ที่เก่า..เวลาเดิม โมนิก้าและทีมงาน
*อุ๊ยตาย..ว้ายกรี๊ด! จู่ๆ ความฝันที่จะได้เห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างสวยงาม ก็กลายเป็นเพียงคำพูดลอยๆ ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้ “โมนิก้า” ควรสำเหนียกเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะสิ่งที่ทุกคนได้เห็นในเที่ยวนี้ มันเป็นเพียงการชิงไหวชิงพริบในการลงทุน แถมเป็นการแย่งชิงพื้นที่ข่าวสารที่เกิดขึ้นให้เห็นทุกวี่ทุกวันเจ้าค่ะ
*อุ๊ยตาย..ว้ายกรี๊ด! จู่ๆ ความฝันที่จะได้เห็นดัชนีทะยานขึ้นอย่างสวยงาม ก็กลายเป็นเพียงคำพูดลอยๆ ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้ “โมนิก้า” ควรสำเหนียกเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะสิ่งที่ทุกคนได้เห็นในเที่ยวนี้ มันเป็นเพียงการชิงไหวชิงพริบในการลงทุน แถมเป็นการแย่งชิงพื้นที่ข่าวสารที่เกิดขึ้นให้เห็นทุกวี่ทุกวันเจ้าค่ะ
*ด้วยเหตุนี้ไม่ต้องถามว่า หุ้นตัวไหนมีข่าวเด็ด หุ้นตัวไหนมีข่าวได้เสีย เพราะแพทเทิร์นของหุ้นไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมสักเท่าไหร่? หรือแม้กระทั่งการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,412.67 จุด บวกไป 11.03 จุด ด้วยมูลค่า 3.90 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นคำบอกเล่าที่พูดกันจนเบื่อ ผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “ญนน์ โภคทรัพย์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของค่ายใบโพธิ์ SCB ประกาศลาออกแบบนี้..มันมีนัยนะคะ
*ประเด็นเหล่านี้ทำให้ผู้คนมากมายอยากรู้อยากเห็นว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่! เพราะเมื่อเดือนเม.ย. 58 เพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาหยกๆ ล่าสุดเดือนพ.ค. 59 ยื่นหนังสือขอลงจากตำแหน่งแบบนี้ ชาวเผือกเขาเลยตีความว่า ผลงานไม่เข้าตากรรมการกันยกใหญ่ พร้อมกับมีการเท้าความกลับไปในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาว่า แบงก์สีม่วงแห่งนี้มีแต่เรื่องฉาวไม่เว้นแต่ละไตรมาสหรือเปล่า? คุณพี่เลยเกิดอาการก้นร้อน จนอยู่ไม่ได้ใช่อะป่าว!
*ตรงนี้เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ SOLAR (กะไม่พูดถึง แต่ต้องพูดถึงอีกจนได้) มันเป็นภาพสะท้อนอาการไม่แฮปปี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ หนทางเดียวคือต้องแยกทาง “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นรูดลงมาปิดที่ 3.86 บาท ลบไป 0.24 บาท หรือลงไป 5.85% ด้วยมูลค่า 370 ล้านบาท วันนี้ถึงต้องถามกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กันเอาเองว่า เลือดหยุดไหลแล้วหรือยัง? เพราะเขาสามารถนับหัวคนในก๊วนได้น่ะสิ
*สอดคล้องกับดีลซื้อ T ของขรัวเฒ่า “วิชัย ทองแตง” ผู้มากประสบการณ์ จู่ๆ ออกมาเผยความในใจว่า มีคนเอาข่าวดังกล่าวไปหาประโยชน์ และตัวเองรู้สึกไม่แฮปปี้เอาเลยเสียนั้น “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า ไม่ได้มีเจตนาไปขุดคุ้ยอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นการเม้าท์จากสิ่งที่ “เกิดขึ้น เป็นอยู่ ดับไป” จึงอย่าร้อนตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเขาก็รู้กันมานานแล้วว่า พ่อหนุ่มคนนั้น..มันเป็นอย่างไร? ล่าสุดหุ้นปิดที่ 0.17 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 6% มันเป็นเกมที่เปิดหน้าเล่นกันแล้ว (พรุ่งนี้เดี๊ยนขอเล่าประวัติคนพวกนี้ให้ฟัง) นะจะบอกให้
*ส่วนที่แปลกแต่จริง! คงหนีไม่พ้นพฤติกรรมของของ “เสี่ยป๊อบ” ซึ่งได้ฉายาว่า “เข้าแก๊งไหน ตายหมดทั้งก๊วน” ล่าสุดดอดเข้ามาเก็บหุ้น FVC เพิ่มเติมอีก 0.23% รวมเบ็ดเสร็จถือหุ้น 10.16% พร้อมกับรักษาอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2ได้อย่างเหนียวแน่นนั้น มันไม่ได้ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกพิศวาสหุ้นตัวนี้มากขึ้นแม้แต่นิดเดียว เพราะคุณค่าของหุ้นอยู่ที่ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายมีกำไรอะป่าว?
