ลง 3 วันติด?โมนิก้าและทีมงาน
*วันนี้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยมีอารมณ์เม้าท์เรื่องต่างๆ สักเท่าไหร่? เพราะบรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ ผู้คนไม่ค่อยแฮปปี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน แถมแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ก็มีแต่เรื่องราวที่ทำให้สังคมอยู่ยากมากขึ้นเรื่อยๆ จึงพยายามทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะมันเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม บวกกับมีตัวแปรหลายอย่างเข้ามาข้องเกี่ยวกับการลงทุนเยอะแยะไปหมด..เลยเกิดอาการเซ็งเป็ดไงล่ะจ๊ะ
ลง 3 วันติด?
*วันนี้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยมีอารมณ์เม้าท์เรื่องต่างๆ สักเท่าไหร่? เพราะบรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ ผู้คนไม่ค่อยแฮปปี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน แถมแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ก็มีแต่เรื่องราวที่ทำให้สังคมอยู่ยากมากขึ้นเรื่อยๆ จึงพยายามทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะมันเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม บวกกับมีตัวแปรหลายอย่างเข้ามาข้องเกี่ยวกับการลงทุนเยอะแยะไปหมด..เลยเกิดอาการเซ็งเป็ดไงล่ะจ๊ะ
*คิดดูแล้วกัน? ดัชนีรูดลงไปถึงระดับ 1,414.89 จุด ต่อจากนั้นเด้งขึ้นมาอย่างช้าๆ พร้อมกับทำท่าวิ่งกลับมาปิดบวก สุดท้ายรูดลงมายืนอยู่ที่ 1,421.86 จุด ลบไป 7.35 จุด ด้วยมูลค่า 5.45 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตเด็ดที่ทำให้รู้ว่า กองทุนตัวแสบไม่คิดถือหุ้นยาว เพราะสาดหุ้นออกมามากถึง 3.14 พันล้านบาท ส่วนฝรั่งขี้นกก็ฉวยโอกาสเทขายหุ้นออกมาทั้งสิ้น 435 ล้านบาทแบบนี้..ไม่ไหวนะคะ
*ยิ่งแพทเทิร์นของดัชนีโค้งตัวลง 3 วันติดต่อกัน ผสมกับจวนเจียนจะหลุดเส้นแนวรับ 25 วันตรงบริเวณ 1,416 จุด ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น เพราะวานนี้เป็นการพิสูจน์แรงรับในระดับหนึ่ง ต่อไปจะมีการทดสอบที่หนักหน่วงขึ้นอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจหากดัชนีจะอ่อนตัวลงไปอีก หลังสถานการณ์รอบโลกย่ำแย่เหลือเกินเจ้าค่ะ
*ขนาดหุ้น NOK มีปัญหาคาราคาซังมาก่อนหน้านี้ เผลอแป๊บเดียวก็หาเหาใส่หัวอีกจนได้ ร้อนถึงเฮีย “พาที” ต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ มันเป็นประเด็นที่ทำให้ฉุกคิดมากพอสมควรว่า หุ้นตัวนี้ยังน่าลงทุนอยู่หรือเปล่า? แต่เมื่อเหลือบดูมูลค่าการซื้อขายมีไม่ถึง 10 ล้านบาท แถมหุ้นวิ่งกระเสาะกระแสะก่อนจะมาปิดที่ 8.05 บาท บวกไป 0.05 บาท เหมือนเป็นการบอกใบ้ให้คนทั่วไปรู้ว่า จะพูดพล่อยๆ กับใครก็ได้ เพราะมันไม่กระทบราคาหุ้นอะป่าว!
*ส่วนที่มีผลกระทบกับราคาหุ้นอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น AAV ทันทีที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่า “วิชัย ศรีวัฒนประภา” เจ้าพ่อคิง เพาเวอร์ ซื้อหุ้นต่อจากตระกูล “แบเลเว็ลด์” ก็ทำให้ทุกคนหันมามองที่สายข่าวของหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้น” อย่างรวดเร็ว เพราะจำได้ว่า ทั้งในส่วนของ หนังสือพิมพ์ วิทยุ และเว็บไซต์ ล้วนนำประเด็นดังกล่าวมาตีแผ่แบบละเอียดยิบพะยะค่ะ
*โดยตอนนั้นก็มีคนออกมาปฏิเสธเยอะแยะไปหมด สุดท้ายพอเรื่องจริงเป็นเหมือนกับที่นำเสนอข่าว ถึงกับอ้าปากค้างกันเป็นแถว! น่าเสียดายตรงราคาที่เจ้าพ่อดิวตี้ฟรีเทกโอเวอร์อยู่แค่ 4.20 บาท ซึ่งเป็นการเข้าถือหุ้นมากถึง 1.89 พันล้านหุ้น หรือคิดเป็น 38% โดยใช้เงินไปทั้งสิ้น 7.94 พันล้านบาท มันทำให้ราคาหุ้นในกระดานที่ 6 บาท บวกไป 0.10 บาท มีความเสี่ยงขึ้นมาในทันทีเจ้าค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ JAS เพราะนับตั้งแต่เคลียร์ชัดทุกประเด็น แผนซื้อหุ้นคืนสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย หุ้นตัวนี้ก็มีสง่าราศีมากขึ้นในทันที แรงซื้อเริ่มไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 4.94 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.77 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องตามกระแสให้ทัน เพราะราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ในเที่ยวนี้ ค่อนข้างสูงพอสมควรนะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับในรายของ SUPER หากมองตามเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของการเล่นเก็งกำไรสั้นๆ เพราะเมื่อดูจากจำนวนไฟที่ COD ได้ตามเป้าที่วางไว้ การวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.89 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่า 730 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน แต่ที่ต้องคิดกันต่อก็คือ หุ้นจะวิ่งขึ้นไปเกิน 2 บาทได้อย่างไร?..ตรงนี้เป็นเรื่องน่าคิดสุดๆ เจ้าค่ะ
*ประเด็นข้างต้นเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ PACEหลังราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ขึ้นบ้าง ลงบ้างแต่รวมๆ ถือเป็นการขยับแบบบันไดขาขึ้น ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่3.36 บาท บวกไป 0.06 บาท ด้วยมูลค่า 245 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสุดๆ แต่ขอเล่าประวัติความเป็นมาให้ฟังนิดหนึ่งว่า ปีก่อนก็พุ่งขึ้นไปถึง 3.60 บาท ต่อจากนั้นรูดลงมายืนอยู่ที่ 2.60 บาท มันจะซ้ำรอยไหมล่ะจ๊ะ
*ส่วนที่แปลกแหวกแนวอย่าง ASN มันคือความเสี่ยงที่นักเล่นรับรู้กันเป็นอย่างดี แต่ยังพร้อมลุยสุดตัวแบบไม่คิดชีวิตแบบนี้กระมั้ง หุ้นถึงพุ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 8.35 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่า 190 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกม “ลากๆ ทุบๆ” ที่ต้องติดตามดูกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นถึงจะรู้ว่า “นรก” กับ “สวรรค์” ต่างกันอย่างไร ตอนนี้พูดไปอย่างไร ก็ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