เริ่มทดสอบแรงขาย!โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอถามแฟนคลับ “ข่าวหุ้น” กันตรงๆ อีกสักครั้งว่า จับทางตลาดหุ้นได้หรือยัง? เพราะแรงเทขายที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ดัชนีกำลังอยู่ในระหว่างทางเลือก “ขึ้น”  กับ “ลง” ซึ่งมีผลทำให้นักลงทุนประเภทจิตตกต้องปล่อยหุ้นออกมาก่อนเวลาอันควร หรือบางรายถึงขั้นยอมตัดขายหุ้นขาดทุน เพราะสถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นเหมือนกับที่คิดไว้น่ะสิ

*ด้วยเหตุผลดังกล่าวถึงอยากให้แฟนคลับมองการแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกแดนลบ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,424.28 จุด บวกไป 0.16 จุด ด้วยมูลค่า 6.71 หมื่นล้านบาท มันเป็นอาการของหุ้นที่เดินมาถึงทางตันหรือเปล่า? บวกกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา ดัชนีก็แสดงอาการทำนองนี้ แต่หลังจากนั้นก็รูดไม่เป็นท่า “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นพยายามทำตัวให้ทันกับสถานการณ์นะจ๊ะ

*ถึงกระนั้นก็มีประเด็นที่น่าขบคิดอยู่หลายข้อด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ ดัชนีทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นไปทำจุดสูงสุดครั้งแรกอยู่ที่ 1,412 จุด ส่วนครั้งที่สองขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,423 จุด แต่ทั้ง 2 ครั้งดัชนีรูดลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,350 จุด กับบริเวณ 1,380 จุด ขณะที่ครั้งล่าสุดขึ้นไปทำจุดสูงสุดแถว 1,424 จุด ส่วนจุดต่ำสุดจะอยู่บริเวณไหน? ต้องตามไปดูกันเอาเองนะจะบอกให้

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ PTT วานนี้โดนถล่มจนหลังอาน ก่อนจะลงมาปิดที่ 301 บาท ลบไป 9 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 3 พันล้านบาท มันเหมือนกับเรื่องที่เดี๊ยนเคยเม้าท์ให้ฟังเมื่อวันก่อนแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับอ่านสัญญาณเทคนิคเยอะๆ เพราะค่าดังกล่าวไม่เคยโกหกเหมือนน้ำคำของใครบางคน (ดราม่านิดๆ เพื่อให้ผู้ชายมาเห็นใจ)..ทราบแล้วเปลี่ยน!

*สำหรับในรายของ CPALL หากดูผิวเผินก็เป็นเรื่องน่าคิดพอสมควรว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! ก็ในเมื่อนักลงทุนสถาบันแสดงจุดยืนในการลงทุนอย่างแน่วแน่ว่า ไม่ซื้อหุ้นเพิ่มเติม! เหตุไฉนหุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 49.75 บาท บวกไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่า 3.90 พันล้านบาทอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับปรากฏข้อเท็จจริงที่ว่า เดือนพ.ค. นักลงทุนสถาบันซื้อเพียวๆ ส่วนแมงเม่าสาดหุ้นไม่ยั้งแบบนี้..กลืนน้ำลายตัวเองหรือเปล้าเจ้าค่ะ

*ผิดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ WHA เพราะนับตั้งแต่เคลียร์ปัญหาที่คาราคาซังจบ หุ้นก็ตั้งฐานอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับพยายามกระชากขึ้นตลอดเวลา จนทำให้แรงเทขายที่มีออกมาแปรเปลี่ยนเป็นแรงซื้อ ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 3.32 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่า 920 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตตามน้ำที่ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ เพราะของมันเคยเห็นกันมาแล้วว่า กระแสกำลังมานะคะ

*เหมือนกับในรายของ PTL พอถึงบทแสดงความรักแบบดูดดื่ม ทุกอย่างก็ดูเป็นสีชมพูไปหมด พร้อมกับวาดฝันว่า กำไรในปี 59 จะเลิศหรูอลังการงานสร้าง หุ้นเลยกระชากขึ้นเป็นวันที่ 2 ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 9.65 บาท บวกไป 0.95  บาท หรือขึ้นไป 10.90% ด้วยมูลค่า 470 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องตามกระแสให้ทัน เพราะการขึ้นเที่ยวนี้ต่างจากรอบก่อนที่ขึ้นแล้วลงทันทีนะจะบอกให้

*กรณีที่คล้ายคลึงกันแบบสุดๆ “โมนิก้า” ขอเบนเป้าไปที่ SMPC หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 11 บาท บวกไป 1.35 บาท หรือขึ้นไป 14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 420 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่น่าตามไปวัดดวง เพราะรอบก่อนหน้านี้ หุ้นเคยวิ่งขึ้นไปถึง 12.60 บาท จึงเหลือแก๊ปให้พวกชาวไล่ได้ออกสเต็ปกันอย่างเต็มที่ งานนี้บอกได้แค่ว่า มือใครยาวสาวได้สาวเอานะคะ

*เสือซุ่มอีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” ชอบพูดถึงเป็นประจำเมื่อมีโอกาสได้แก่ AAV ล่าสุดหุ้นเด้งรับข่าวทางอ้อมเกี่ยวกับการซื้อกิจการในมาเลเซีย บวกกับมีเรื่องเก่าที่ค้างคากับกลุ่ม “คิง เพาเวอร์” หุ้นเลยถือโอกาสวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 666 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่พวกนกรู้ได้เอาประเด็นดังกล่าวไปต่อยอดเล่นได้อีกระลอกเจ้าค่ะ

*ส่วนที่ออกมาเป็นข่าวไปแล้วอย่างไทยคม 8 ซึ่งเป็นดาวเทียมของ THCOM ก็ถือโอกาสนี้เด้งขึ้นมาปิดที่ 27 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 410 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่เล่นได้ไม่นานสักเท่าไหร่! เพราะต้องฝ่าแนวต้านบริเวณ 27.50 บาทขึ้นไปให้ได้ ต่อจากนั้นต้องมาเจอแนวต้าน 28.75 บาทอีกชั้น กว่าจะขึ้นไปถึง 30 บาทลากเลือดแน่ๆ เจ้าค่ะ

*ประเด็นตรงนี้เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ EA เพราะตลอดทั้งวันยืนสู้กับแรงเทขายได้อย่างยอดเยี่ยม มาพลาดท่าเสียทีอีกตอนท้ายตลาดนี่แหละ! พอสืบไปสืบมาก็พบว่า กองทุนปรับพอร์ต หุ้นเลยรูดลงมาปิดที่ 21.20 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 3.60% ด้วยมูลค่า 170 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะซื้อของดีราคาย่อมเยา แถมหุ้นลงมาใกล้จุดเด้งกลับบริเวณ 21 บาทแบบนี้..มันควรจะซื้อไหมล่ะค่ะ