สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,424.68 จุด ปรับลดลง 6.12 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.3 หมื่นล้านบาท


ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,424.68 จุด ปรับลดลง 6.12 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.3 หมื่นล้านบาท

* แม้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลง แต่รายย่อยเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เข้าซื้อสุทธิสวนสิครับ ไม่มีรอช้า 1,060 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเทขายสุทธิจัดไปสามประสาน เริ่มจากสถาบันจัดหนักสุด 508 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 433 ล้านบาท และต่างชาติ 118 ล้านบาท

* ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ชักเริ่มกลับมาผันผวนพอสมควร ปรับแผนไปเลือกลงทุนหุ้นรายตัวที่ปัจจัยบวกสนับสนุนชัดเจนดีกว่า ถือเป็นการ “เพลย์เซฟ” มากที่สุดแล้ว

* เริ่มด้วยดูโอแม่ลูก BANPU และ BANPU-W3 อันนี้เรียกได้เต็มปากว่า อยู่ในภาวะไล่กวดราคากันอย่างชัดเจน

* ถ้าวัดจากราคาปิดล่าสุดเมื่อวาน นับว่า BANPU-W3 อยู่ในสถานการณ์น่าสนใจกว่าตัวแม่แน่นอน

* เนื่องจากวอร์แรนต์ปิดบวก 8.55 บาท ถ้าบวกต้นทุนใช้สิทธิ 5 บาท เท่ากับมีต้นทุนรวม 13.55 บาท จึงยังต่ำกว่าหุ้นแม่ที่ปิดล่าสุด 14 บาท นั่นเอง * เชื่อได้เลยว่า การไล่กวดราคาจะยังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง เพราะอย่าลืม BANPU ตั้งความหวังกับการแปลงสิทธิครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญที่บริษัทจะเอาไปชำระหนี้เพื่อกด D/E ให้ต่ำลง

* ต่อด้วยหุ้น JAS ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลังจากอัดข่าวดีล่าสุดด้วยการจ่ายปันผล 15 สตางค์ และถือเป็นอีกหุ้นที่อยู่ในภาวะวิ่งกวดราคาด้วยเช่นกัน

* เพราะ JAS-W3 มีกำหนดใช้สิทธิแลกซื้อหุ้นแม่ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้แล้ว

* ถ้ามองด้วยสายตาคร่าวๆ ภาพรวมต้นทุนตัวลูกบวกแปลงสิทธิยังแพงกว่าหุ้นแม่อยู่นะ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะดันหุ้นแม่กันต่อ

* แต่ในเบื้องต้นรอบ 4 วันทำการล่าสุด JAS วิ่งขึ้นมาแล้วถึง 10% จนมาปิดอยู่ที่ 5.75 บาท * รวมถึงถ้าเทียบกับราคาเป้าหมายที่โบรกฯ ตั้งไว้ 5.80 บาท เท่ากับหุ้นในกระดานเริ่มใกล้ตัน ดังนั้น ต้องขายทำกำไรกันไปก่อน รออ่อนตัวค่อยเข้าช้อนอีกที * ย้ายกันไปที่หุ้นโรงกลั่นน่าสนใจไม่เบา โดยขอเลือก BCP-IRPC เป็นตัวชูโรง

* ฝั่ง BCP แววสดใสด้วยทิศทางงบไตรมาส 2 ที่กลับมาเติบโต โดยพื้นฐานตัวธุรกิจปั๊มน้ำมันหรือจะค่าการกลั่นที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี

* ที่สำคัญสต๊อกเกนมีโอกาสสูงจะได้กลับมาบันทึกอีกรอบ เพราะดูเบื้องต้นแล้วราคาเฉลี่ยน้ำมันไตรมาส 2 ยังไงก็สูงกว่าระดับ 40 เหรียญแน่ มากกว่า Q1 ที่ปิดต่ำเพียง 35 เหรียญเท่านั้น

* แล้วยังมีสตอรี่เตรียมดัน BCPG บริษัทลูกธุรกิจไฟฟ้าเข้าตลาดเพิ่มอีก

* ส่วน IRPC แน่นอนต้องมีลุ้นบันทึกสต๊อกเกนด้วยเหมือนกัน แต่ที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ คือ โครงการ UHV จะเริ่มผลิดอกออกผลกันแล้ว * ล่าสุด โบรกฯ รายงานกันว่า UHV จะเดินเครื่องเต็มกำลัง 100% ตั้งแต่เดือนก.ค.นี้ เป็นต้นไป

* ดังนั้น จะส่งผลให้บริษัทมีโอกาสฟาดกำไรจากเฉพาะ UHV เข้ามาถึงประมาณ 800 ล้านบาท เยอะมากไม่เบาเลยนะ

* หุ้นราคาต่ำแต่พื้นฐานใหญ่เกินตัว TRC ล่าสุด รับข่าวดีลุ้นคว้างานใหญ่ 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท

* ตามปกติแล้วงานที่ TRC เปิดเผยกันไม่ค่อยมีพลาดหลุดมือสักเท่าไหร่ จึงเป็นไปได้สูงที่จะได้รับงานนี้

* หากทุกอย่างไม่ผิดแผนนี่เท่ากับแบ็กล็อกในมือเตรียมพุ่งกระฉูดได้เลย ราคาเป้าหมายเกิน 2 บาท สายเทรดดิ้งเก็งกำไรรับข่าวได้เลย

* หุ้นเสาหลักประจำบ้าน PTT ว่ากันตามความเป็นจริง ราคาในกระดานยังไม่ได้สะท้อนถึงการเทิร์นอะราวด์ในปีนี้เลยนะ

* แถมล่าสุด ยังมีปัจจัยบวกเรื่องแยก “ธุรกิจค้าปลีก” เข้าตลาดมาช่วยหนุนเพิ่มเข้าไปอีก

* จึงอยากขอให้จับตาประเด็นนี้กันไว้หน่อย เพราะหากทุกอย่างชัดเจน เบื้องต้นโบรกฯ ดีดออกมาเลยว่า จะเพิ่มอัพไซด์หุ้นขั้นต่ำประมาณ 15 บาทเลยทีเดียวแหละ

* ส่วนงบไตรมาส 2 ทิศทางจะกลับมาสดใส เพราะนอกจากกลุ่มธุรกิจบริษัทลูกฟื้นตัวแล้ว ตัวของ PTT เองจะยังแกร่งด้วยเช่นกัน

* โดยเฉพาะตัว NGV ที่ในอดีตเคยแบกหนักอกหนักใจกันไว้ แต่ตอนนี้พลิกโฉมโยนทิ้งขาดทุนลงถังได้เรียบร้อยแล้ว

Back to top button