ย่อยรับ..ไม่ใช่..ย่อยยับโมนิก้าและทีมงาน

*โปรยหัวแบบนี้! บ่องตงว่า ถูกใจแฟนคลับของ “โมนิก้า” อย่างแน่นอน เพราะสุดท้ายก็ไม่มีใครรักตลาดหุ้นไทยเท่ากับรายย่อยอีกแล้ว พร้อมกับทำให้รู้ว่า กองทุนตัวแสบนิยมเล่นเกมลากๆ ทุบๆ  ส่วนปอบผีฟ้าก็ไหลไปเรื่อยเปื่อย เชื่ออะไรไม่ค่อยได้ ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวก็ขายหุ้นตามสเต็ปเดิมที่วางไว้ทุกประการ มันเป็นวังวนเดิมๆ เหมือนที่เคยทิ้งท้ายไว้เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนพะยะค่ะ

*งานนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องฟื้นฝอยหาตะเข็บอะไรทั้งสิ้น เพราะยอดเทขายสุทธิกว่า 7.50 พันล้านบาท ก็มาจากกองทุนตัวแสบ ส่วนยอดเทขายกว่า 4.65 พันล้านบาท ก็มาจากปอบผีฟ้า ขณะที่ยอดเทขาย 800 ล้านบาท ก็มาจากฝรั่งตาน้ำข้าว โดยทั้งหลายทั้งปวง รายย่อยรับของคนเดียวเพียวๆ ไปทั้งสิ้น 1.29 หมื่นล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ตอกย้ำว่า รายย่อยคนดีที่หนึ่งเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงต้องปรบมือดังๆ ให้กับการเด้งขึ้นของดัชนีมาปิดที่ 1,413.19 จุด ลบไป 23.21 จุด ด้วยมูลค่า 8.82 หมื่นล้านบาท เพราะก่อนหน้านี้โดนถล่มจนลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,393.83 จุด “โมนิก้า” ถือเป็นภาพที่นักลงทุนไม่คุ้นเคยก็จริง แต่อย่างน้อยก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ว่า เกมหุ้นที่เล่นกันในช่วงข่าวสารไม่ชัดเจน แถมผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิดไว้ สภาพตลาดหุ้นถึงเละเทะขนาดนี้ไงล่ะค่ะ

*ในเมื่อกองทุนไม่กล้า คนอื่นออกอาการปอดแหก การทะยานขึ้นของเจ้าจำปี THAI มาปิดที่ 24.60 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 7.90% ด้วยมูลค่า 3.40 พันล้านบาท “โมนิก้า” จึงขอยกความดีความชอบให้กับรายย่อยล้วนๆ และตรงจุดนี้ทำให้เดี๊ยนมั่นใจขึ้นไปอีกขั้นว่า หุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปอีกเรื่อยๆ เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ดวงกำลังขึ้นสุดๆ ราคาเป้า 30 บาทเลยอยู่แค่เอื้อมนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ BJCจู่ๆ เด้งขึ้นมาปิดที่ 42.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่า 1.17 พันล้านบาท แถมเป็นการปรับตัวขึ้น 3-4 วันติดๆ แบบนี้ และยังเป็นการทำ new high ในรอบ 1 ปี 7 เดือน “โมนิก้า” ขอสันนิษฐานว่า น่าจะมีอะไรดีๆ ซ่อนไว้อย่างแน่นอน จึงกลายเป็นหุ้นน่าสนใจขึ้นมาในทันที แต่เพื่อความปลอดภัยก็ควรเล่นแบบสั้นๆ ไว้ก่อนนะคะ

*เหมือนกับในรายของ BWG รู้ว่ามีกองเชียร์เม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้เยอะแยะไปหมด แต่อย่าลืมว่า แพทเทิร์นของหุ้นยังเป็นอะไรที่ฟันธงได้ค่อนข้างยาก แถมปีที่แล้วทำรายย่อยป่นปี้กันเป็นแถว “โมนิก้า” ถึงอยากให้คิดสั้นๆ กันสักนิดว่า การขึ้นมาปิดที่ 2.36 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่า 1.15 พันล้านบาท เป็นจังหวะของการลุยต่อจริงไหม? หรือจะรอให้หุ้นย่อตัว แล้วค่อยซื้อ..ไปคิดกันอีกรอบเจ้าค่ะ

*ที่น่าแปลกใจสุดๆ ในเที่ยวนี้คือ BEM สามารถไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 6.70 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่า 1.38 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่าช็อตนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะหลายคนก็รู้กันว่า มีกองทุนถือหุ้นตัวนี้เยอะพอสมควร แต่ไม่โดนสาดทิ้งเหมือนกับหุ้นตัวอื่นๆ ย่อมเป็นตัวแปรที่ทำให้เดี๊ยนมองว่า หุ้นกำลังอยู่ในช่วงย่ำฐานเพื่อขยับตัวเองขึ้นไปตั้งไข่บริเวณ 7 บาทก็แล้วกัน! เพราะมันไม่มีเหตุผลอื่นมาอธิบายได้เลยน่ะสิ

*ส่วนหุ้นดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง ILINK ยังคงเป็นช็อตเด็ดสำหรับ “โมนิก้า” ไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว และเหตุผลที่ต้องแสดงอาการโอเวอร์รีแอ็กต์ จนบางคนรู้สึกหมั่นไส้สุดๆ ก็มาจากพ่อหนุ่มน้อยไฟแรงที่มางานวันสัมมนาของ “ข่าวหุ้น”  ได้เล่าถึงแผนการเติบโตชนิดที่ภาพของธุรกิจลอยเข้ามาในสมอง จึงเชื่อเหลือเกินว่า การทะยานขึ้นมาปิดที่ 18.60 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 9.40% ด้วยมูลค่า 270 ล้านบาท เป็นการเซ็ทเกมขาขึ้นอีกครั้งเจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับในรายของ BEAUTY ที่ทะยานขึ้นมาปิด 7.75 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.33% ด้วยมูลค่า 182 ล้านบาท ทั้งที่หุ้นในตลาดส่วนใหญ่โดนเทขายอย่างหนักหน่วง แต่หุ้นตัวนี้กลับมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถึงขอแนะนำให้หุ้นตัวนี้ให้กับนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะกลางถึงยาว เพราะแค่ช่วงระยะเวลา 2 เดือน หุ้นขึ้นมา 2 บาท หรือให้รีเทิร์น 36%  น่าสนไหมล่ะค่ะ

*ส่วนที่เป๋ไม่เป็นขบวนแบบงงๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง TMB เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวดีเข้ามาเป็นระยะ จนหุ้นพยายามเด้งจาก 2.20 บาท เพื่อกลับขึ้นไปยืนแถว 2.70 บาท ก่อนจะเทกตัวขึ้นไปทดสอบ 3.20 บาทเป็นครั้งที่ 3 พอผ่านมาสักระยะหนึ่ง ฝันกลับไม่เป็นจริง! หุ้นก็รูดลงมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดลงมายืนอยู่ที่ 2.08 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่า 1.85 พันล้านบาท พร้อมกับทำจุด new low ในรอบ 2 ปี 5 เดือน แถมตรงจุดนี้เป็นแนวเด้งกลับ มันชวนให้ฟินเหลือเกินเจ้าค่ะ