ฟันด์โฟลว์จานร้อน พลวัต 2016
ข้อมูลสถิติการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นต่ำสุดรอบหลายปี (รูปประกอบ) เป็นข่าวเดียวที่มีความหมายสะเทือนสูงยิ่ง เพราะเป็นตัวแปรสำคัญทำให้ตลาดเก็งกำไรวุ่นวายจากผลกระทบไปทั่วโลก
วิษณุ โชลิตกุล
ข้อมูลสถิติการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นต่ำสุดรอบหลายปี (รูปประกอบ) เป็นข่าวเดียวที่มีความหมายสะเทือนสูงยิ่ง เพราะเป็นตัวแปรสำคัญทำให้ตลาดเก็งกำไรวุ่นวายจากผลกระทบไปทั่วโลก
ความหวังว่าสายเหยี่ยวจะกดดันให้เฟดฯจะขึ้นดอกเบี้ยเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิงหรือเกือบสิ้นเชิง ตามมาด้วยค่าดอลลาร์ที่อ่อนยวบเทียบตะกร้าเงินสำคัญของโลก ถัดมาคือราคาทองคำแท่งพุ่งกระฉูดเกือบ 30 ดอลลาร์
ส่วนดัชนีก็ถูกแรงขับของการต่อสู้ระหว่างแรงขายกับซื้อ ทำให้แกว่งผันผวนหนัก แม้จะมีแรงซื้อกลางตลาดมาช่วย ก็ยังปิดลบ แต่ที่สำคัญ สัญญาณทางเทคนิคของดัชนีเกิดเป็นทิศทางว่าขีดจำกัดขาขึ้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เปิดทางให้เกิดการแกว่งตัวขาลงครั้งใหม่
ที่น่าสนใจคือ ส่วนค่าบาทถูกแรงซื้อในคืนวันศุกร์ในตลาดระหว่างประเทศแข็งอย่างมากปิดตลาดที่ 35.34 บาทเทียบกับดอลลาร์ เพิ่มโอกาสที่ทุนต่างชาติจะเกิดฟันด์โฟลว์ต่อเนื่องในวันจันทร์นี้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่จะเกิดโมเมนตัมขาขึ้นดันตลาดหุ้นไทยไปต่อที่เหนือแนวต้าน 1,450 จุดได้ หากราคาน้ำมันไม่ร่วงหนักเช้านี้หรือบ่ายนี้เสียก่อน
สำหรับราคาน้ำมัน โดยทั่วไปแล้ว โอกาสที่จะวิ่งขึ้นในยามที่ดอลลาร์อ่อนค่าเป็นไปได้มากกว่าวิ่งลง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ เหตุผลรัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบียที่กล่าวว่าราคาน้ำมันที่เหนือระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ยังไม่ถือว่าจะมีแรงจูงใจสูงพอในการกระตุ้นให้มีการผลิตมากขึ้นจากสหรัฐฯและชาตินอกโอเปกใหม่อีกครั้ง ก็ถือว่ามีน้ำหนักน่ารับฟัง
โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยนั้น ราคาน้ำมันบวก และดอลลาร์อ่อน ถือเป็นข่าวดีทั้งสิ้น
คำอธิบายใดๆ เกี่ยวกับภาวะกระทิงในตลาดหุ้นไทยยามนี้ จึงมีเหตุผลมากกว่าเสมอ เพียงแต่นักลงทุนต้องตระหนักว่า ขาขึ้นของตลาดหุ้นไทยรอบล่าสุดในสัปดาห์นี้ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยในประเทศ หรือปัจจัยที่พื้นฐานเศรษฐกิจโลกเกิดดีขึ้นกะทันหันน่าตื่นตาตื่นใจ หรือเพราะบอลยูโรที่กำลังจะแข่งเสาร์นี้เป็นต้นไปนาน 3 สัปดาห์ จะทำใหยุโรปพลิกฐานะร่ำรวยกะทันหัน
ตลาดหุ้นที่ไม่ยินดีกับสถานการณ์นี้ จึงมีเพียงตลาดหุ้นหลักอย่างนิวยอร์ก และโตเกียว โดยเฉพาะญี่ปุ่นนั้น ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น นายฮารุฮิโกะ โครูดะ ได้เคยเปรียบเปรยไว้ว่า ค่าเงินเยนยามที่แข็งขึ้นจนควบคุมได้ยาก คือแขกที่ไม่ได้รับเชิญและส่งผลให้การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะฟื้นตัวช้าลง เนื่องจากอาเบะโนมิกส์ทำงานไม่ได้ผล
การทะยานขึ้นจากกระแสฟันด์โฟลว์ไหลเข้ารุนแรงต่อเนื่องเพราะค่าดอลลาร์อ่อนนี้ เชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกว่าในยามที่เศรษฐกิจในภาคการผลิตที่แท้จริงของโลกมีแนวโน้มเติบโตช้า หรือถดถอยในบางประเทศ แต่ถูกกลบข้อเท็จจริงให้ดูเลวร้ายน้อยลงจากการที่มีปริมาณเงินท่วมโลก หรือเรียกกันว่า สภาพคล่องของทุนที่ล้นเกิน
ปริมาณเงินล้นเกิน ซึ่งชาติหลักของโลก (สหรัฐฯ ยูโรโซน และญี่ปุ่น) ได้พิมพ์ออกมาในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาจนท่วมตลาด ไม่สามารถแปรสภาพเป็นการผลิตซ้ำใหม่ จนเกิดการจ้างงานหรือกำลังซื้อใหม่ ให้เศรษฐกิจเป็นขาขึ้นยั่งยืน แต่กลับจมปลักกับภาวะเงินเฟ้อติดลบ หรือเงินฝืดเรื้อรังที่แก้ไขในลักษณะ “ลิงแก้แห”
รากฐานของความล้มเหลวจากการแปลงสภาพให้ทุนในรูปเงินสดสภาพคล่อง เป็นกิจการทางเศรษฐกิจภาคการผลิตและบริการอื่นๆ จึงกลายเป็นสภาพคล่องที่วนเวียนไปตามตลาดเก็งกำไรทั่วโลก 4 แหล่ง ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ นั่นคือ ตลาดปริวรรตเงินตรา ตลาดตราสารหนี้ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นไทยซึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ยังมีนักวิเคราะห์ทั้งในและต่างประเทศมีมุมมองเชิงลบว่าค่าพี/อีแพงเกินพื้นฐาน ถูกทุนต่างชาติเข้ามาเก็บช้อนซื้อจนกระทั่งกลายเป็นภาวะกระทิงที่ทำให้นักวิเคราะห์ต้องกลับมุมมองเสียใหม่ จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องทำความเข้าใจสำหรับนักลงทุนว่า เหตุผลของตลาดเก็งกำไรนั้น อาจจะไม่ไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นหรือตลาดทุน
ฟันด์โฟลว์จานร้อนที่นักลงทุนไทยมีความสุขสัปดาห์นี้ จะยั่งยืนแค่ไหน เป็นเรื่องคาดเดายากเช่นกัน เรียกว่าต้องติดตามวันต่อวันกันเลยทีเดียว
เป็นสถานการณ์แปลกๆ ที่ทำให้ปัจจัยพื้นฐานของตลาดทำงานไม่ได้ชั่วคราว