PF เข้าสู่ปีทอง
ในปี 2559 อาจเป็นปีทองของ PF เนื่องจากบริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์ และยอดขาย Presale มีอยู่เต็มมือ ซึ่งมั่นใจได้ว่าปีนี้บริษัทจะโชว์ผลประกอบการได้อย่างแข็งแกร่งจากงานที่มีอยู่อย่างผู้บริหารกล่าว
–คุณค่าบริษัท–
ในปี 2559 อาจเป็นปีทองของ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เนื่องจากบริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์ และยอดขาย Presale มีอยู่เต็มมือ ซึ่งมั่นใจได้ว่าปีนี้บริษัทจะโชว์ผลประกอบการได้อย่างแข็งแกร่งจากงานที่มีอยู่อย่างผู้บริหารกล่าว
เนื่องจากสิ้นไตรมาส 1 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 5,400 ล้านบาท แบ่งจากโครงการแนวราบ 900 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 4,500 ล้านบาท แต่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 3,600 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 1,800 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 2560
ขณะที่ยอดขาย Presale ในช่วง 4 เดือนแรก ระหว่างเดือนม.ค.-เม.ย.59 บริษัททำได้แล้ว 3,600 ล้านบาท โดยมาจากโครงการแนวราบ 2,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65% และโครงการคอนโดมิเนียม 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35% อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการเปิดโครงการใหม่ไปเพียง 1 โครงการ
โดยในเดือนกุมภาพันธ์ได้เปิดโครงการ ไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะ แคมปัส เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 880 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ซึ่งเปิดขาย 1 อาคาร จำนวน 220 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70% และจะทยอยเปิดขายอาคารถัดไปต่อเนื่อง คาดว่าโครงการดังกล่าวจะปิดขายได้ในช่วงกลางปี 2560
นอกจากนี้ โครงการคอนโดมิเนียม แบ่งเป็นโครงการภายใต้แบรนด์ ไอคอนโดจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ ในทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีไทรม้า คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ และในทำเลถนนรามคำแหง–เสรีไทย คาดว่าจะเปิดขายในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ ทั้ง 2 โครงการจะเป็นอาคารสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 480 ยูนิต มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อโครงการ ซึ่งราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ล้านบาท
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการจะเปิดภายใต้แบรนด์ เมโทร ลักซ์ (Metro Luxe) จำนวน 1 โครงการ และภายใต้แบรนด์ เมโทรสกาย (Metro Sky) จำนวน 1 โครงการ สำหรับโครงการแนวราบ จำนวน 10 โครงการ จะทยอยเปิดในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ อย่างไรก็ตาม จากแผนการเปิดโครงการดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ยอดขายปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 16,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทสามารถทำได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะบริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4,363.48 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,492.29 ล้านบาท เป็นผลจากธุรกิจทุกภาคส่วนที่บริษัททำเพิ่มขึ้นทั้งหมด อาทิ รายได้จากการขายบ้านและที่ดิน,.รายได้จากการขายหน่วยในอาคารชุดพักอาศัย,รายได้จากการขายที่ดิน,รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม,รายได้ค่าเช่าและบริการ, รายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 367.32 ล้านบาท หรือ 0.0479 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 97.81 ล้านบาท หรือ 0.0169 บาทต่อหุ้น
เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 25,224.09 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียน 9,187.08 ล้านบาท ส่งผลให้ค่า CURRANT RATIO ที่ระดับ 0.75 เท่า แสดงว่าบริษัทยังมีสภาพคล่องทางการเงิน และเมื่อนำเอาหนี้สินรวมที่มีอยู่ 30,157.06 ล้านบาท เทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 14,095.77 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 2.14 เท่า ถือว่าปัญหาหนี้สินของบริษัทมีอยู่ แต่ดีที่บริษัทยังคงทำกำไรได้อยู่
PF โดยยอด Backlog และยอดขาย Presale มีอย่างล้นหลามในปีนี้ จึงไม่อย่างให้นักลงทุนมองข้าม!!
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
1.บริษัท อันดามัน ลองบีช รีสอร์ท จำกัด 893,248,441 หุ้น 11.65%
2.นายชายนิด อรรถญาณสกุล 580,159,675 หุ้น 7.57%
3.JAPAN ASIA GROUP LIMITED 387,016,825 หุ้น 5.05%
4.HOTEL MANAGEMENT AND LEISURE LIMITED 353,374,176 หุ้น 4.61%
5.นางสุมาลี อ่องจริต 306,309,165 หุ้น 3.99%
รายชื่อกรรมการ
1.นาย ธวัชชัย นาคะตะ ประธานกรรมการ
2.นาย ชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
3.นาย ชายนิด อรรถญาณสกุล กรรมการ
4.นาย ไพรัตน์ เสนาจักร กรรมการ
5.นาย วิทยา เนติวิวัฒน์ กรรมการ