รีบาวด์..ตามระเบียบโมนิก้าและทีมงาน
*หลังจากดัชนีรูดลง 3 วันติดต่อกัน จนกลายเป็นอีกา 3 ตัว (ฝรั่งถือเป็นลางร้าย) แต่พอถึงวันที่ 4 ดัชนีสามารถเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,428.10 จุด บวกไป 6.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.50 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจุดที่ทำให้สถานการณ์ดูผ่อนคลายลงไปในทันที พร้อมกับทำให้นักเล่นเริ่มมีเวลาคิดทบทวนปัจจัยรอบด้านที่เข้ามากระทบกับการลงทุนในเที่ยวนี้มีอะไรบ้างไงล่ะค่ะ
*หลังจากดัชนีรูดลง 3 วันติดต่อกัน จนกลายเป็นอีกา 3 ตัว (ฝรั่งถือเป็นลางร้าย) แต่พอถึงวันที่ 4 ดัชนีสามารถเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,428.10 จุด บวกไป 6.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.50 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจุดที่ทำให้สถานการณ์ดูผ่อนคลายลงไปในทันที พร้อมกับทำให้นักเล่นเริ่มมีเวลาคิดทบทวนปัจจัยรอบด้านที่เข้ามากระทบกับการลงทุนในเที่ยวนี้มีอะไรบ้างไงล่ะค่ะ
*เนื่องจากประเด็นที่มีการพูดถึงมากสุดในเที่ยวนี้คือ เงินทุนจะเคลื่อนย้ายไปลงทุนที่ไหน? หลังจากสัญญาณหลายอย่างบอก ที่โน้นดี..ที่นี้ดี สุดท้ายไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม “โมนิก้า” ถึงมองการดีดตัวของดัชนีเที่ยวนี้เป็นเพียงการทดสอบแรงซื้อธรรมดาๆ และการรีบาวด์ในเที่ยวนี้ก็เป็นเพียงการทะยานขึ้นแบบเสียมิได้นะจะบอกให้
*หากดัชนีไม่เด้งขึ้นอย่างที่เกริ่นนำไว้ สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะย่ำแย่กว่าที่เป็นอยู่ แรงเทขายจะพรั่งพรูออกมาเป็นระลอก จนทำให้นักเล่นเกิดอาการเซ็งเป็ดไปตามกัน และข้อมูลในส่วนดังกล่าวยังบอกให้รู้อีกนิดหนึ่งว่า วันนี้ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า เส้นแนวรับ 25 วันบริเวณ 1,416 จุดจะถูกทดสอบอีกครั้งหรือไม่ เพราะนักเล่นซุ้มต่างๆ เคาะขวากันเปาะแปะเหลือเกินเจ้าค่ะ
*ผิดกับหุ้นที่มีข่าวดีอย่าง BANPU พอสบช่องได้โอกาสอย่างเป็นทางการ ก็วิ่งปรู๊ดปราดขึ้นมาปิดที่ 13.20 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 8.20% ด้วยมูลค่า 2.38 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมความเชื่อที่ผู้เล่นต้องตามกระแสให้ดีๆ หากพลาดท่าขึ้นมา ต้องรีบตัดใจโดยด่วน แถมวันนี้หุ้นลูกอย่าง BANPU-W3 เข้าเทรดเสียด้วย มีโอกาสสูงเหลือเกินที่แม่ลูกคู่นี้จะซัดกันแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวพะยะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ AAV ซึ่งเสร็จเจ้าสัว “วิชัย” เจ้าพ่อดิวตี้ฟรีอย่างเป็นทางการ ก็ทำให้ผู้คนครึ้มอกครึ้มใจกันยกใหญ่ และมองดีลนี้ วิน-วิน แต่ทุกคนหลงลืมไปว่า ต้นทุนของเจ้าสัวอยู่แค่ 4.20 บาท ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานอยู่ที่ 6.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือ 4.20% ด้วยมูลค่า 3.62 พันล้านบาท มันทำให้เห็นว่า วันนี้เจ้าสัวบุ๊คเงินเข้ากระเป๋าทันทีกว่า 3.60 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงอยากถามแฟนคลับว่า พื้นฐานหุ้น กับ ราคาหุ้น ตอนนี้มันสัมพันธ์กันหรือยังเจ้าค่ะ
*ส่วนที่สัมพันธ์อย่างแน่นอน “โมนิก้า” ต้องหันกลับไปมองที่ JASเป็นลำดับแรกก่อนใครเพื่อน หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.20 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 1.70 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ไม่มีอะไรต้องคิดมาก ในเมื่อปลดเปลื้องภาระทุกอย่างออกหมดแล้ว วันนี้ก็เดินหน้าแบบฉลุยในทันที..ว่าแต่ ราคาหุ้นจะไปจบตรงไหน เป็นเรื่องที่น่าขบคิดไม่ใช่น้อย วันถัดไปจะมาเฉลยว่า ตรงกับที่แฟนคลับคิดไหม?
