พาราสาวะถี อรชุน

เป็นไปตามคาด ไม่ว่าจะใช้ยุทธการหรือแผนการแบบไหน ไม่มีทางที่ดีเอสไอจะสามารถจับกุมตัว ธัมมชโย ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ แผนกรกฎ 52 หรือ กบิล 59 ที่ตำรวจวางไว้ไม่อาจได้ผล เพราะปฏิบัติการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องการเล่นกับความเชื่อของคนหมู่มาก หากวัดพระธรรมกายระดมคนกันเต็มที่ ถามว่าเจ้าหน้าที่จะรับมือไหวหรือไม่


เป็นไปตามคาด ไม่ว่าจะใช้ยุทธการหรือแผนการแบบไหน ไม่มีทางที่ดีเอสไอจะสามารถจับกุมตัว ธัมมชโย ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ แผนกรกฎ 52 หรือ กบิล 59 ที่ตำรวจวางไว้ไม่อาจได้ผล เพราะปฏิบัติการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องการเล่นกับความเชื่อของคนหมู่มาก หากวัดพระธรรมกายระดมคนกันเต็มที่ ถามว่าเจ้าหน้าที่จะรับมือไหวหรือไม่

ทางที่ดีที่สุดควรจะใช้การเจรจาในทางลับ จะเสนอเงื่อนไขอะไรยังไงสามารถทำได้เต็มที่ เมื่อเลือกที่จะทำให้เป็นข่าวใหญ่โต เอิกเกริก ก็ถามว่าได้อะไร นอกจากภาพที่ปรากฏว่าดีเอสไอได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ถูกกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย แค่สร้างภาพทำลายความน่าเชื่อถือของธัมมชโยและวัดพระธรรมกายเท่านั้น แต่มันไม่มีประโยชน์มรรคผลใดๆ ต่อประเทศชาติหรือแม้แต่พระพุทธศาสนา

ส่วนที่ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ออกแถลงการณ์ขอให้คดีความของธัมมชโยเดินไปในบริบทที่บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยนั้น เหตุผลสำคัญคงจะเป็นกรณีที่รัฐบาลคสช.ดึงเรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ จึงทำให้คนส่วนหนึ่งมีความเชื่อว่า นี่เป็นการสมคบคิดกับพระนอกรีตและขบวนการบางกลุ่มคิดไม่ซื่อ

เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ไว้วางใจกันเสียแล้ว การจะลุยดะโดยอ้างข้อกฎหมายนั้น มีแต่หายนะเท่านั้นที่รออยู่ข้างหน้า ยิ่งเป็นการแตะเรื่องความเชื่อของคนด้วยแล้วถือเป็นความอ่อนไหวอย่างยิ่ง ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ย่อมรู้ดีว่า เรื่องนี้สมควรจะเดินเกมกันอย่างไร เว้นเสียแต่ว่าจะเห็นดีเห็นงามกับพวกยุยงส่งเสริมนั่นก็อีกเรื่อง ถ้าบ้านเมืองบรรลัยวายวอดก็ต้องกล้าที่จะแสดงความรับผิดชอบ

ขณะที่มีบางคนบางพวกพยายามจะโยงว่าธัมมชโย วัดพระธรรมกายก็คือกองหนุนชั้นดีของคนเสื้อแดงนั้น คงต้องคิดกันเสียใหม่ เพราะลูกศิษย์ของวัดแห่งนี้มีหลากหลายวงการ ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าของสื่อที่อยู่คนละขั้วกับนปช. ถึงขั้นยอมเปลี่ยนนามสกุลเพื่อให้คนเห็นว่าเลื่อมใสและศรัทธาจริง ส่วนเหตุผลที่แท้จริงนั้นใครๆ ก็รู้ว่า ใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อต่อท่อใกล้ชิดกับเจ้าสัวคนดังและก็สำเร็จในที่สุด

นี่คือความจริงซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าที่วัดพระธรรมกายนั้นเหล่าคนเก่ง คนดังเขาไปปฏิบัติธรรมโดยมีเป้าหมายอย่างไรกันบ้าง ดังนั้น จึงอย่าได้ไปกล่าวหาว่าเป็นวัดของคนสีไหน กลุ่มใด เพราะส่วนใหญ่หากไม่ตอแหลกันแล้วคงต้องบอกว่าเป็นของกลุ่มผลประโยชน์หลายกลุ่มมากกว่า ส่วนคนที่เชื่อและศรัทธาในคำสั่งสอนนั่นก็อีกเรื่อง

ไหนๆ ก็พูดถึงความเชื่อและอคติแล้ว จะไม่พูดถึงกรณีอาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ที่เหยียดหยามว่าที่นิสิตของรั้วจามจุรีคนหนึ่งก็กระไรอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่อยากพูดถึงเพราะกรณีนี้มันเป็นเรื่องของวุฒิภาวะส่วนบุคคลและถือเป็นวุฒิภาวะที่ต่ำมากของคนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นบุคลากรที่สอนทางด้านความเป็นครู เพราะดูถูกคนที่หน้าตา

