ตื้อๆ ตันๆ โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่นักลงทุนสถาบันตะลุยไม่ยั้ง มักแหวกกระแสขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย แถมแนวต้านสำคัญถูกฉีกไม่มีชิ้นดีแบบนี้ มันเป็นเพียงวัฏจักรสั้นๆ ที่พบเห็นได้เป็นประจำทุกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการกระพือข่าวเศรษฐกิจฟื้นตัว เงินทุนไหลเข้าเป็นจำนวนมาก มักเห็นการไล่ราคาแบบสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊มพ์ ก่อนลงเอยด้วยฉากดราม่าแบบสุดๆ(ติดหุ้น เพราะหนูไม่รู้) ไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่ต้องถามสาเหตุที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,442.42 จุด ลบไป 1 จุด ด้วยมูลค่า 4.59 หมื่นล้านบาท เกิดจากสาเหตุอะไร? เดี๊ยนขอแนะนำว่า ไม่ต้องไปสืบค้นให้เสียเวลา เพราะมันเป็นเรื่องของเกมหุ้น และเมื่อหุ้นขึ้นมาถึงจุดหนึ่ง ย่อมต้องโดนเทขายเป็นธรรมดา ต่อจากนั้นถึงจะรู้ว่า แรงซื้อที่เข้ามาในเที่ยวนี้เป็น “ของจริง” หรือ “ของปลอม” นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ TASCO กระชากขึ้นมายืนอยู่ที่ 26.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องเริ่มคิดแล้วว่า การทะยานขึ้นรอบนี้สมเหตุสมผลขนาดไหน? หรือมองแค่ราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้น ก็ทำให้เหล่านักเล่นเกิดอาการฟินละก็ เดี๊ยนถือเป็นเรื่องที่อันตรายพอสมควร เพราะเกมหุ้นในช่วงนี้เล่นกันโหด หุ้นขึ้นแรงได้ไม่ทันไร ก็โดนสาดทิ้งไม่เหลือชิ้นดีแล้วล่ะค่ะ

*เมื่อกระแสหุ้นลูกมาแรงเกินห้ามใจ หุ้นตัวแม่อย่าง TIPCO ย่อมได้ผลดีตามไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.80 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่า 620 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องทำความเข้าใจอย่างหนักหน่วงว่า หากไตรมาส 2 ลูกทำกำไรไม่ได้ตามเป้า ตัวแม่ย่อมเป๋ไม่เป็นขบวนเหมือนกัน..วันนี้ไม่ต้องถึงแม่แค่หุ้นลูกก็พอเจ้าค่ะ

*ไหนๆ เม้าท์ถึงเรื่องแม่กับลูกทั้งที “โมนิก้า” ขอวกกลับมาดูหุ้นลูก VGI เป็นลำดับต่อมาแล้วกัน และเหตุผลที่ต้องเม้าท์ถึงเป็นเพราะกองทุนยักษ์ใหญ่ของอเมริกาเข้ามาถือหุ้นกว่า 130 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีระยะเวลานาน 5 ปี แถมเพิ่มออปชั่นซื้อหุ้นเพิ่มในตลาดหุ้นแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่ดีลนี้ตกลงซื้อกันที่ราคา 4.63 บาทต่อหุ้น ทั้งที่ราคาหุ้นในกระดานอยู่ที่ 5.35 บาท บวกไป 0.20 บาท มันเป็นผลมาจากการมองไปข้างหน้า จะมีอะไรดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมไงล่ะค่ะ

*ส่วนตัวแม่อย่าง BTS ย่อมได้รับผลบวกจากดีลดังกล่าวเต็มๆ แถมพรายกระซิบเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันแจกรางวัล “หุ้นขวัญใจมหาชน” ของ “ข่าวหุ้น” ดร.อาณัติ ได้เปรยความในใจว่า ปีนี้จะมีดีลที่เรียกเสียงฮือฮาหลายโปรเจ็กต์ด้วยกัน “โมนิก้า” เลยถึงบางอ้อในทันที และมองราคาหุ้นที่ระดับ 9.25 บาท บวกไป 0.05 บาท ผสมกับรอบนี้รับเนื้อๆ จากดีลขายลูกออกไปบางส่วน จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าลงทุนในทันทีเจ้าค่ะ

*ทางด้านหุ้นเทิร์นอะราวด์อย่าง SMT  ถือเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจสุดๆ เพราะการขึ้นมาปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่า 230 ล้านบาท แถมเป็นการปิดตรงแนวต้านแบบพอดิบพอดีเป็นครั้งที่ 3 “โมนิก้า” ถือเป็นเกมเดิมพันครั้งใหญ่เหมือนกัน หากฝ่าขึ้นไปได้จะไปทดสอบแนวต้าน 7.50 บาทเป็นครั้งที่ 2 หากฝ่าไปไม่ได้ คงลงมาตั้งหลักแถว 6.70-6.50 อีกรอบนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ VNG หากมองภาพของหุ้นเป็นการเล่นรอบ ขาประจำคงรู้กันเป็นอย่างดีว่า นี่คือหุ้นที่เหมาะต่อการตามกระแสไปสั้นๆ เพราะหุ้นกำลังไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 15 บาท ต่อจากนั้นจะเลยขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 16 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดหุ้นยืนอยู่ที่ 14.40 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.35% มันชวนให้เคลิบเคลิ้มเสียเหลือเกิน วันนี้ถึงต้องตามไปดูว่า มีแรงหนุนเยอะไหมตัวเอง

*เหมือนกับกรณีของ MPG จู่ๆ กระชากขึ้นแรงแบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัว มาเห็นอีกทีหุ้นก็ขึ้นมาปิดที่ 0.84 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 10.50% พร้อมกับปรากฏสัญญาณค้อนหัวกลับ และยังมีไส้แท่งเทียนยาวเหยียดแบบนี้ “โมนิก้า” ฟันธงได้ในทันทีว่า ใกล้จบเกม! แถมก่อนหน้านี้ 2 วันหุ้นยังย่ำฐานไปมาที่บริเวณ 0.59 บาท มันช่างเหมาะต่อการปล่อยของเสียเหลือเกิน เพราะเจ้ามือได้กำไรเหนาะๆ กว่า 40% แล้วน่ะสิ

*ตบท้ายกันที่ IFEC เพื่อให้สอดรับกับข่าวดีเรื่องดาราเทวีออกจากแผนฟื้นฟูในวันนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทบันทึกเงินสดเข้ากระเป๋า 700 ล้านบาททันที (นักวิเคราะห์เขาว่าไว้อย่างนั้น) “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเริ่มคิดแล้วว่า ดีลนี้สร้างแวลูให้กับตัวหุ้นจริงไหม?  หากคิดว่าใช่ ก็ตามไปดูแบบสั้นๆ หรือคิดว่า ไม่ใช่ ก็ถอยออกมาก่อน..แต่ดูเหมือนว่า ราคาหุ้นจะตอบรับข่าวดังกล่าวในเชิงบวก วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.90 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่า 330 ล้านบาทแบบชิวๆ ไงล่ะค่ะ