*อีกหนึ่งช็อตที่ทำให้แฟนพันธุ์แท้สไตล์แวลูอินเวสเม้นท์ต้องหันมามองในทันทีในยามนี้คือ PTG เพราะราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในเดือน เม.ย. อยู่ที่ระดับ 14 บาท ล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 21.90 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.80% รวมเบ็ดเสร็จใช้เวลาประมาณ 2 เดือนครึ่ง หุ้นตัวนี้ให้รีเทิร์น 56% แถมงบไตรมาส 1 ปี 59 ทำกำไรได้ครึ่งหนึ่งของปี 58 หุ้นเลยเดินหน้าขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ไงล่ะจ๊ะ
*ส่วนเสือซุ่มอย่าง CWT จู่ๆ กระชากขึ้นมายืนอยู่ที่ 2.16 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 115 ล้านบาท “โมนิก้า” สงสัยเหลือเกินว่า มีสิทธิ์ซ้ำรอยเหมือนก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนั้นหุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 2.40 บาท แต่ถัดมาอีกวันเดียว หุ้นก็รูดลงมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายไปตั้งหลักที่บริเวณ 1.80 บาท มันเป็นภาพที่ทำให้เดี๊ยนจำติดตาจนถึงทุกวันนี้นะจะบอกให้
*อีกหนึ่งบททดสอบที่น่าสนใจก็คือ NPP ประกาศควักเงิน 85 ล้านบาท เข้าซื้อ The Brio Mall ซึ่งเป็น ศูนย์การค้าย่านพุทธมณฑลสาย 4 พร้อมกับมีแผนพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า แถมคุยโอ่ว่า รับรู้รายได้ทันที! มันเป็นข่าวพื้นๆ ที่ไม่นัยสำคัญก็จริง แต่รู้กันหรือไม่ว่า มีข่าวลับๆ ล่อๆ เกี่ยวกับดีลนี้มาระยะหนึ่ง ซึ่งหลายคนวงในรู้กันอย่างกว้างขวางว่า ห้างนั้นเป็นของใคร?
*ประเด็นมันอยู่ตรงที่ มิสเตอร์ T(ฝั่งผู้ขาย) กลายเป็นผู้เล่นหลักในหลายดีลที่เกิดขึ้นอย่างลับๆ ในตลาดหุ้น โดยที่ความสัมพันธ์แบบแนบสนิทชิดเชื้อเกิดขึ้นกับ มิสเตอร์ P (ฝั่งผู้ซื้อ) ตอนไหนไม่มีใครรู้ “โมนิก้า” ถึงต้องออกโรงเม้าท์ถึงเรื่องนี้สักหน่อย เพราะที่ผ่านมาได้แต่ป้องปากเม้าท์เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่า เกิดอะไรขึ้น? สุดท้ายเรื่องออกมาเป็นแบบนี้..คนวงในเขาเลยรู้ว่า ต้องมีซัมติ้งรองอย่างแน่นอน แถมคนที่อยู่เบื้องหลังทั้ง 2 ฝั่งมีแต่ตัวแสบๆ ถามจริงเถอะ!..ตั้งใจมา “ทำธุรกิจ” หรือ “ทำหุ้น” กันแน่!…อิอิอิ