ไม่ขอเอ่ยชื่อให้เสียหายแต่แค่เห็นหน้าอาจารย์คนดังว่าแล้ว ถ้าจะใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับที่อาจารย์ใช้เหยียดหยาม เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ผู้ที่สอบเข้าเรียนภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้แล้ว ต้องบอกว่าตัวเองก็โหงวเฮ้งไม่ได้ดีไปกว่าคนที่ถูกดูถูกแต่อย่างใด ถ้าหล่อถึงขั้นพระเอกหุ่นดีเหมือนนายแบบก็ว่าไปอย่าง

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาดูถูกหรือวัดค่าของคน ก็ถูกแล้วที่บรรดาศิษย์เก่าจุฬาฯ ไม่ว่าจะเป็น วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ชาติชาย ณ เชียงใหม่ และ สดศรี สัตยธรรม จะพากันประณามท่าทีดังกล่าวของอาจารย์คนดังว่า จนเจ้าตัวต้องออกมาขอโทษผ่านเฟซบุ๊คไปแล้ว การเป็นครู เป็นอาจารย์สอนเด็กจะต้องเป็นคนที่มีจิตใจเมตตารักลูกศิษย์ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นแบบไหน

สิ่งสำคัญไม่ควรนำเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับสถาบัน เพราะคนที่สอบเข้าจุฬาฯได้นับเป็นพี่เป็นน้องชาวสีชมพูหมด ไม่มีการแบ่งแยกว่าเด็กคนใดจะนิยมชมชอบลักษณะไหน คิดว่าการเมืองควรอยู่นอกเหนือกิจกรรมของนิสิต โดยเฉพาะอาจารย์ผู้สอนไม่ควรมีแนวคิดเรื่องการเมืองแบ่งแยกสี เพราะไม่เช่นนั้นจะสอนเด็กได้อย่างไร

ทางด้านคนที่ถูกพาดพิงอย่างเนติวิทย์ก็ได้ออกมาตอบโต้ ซึ่งสมกับเป็นนักเรียนนักกิจกรรมที่มีวุฒิภาวะเป็นอย่างยิ่ง หลายถ้อยคำน่าจะทำให้อาจารย์คนดังกล่าวได้สำเหนียกสำนึก “อาจารย์สอนอยู่ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ พาดพิงมาถึงผมในเชิงที่ต่ำตมมาก  แล้วรู้สึกว่านี่หรือคือคนที่สอนครู คุณจะสอนคนเป็นครูได้ยังไง ในขณะที่ตัวคุณเต็มไปด้วยอคติขั้นมืดบอด คุณจะสอนคนเป็นครูได้ยังไง ในเมื่อตัวคุณเอง ยังไม่ได้คุยกับเด็ก แต่ดูแค่หน้าตา ก็โกรธรังเกียจแล้ว”

บทเรียนจากกรณีนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่เตือนสติผู้มีอำนาจว่า อย่าได้ไปกล่าวหาคนบ้านนอกคอกนาโดยเฉพาะทางฝั่งของผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ว่าไม่รู้จักแยกแยะ เพราะขนาดคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์แท้ๆ และมีสถานะสอนคนที่จะจบไปเป็นครูด้วยแล้ว ยังพกเอาอคติส่วนตัวมากีดกันนักเรียนอย่างไร้เหตุผล นี่คงเป็นบทพิสูจน์ว่ากลุ่มคนดีใช่ว่าจะมีคุณธรรมเสมอไป

วันอาทิตย์นี้น่าติดตามว่า การเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่มนปช.ทั่วประเทศจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะน้องเล็กบอกทำได้ไร้ปัญหา แต่พี่ใหญ่สั่งห้ามเด็ดขาด โดยพบว่าในบางจังหวัดทหารมีการเชิญเครือข่ายแนวร่วมนปช.ที่เตรียมจะตั้งศูนย์ปราบโกงไปอบรมกันในค่ายทหารบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่างานนี้ฝ่ายความมั่นคงได้ทำงานพร้อมกันทั่วประเทศแน่นอน

ต้องไม่ลืมว่า หากปรากฏภาพทหารตำรวจไปไล่ปลดป้ายศูนย์ปราบโกง แล้วมีภาพไปเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ นานาชาติจะมองการทำประชามติครั้งนี้อย่างไร ในเมื่อไม่โกงและต้องการทำทุกอย่างให้โปร่งใส แล้วจะกลัวศูนย์ปราบโกงไปทำไม ไม่ว่าใช้ตรรกะแบบไหนมาอธิบายมันก็ฟังได้ยาก หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านมันจะสง่างามได้อย่างไร

ที่ต้องขีดเส้นใต้กันอีกรอบคือ คำให้สัมภาษณ์ของ กลินด์ ทาวเซนต์ เดวี่ส์ ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยหลังเข้าพบ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันก่อน เห็นว่าควรจะเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้คนไทยทุกระดับมีส่วนร่วมก่อนถึงวันลงประชามติ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่คนไทยจะได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น จุดยืนเช่นนี้คงไม่แตกต่างจากประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ ตรงนี้ต่างหากที่จะเป็นตัวแปรสำคัญอีกประการ เพราะหลังเลือกตั้งตามโรดแมปแล้วประเทศไทยจะมีที่ยืนอย่างไรบนเวทีสากล

Back to top button