*ที่สำคัญคือ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หุ้นตัวนี้มีกำไรไม่เคยเกิน 15 ล้านบาท หรือไม่เกิน 0.06 บาทต่อหุ้น ขณะที่ไตรมาส 1 ปี 59 ขาดทุนตัวแดงโร่ 3 ล้านบาท แถมวันนี้เป็นการเทรดบนค่า P/E 68 เท่า “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องพึงระวังอย่างรุนแรง หรือแม้กระทั่งหุ้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องอย่าง NPP ก็แสดงตัวเลขให้เห็นว่า ขาดทุนบานเบอะ! กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชีวิต จนทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สะกดคำว่า กำไรไม่เป็น..อิอิอิ
*วันนี้บรรดาขาลุยถึงยิงคำถามแบบตรงๆ ว่า เสี่ยเหมือนเป็นตัวนำโชคเลยนะเนี่ย! แถมโครงการที่วาดฝันก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงนามธรรม “โมนิก้า” ถึงไม่รู้ว่า เสี่ยรายนี้ต้องการทำอะไรกันแน่! เพราะดูไปดูมาเหมือนเป็นแค่วิชาโยกย้ายถ่ายเส้นเอ็น ซึ่งไม่ช่วยให้บริษัทดีขึ้นอย่างบูรณาการ พร้อมกันนั้นอย่าลืมว่า ในเมื่อหุ้นมาด้วยเกมการเงิน สุดท้ายก็ต้องไปด้วยเกมการเงิน มันคุ้มกับที่ลงทุนจริงเหรอคะ
*ย้อนกลับมาดูหุ้น IVL กันบ้างดีกว่า! เนื่องจากสถานการณ์ของหุ้นดีขึ้นเป็นลำดับ จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ 33.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่า 2.40 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นมิติใหม่ที่ทำให้นักลงทุนแห่ตามกันอีกพักใหญ่ๆ แถมกับเป็นการพลิกแนวต้าน 32 บาทให้กลายเป็นแนวรับอันแข็งแกร่งแบบนี้ วันนี้ถึงเป็นจังหวะของการโหนกระแสพะยะค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่กระแสมาค่อนข้างดีก็คือ BWG ราคาหุ้นยกตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 1.88 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่า 570 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่ทุกคนรู้ว่า กำลังดันหุ้นกลับไป 2 บาท ซึ่งเป็นเกมที่ขาประจำรับรู้กันอยู่เต็มอก วันนี้ถึงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรอีกต่อไป เพราะจังหวะนี้เขาลุยกันสุดตัวอยู่แล้วเจ้าค่ะ
*เหมือนในรายของ ACAP เพราะทันทีที่ผลงานไตรมาส 1 พลิกมีกำไร สถานการณ์ทุกอย่างก็ดีแบบสุดโต่ง และถ้าดูจากข้อมูลพื้นฐานที่ปรากฏจะเห็นว่า ราคาหุ้นแถว 10 บาทเป็นเป้าหมายเบื้องต้น ขณะที่ราคาล่าสุดปิดที่ 9.55 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่า 145 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่เหมาะต่อการเล่นตามน้ำเสียจริงๆ..เชื่อไหมตัวเอง!