หมดแรงสู้โมนิก้าและทีมงาน

*ในที่สุดดัชนีก็หมดแรงไปต่ออย่างเป็นทางการ แรงเทขายถึงพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย จนดัชนีร่วงลงมายืนอยู่ที่ 1,435.65 จุด ลบไป 9.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.20 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่มีการรับรู้กันมาแล้วระยะหนึ่ง แต่เพิ่งปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมเมื่อวานนี้ จึงต้องเข้าใจรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีมากนิดหนึ่งนะคะ

*เนื่องจาก “โมนิก้า” ได้เกริ่นให้ฟังตั้งแต่วันก่อน และพยายามให้แฟนคลับเทขายหุ้นออกไปบางส่วน เพราะดัชนีกำลังเลือกทิศทางจะไปทางไหน? บวกกับดัชนีเข้าเขตซื้อมากเกินไปมาระยะหนึ่ง ย่อมมีโอกาสรูดลงมาสร้างฐานใหม่ที่ตรงเส้นแนวรับ 10 วันบริเวณ 1,430 จุด หากรับไม่อยู่กันจริงๆ น่าจะรูดลงมาตรงเส้นแนวรับ 25 วันบริเวณ 1,415 จุด นะจะบอกให้

*งานนี้ไม่ต้องการขู่ให้กลัวจนขี้หดตดหาย แต่ต้องการสื่อสารให้นักเล่นได้รู้ว่า จากค่าเงินบาทที่เคยแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเริ่มอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ย่อมตีความได้ว่า เงินทุนเริ่มไหลออกอีกครั้งแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นตัวแปรหลักที่ฉุดให้ดัชนีอ่อนตัวลงไปอีก แถมสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังอึมครึมตลอดเวลา เลยไม่รู้ว่า ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,450 จุดเมื่อไหร่น่ะสิ

*หนักไปกว่านั้นก็คือ “โมนิก้า” เหลือบไปเห็นข่าวเม้าท์ว่า SCB ได้มีการปลดพนักงานฝ่ายสินเชื่อรถยนต์ทั่วประเทศกว่า 50 ตำแหน่ง! เดี๊ยนถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดา แม้มันจะไม่ร้ายแรงเหมือนปี 40 หรือ ปี 51 แต่อย่างน้อยก็เป็นเค้าลางบอกเหตุที่ทำให้ทุกธุรกิจต้องสำเหนียกมากขึ้นว่า ตอนนี้อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังมีปัญหาใช่ไหม? และกำลังลุกลามไปยังธุรกิจอื่นใช่ไหม? ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานล่าสุดอยู่ที่ 137.50 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 2.50%  มันเกี่ยวกันไหม? ลองคิดดูนะคะ

*ส่วนกรณีของ TKN เป็นอะไรที่รู้สึก so sad เหลือจะคณา เพราะการขึ้นมาเที่ยวนี้เป็นการดันหุ้นขึ้นมารับข่าว big lot ที่ราคา 16 บาท ซึ่งเหมือนเป็นเกมหุ้นมากกว่าเกมธุรกิจ และเมื่อดูให้ดีๆ ต้องคิดหนักขึ้นกว่าเดิมว่า กำไรในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าเพียงใด “โมนิก้า” ถึงรู้สึกไม่มั่นใจสักเท่าไร ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานร่วงลงมายืนอยู่ที่ 16.30 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 4% มันจบเกมแล้วล่ะคุณขา!

*เช่นเดียวกับเกมของ BWG หากมองอย่างลึกซึ้งจะเห็นว่า ทั้งหมดเป็นเพียงกระแสที่มาแค่ชั่ววูบ เมื่อบรรยากาศลงทุนไม่เป็นใจ ขาใหญ่เริ่มหวั่นไหวกับข่าวลือ นักเล่นสั้นเริ่มเห็นอาการไม่ดีเกิดขึ้น ผลสุดท้ายถึงลงเอยด้วยการเทขายหุ้นอย่างหนักหน่วง ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้หุ้นลงมาปิดยังบริเวณ 1.88 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป  3% ด้วยมูลค่า 444 ล้านบาท ถอยก่อนดีกว่าไหม?

*เหมือนกับในรายของ CHEWA มองในมุมของการเล่นเกมทางธุรกิจ “โมนิก้า” ถือเป็นดีลที่น่าคิดพอสมควรว่า การทุ่มเงินซื้อโครงการต่อจาก AQ ไปเยอะขนาดนั้น มันสร้างแวลูให้กับตัวหุ้นมากขนาดไหน? “โมนิก้า” ถือเป็นจุดที่นักเล่นต้องใช้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1.72 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือลงไป 2.80% มันเป็นจังหวะของไอ้เสือถอยชัดๆ นะเนี่ย

*ส่วนที่บู๊แบบไม่สนใจไยดีอะไรทั้งสิ้น กลับกลายเป็นหุ้นขายประกัน ASN จู่ๆ เด้งขึ้นไประดับ 8.75 บาท ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 7.90 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 14.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 318 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ย่ำฐาน 6.30 บาท “โมนิก้า” ขอถามหน่อยเถอะ เอาประเด็นไหนมาดันหุ้น หรือพวกนักเล่นไม่ได้มองค่า P/E 38 เท่า เลยลุยกันแบบไม่กลัวตาย..งานนี้ไม่ได้ห้ามปรามอะไรทั้งสิ้น แค่อยากให้เร็วกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเองเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ OTO วิ่งชนเพดาน 30% ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 5.85 บาท บวกไป 1.33 บาท แถมเป็นการปิดที่ราคาสูงสุดของวัน บวกกับแท่งเทียนเขียวปี๋ยาวเหยียด “โมนิก้า” มองในมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นการลากไปเชือดเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ มิ.ย. 58 ซึ่งตอนนั้นหุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 7 บาท ต่อจากนั้นไหลลงมาเรื่อยๆ จนลงมายืนอยู่ที่ 4.50 บาท ล่าสุด มิ.ย. 59 ก็เกิดเหตุการณ์แบบนนั้นอีกครั้ง จุดจบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร? ลองคิดดูนะคะ

*ไหนๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่มาแบบแปลกๆ “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดู K เพื่อเข้ากับการเล่นเก็งกำไรแบบสุดโต่ง หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.25 บาท บวกไป 0.67 บาท หรือขึ้นไป 14.60% มันไม่สามารถหาเหตุผลมาซัพพอร์ตได้เลย ขนาดย้อนกลับไปดูค่า P/E 30 เท่า ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักในคราวนี้ จึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นในการปั่นกระแสในเที่ยวนี้ เพราะมันไม่มีอะไรให้คอมเมนต์เลยจริงๆ เจ้าค่ะ

*ป.ล.วันนี้อาจมีเรื่องบางเรื่องที่พูดกันไม่ได้ แต่อย่างน้อยนักเล่นก็ควรเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันตลอดเวลา เพราะข่าวลือก็เป็นข่าวลือวันยังค่ำ..ทราบแล้วบอกต่อด้วย!