หุ้นนอกกระแสโมนิก้าและทีมงาน
*ช่วงที่ผ่านมา “โมนิก้า” พูดถึงหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นกระแสเยอะแยะไปหมด วันนี้เลยถือโอกาสเม้าท์ถึงหุ้นนอกกระแส เพื่อหลบเลี่ยงผลกระทบจากการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี เพราะของมันเห็นกันเต็มตาว่า ดัชนียังขยับเขยื้อนไปไหนได้ไม่ไกล แถมนักลงทุนสถาบันที่เคยซื้อหุ้นอยู่ดีๆ ก็หันมาเทขายหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยอีกครั้ง การทะยานขึ้นของดัชนีในเที่ยวนี้เลยไม่ง่ายอย่างที่คิดนะจะบอกให้
*ช่วงที่ผ่านมา “โมนิก้า” พูดถึงหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นกระแสเยอะแยะไปหมด วันนี้เลยถือโอกาสเม้าท์ถึงหุ้นนอกกระแส เพื่อหลบเลี่ยงผลกระทบจากการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี เพราะของมันเห็นกันเต็มตาว่า ดัชนียังขยับเขยื้อนไปไหนได้ไม่ไกล แถมนักลงทุนสถาบันที่เคยซื้อหุ้นอยู่ดีๆ ก็หันมาเทขายหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยอีกครั้ง การทะยานขึ้นของดัชนีในเที่ยวนี้เลยไม่ง่ายอย่างที่คิดนะจะบอกให้
*เมื่อหวยออกมาในรูปนี้ “โมนิก้า” มองว่า ไม่มีความจำเป็นที่แมงเม่าเหงาใจต้องทำตัวเป็นที่รองมือรองเท้านักลงทุนสถาบัน เพราะคติการลงทุนในวันนี้เป็นเรื่องซื้อหุ้น ไม่ได้ซื้อดัชนี แถมหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีมากถึง 700 กว่าตัว จึงควรมองดัชนีเป็นแค่ตัวบอกทิศทางตลาดหุ้น และมองการซื้อหุ้นเป็นการคาดหวังรีเทิร์น 5% เป็นอย่างต่ำ แต่ในภาวะตลาดหุ้นผันผวนแบบนี้ ได้กำไรสัก 3 ช่อง น่าจะเผ่นก่อนดีไหม?
*ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในยามนี้คือ AAV มองในมุมของกระแสกลุ่มทุนใหม่เข้ามา กลุ่มทุนเก่าออกไปอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของกระแสล้วนๆ ไม่มีประเด็นอื่นเจือปน จึงไม่แปลกใจที่หุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 6.15 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.36 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ชี้ชัดว่า เมื่อปัจจัยพื้นฐานไม่สอดรับ หุ้นก็ไปไม่รอดเหมือนกัน จึงกลายเป็นหุ้นที่ต้องเฝ้าระวังในทันทีเจ้าค่ะ
*ส่วนหุ้นแม่ลูก BANPU กับ BANPU-W3 กลายเป็นกรณีศึกษาที่ทำให้แมงเม่าปีกอ่อนได้เรียนรู้ยุทธการดันหุ้นแม่ เพื่อรอรับหุ้นลูกเข้าเทรดอย่างเป็นทางการ วานนี้ถึงเห็นหุ้นแม่อ่อนตัวลงมาปิดที่ 12.80 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.77 พันล้านบาท ส่วนตัวลูกเปิดเทรดที่ราคา 7.85 บาท ก่อนจะลงเอยที่ราคา 7.55 บาท ด้วยมูลค่า 2.31 พันล้านบาท รวยกันถ้วนหน้าไหมล่ะค่ะ
*ว่าจะเม้าท์ถึงหุ้นนอกกระแส สุดท้ายต้องเม้าท์ถึง CBG ก่อนจะเข้าวาระสำคัญจนได้ และเหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงมาจากปฏิกิริยาของหุ้นที่ตอบสนองในด้านบวกมาโดยตลอด จนวานนี้ทะยานขึ้นมาปิดที่ 50.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 612 ล้านบาท พร้อมกับทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น มันเป็นจังหวะนักลงทุนสไตล์คุณค่าน่าจะตามไปดูนะจะบอกให้
*ในที่สุดก็ถึงเวลาเม้าท์ถึงหุ้น TTCL อย่างเป็นทางการเสียที หลังจากราคาหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 21.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 10.30% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 540 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจุดกลางๆ ของขาขึ้นรอบใหม่ ซึ่งเป็นจังหวะที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย หลังบริษัทมีงานก่อสร้างใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลา ผู้รู้หลายท่านเลยมองว่า กำไรในปี 59 จะออกมาเริ่ดสะแมนแตนพะยะค่ะ
*อีกหนึ่งช็อตที่น่าติดตามดูจริงๆ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่ CMR มากเป็นพิเศษ หลังหุ้นขยับขึ้นขยับลงวันเว้นวัน โดยมีกรอบการวิ่งกว้างๆ ในช่วง 5 วันที่ผ่านมาในระดับ 5.50-6.50บาท ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 6.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่า 190 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องคิดกันเอาเองว่า วันนี้จะ “ขึ้น” หรือ “ลง” กันแน่เจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งทีเด็ดที่ “โมนิก้า” เชียร์อยู่ทุกค่ำคืนในเที่ยวนี้คือ BEAUTY เพราะงดงามทั้งผลประกอบการ และงดงามทั้งราคาหุ้น แถมพี่หมอยังมีความเซ็กซี่ในแบบฉบับที่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ เดี๊ยนถึงเห็นด้วยที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.35 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นพอตัวแบบนี้ มีโอกาสที่หุ้นจะกระชากขึ้นไปทำ new high นะจะบอกให้
*ส่วนคนที่ชอบตามกระแสสุดๆ และไม่หวั่นทุกสถานการณ์ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับหันไปมอง THANIอย่างรวดเร็ว เพราะตลอดระยะเวลา 2 เดือนครึ่ง หุ้นตัวนี้อยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจน จากเดิมราคาหุ้นอยู่แค่ 3 บาท มาวันนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ 4.58 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 6.50% รวมเบ็ดเสร็จตั้งแต่วันที่เริ่มตั้งไข่จนถึงวานนี้ หุ้นตัวนี้ให้รีเทิร์นไปทั้งสิ้น 50% แถมเป็นการเทรดบนค่า P/E 14 เท่า มันน่าสนไหมล่ะค่ะ
*ตบท้ายกันที่หุ้นชวนป๋วยปี่แปกอ ตราลูกกตัญญู TPCHกันสักหน่อย หลังหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 16.70 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นเป็นอันดับ 1 ของตลาดmai “โมนิก้า” ถือว่า การเล่นรอบเที่ยวใหม่กำลังเกิดขึ้น ส่วนรอบนี้จะขึ้นไปถึง 18 บาทหรือเปล่า? มันเป็นเรื่องที่น่าคิดไม่ใช่น้อย เพราะในช่วงที่ผ่านมาชอบล่มปากอ่าวแถวบริเวณ 17.50 บาทเป็นประจำน่ะสิตัวเอง
*ป.ล. การกลับเข้ามาซื้อของฝรั่งขี้นก และปอบผีฟ้า โดยที่กองทุนตัวแสบยังคงขายหุ้น แต่ดัชนีกลับวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,434.89 จุด บวกไป 6.79 จุด ด้วยมูลค่า 4.70 หมื่นล้านบาท มันเป็นความผันผวนที่นักเล่นต้องเผชิญต่อไปอีกระยะหนึ่งพะยะค่ะ