยุพาพร บุญเกตุ รองประธานกรรมการ

Back to top button