TKS ทิศทางไปได้ดีอยู่

–คุณค่าบริษัท–

 

มีการวิเคราะห์กันว่าแนวโน้มในไตรมาส 2 ปี 2559 ของ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS คงยังเห็นรายได้เติบโตขึ้นจากการรับรู้งานไปรษณียบัตรทางผลฟุตบอลยูโรที่ยังเหลือเข้ามาบางส่วน และงานจากลาวที่ตอนนี้ทำงานไปแล้ว 30%

รวมถึงบริษัทร่วมกับ SYNEX ที่ผลประกอบการยังมีแนวโน้มดีจากการปรับ product mix โดยเพิ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น และการเพิ่มลูกค้าองค์กรให้มากขึ้น และ TBSP ได้ประโยชน์จากการที่ธนาคารพาณิชย์จะเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นแบบฝังชิพ ที่ TBSP เป็นหนึ่งในผู้ผลิตบัตรดังกล่าว น่าจะทำให้การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากทั้ง 2 บริษัทยังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นพอสมควร

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีโอกาสรับงานประมูลต่อหากไม่มีการเลือนการลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. เพราะจะมีการเปิดประมูลผู้พิมพ์บัตรลงประชามติซึ่งบริษัทจะเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนกับ Wellco จากญี่ปุ่น ในการผลิตลาเบลติดหรือป้ายแขวนที่บรรจุภัณฑ์ ติดตั้งเครื่องจักรและเตรียมตัวทดสอบการผลิต จะเริ่มผลิตได้ในเดือน ก.ค. ได้รับความสนใจจากลูกค้าญี่ปุ่นหลายราย

ทั้งนี้ บริษัทมีการเจรจาพันธมิตรในกัมพูชาน่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ อีกทั้งบริษัทมองหาโอกาสทำ M&A โดยจะขยายไปในธุรกิจ Food packaging และธุรกิจบริการด้านไอที เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย “Business Solution Provider”, เจรจารับจ้างบริหารคลังสิ่งพิมพ์ให้กับธนาคารของรัฐ 3 แห่ง  

อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลักที่รับบริษัทรับรู้อยู่แน่ๆ คือ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2559 TKS มี Backlog อยู่ที่ 900 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด แล้วถือเป็นตัวหนุนสำคัญอีกด้วย เพราะหากรวมรายได้ในช่วงไตรมาสแรก ทำให้ทั้งปีนี้ก็จะมีรายได้ใกล้เคียงปีก่อน

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทมีรายได้จากการขายขยับขึ้นมาอยู่ที่ 384.20 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 365.57 ล้านบาท โดยรับรู้รายได้จากไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลยูโรเข้ามา ทำให้สัดส่วนรายได้จาก Advance & Security เพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 28% ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 90.06 ล้านบาท หรือ 0.25 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 79.42 ล้านบาท หรือ 0.22 บาทต่อหุ้น

สิ่งสำคัญ ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งมาก เนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 739.48 ล้านบาท นำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 365.79 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio อยู่ที่ระดับ 2.03 เท่า แสดงว่า บริษัทมีสภาพคล่องพอสมควร ขณะที่ปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่น่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมเพียง 790.38 ล้านบาท นำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 1,679.53 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.47 เท่า ถือว่าปัญหาหนี้สินไม่มีมารบกวน

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองว่า ยังคงคาดการณ์รายได้ขายต่อบริการในปี 2559 ที่ 1,573 ล้านบาท โต 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรที่ 300 ล้านบาท อิง P/E ที่ 12 เท่า ราคาพื้นฐาน 10 บาท และคาดปันผลจ่ายที่ 0.55 บาท ยังคงให้ Yield ที่สูงอยู่ ยังแนะนำ “ซื้อ”

…

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.บริษัท มงคลสุธี โฮลดิ้ง จำกัด 128,515,084 หุ้น 35.68%

2.OCBC SECURITIES PRIVATE LIMITED 12,903,125 หุ้น 3.58%

3.นายบุญไชย ตันชัชวาล 10,200,495 หุ้น 2.83%

4.นางทิพวรรณ กัมทรทิพย์ 6,638,610 หุ้น 1.84%

5.นายสุพันธุ์ มงคลสุธี 6,461,400 หุ้น 1.79%

 

รายชื่อกรรมการ

1.พล เอก มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการ

2.พลเอก มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ กรรมการอิสระ

3.นาย สุพันธุ์ มงคลสุธีรอง ประธานคณะกรรมการ

4.น.ส. ศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ

5.นาย วีระชัย ศรีขจร กรรมการ