เริ่มมีหวัง?โมนิก้าและทีมงาน
* ย้ำกันอีกครั้งว่า การที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,454.56 จุด บวกไป 9.57 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 5.40 หมื่นล้านบาท ถือเป็นเรื่องที่ต้องเพิ่มความระวังกันนิดหนึ่ง เพราะตามหลักวิชาการมองการเด้งกลับขึ้นมาเที่ยวนี้เป็นเพียงมูฟเมนต์สั้นๆ จึงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปอีกเรื่อยๆ หรือไม่? หากสถานการณ์ในภายภาคหน้ายังขมุกขมัวเช่นนี้เจ้าค่ะ
* ย้ำกันอีกครั้งว่า การที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,454.56 จุด บวกไป 9.57 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 5.40 หมื่นล้านบาท ถือเป็นเรื่องที่ต้องเพิ่มความระวังกันนิดหนึ่ง เพราะตามหลักวิชาการมองการเด้งกลับขึ้นมาเที่ยวนี้เป็นเพียงมูฟเมนต์สั้นๆ จึงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปอีกเรื่อยๆ หรือไม่? หากสถานการณ์ในภายภาคหน้ายังขมุกขมัวเช่นนี้เจ้าค่ะ
*ด้วยเหตุนี้กระมั้ง! ถึงเห็นเจ้าสำนักบางแห่งเริ่มปรับเป้าหมายของดัชนีในช่วงสิ้นปี 59 มีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 1,500 จุด พร้อมกับอ้างสารพัดเหตุผลขึ้นมาอธิบายเยอะแยะไปหมดนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นข้อมูลที่นักลงทุนต้องนำไปกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง เพราะในยามที่ตลาดหุ้นต่างประเทศถีบตัวขึ้นอีกรอบ พวกศาสดาโลกสวยมักมีอาการมโนแบบสุดซอยให้เห็นประจำนะคะ
*งานนี้ไม่ได้ต้องการชักใบให้เรือเสีย แต่เป็นการพูดจากเรื่องจริงที่เห็นกันมาตั้งแต่ต้นปี 59 “โมนิก้า” จึงขอตั้งคำถามกับแฟนคลับสักนิดหนึ่งว่า หุ้นแกนหลักทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมหรือยัง? และขอให้คิดต่อไปอีกนิดหนึ่งว่า ผลตอบแทนที่ได้จากหุ้นบลูชิพคุ้มค่ากับการลงทุนขนาดไหน? หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมของนักลงทุนสถาบันต่างไปจากเดิมขนาดไหน? ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ชี้ว่า เที่ยวนี้มีหวังหรือเปล่า?
*ส่วนสิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณาต่อมาก็คือ สถานการณ์ลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา!! จึงต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ขนาดหุ้นพลังงานเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นช้ากว่าชาวบ้านชาวช่อง กลับมีแรงซื้อไหลเข้ามากระปริบกระปรอย “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเสียใจที่หุ้นในกลุ่ม PTT ไม่แรงดั่งที่คาดหวัง!!..แต่อย่างน้อยก็เป็นทางเลือกอันดับแรกๆ ที่ต้องชายตามองในช่วงนี้
*เช่นเดียวกับในรายของ IVL หลังจากพิสูจน์ความแข็งแกร่งของแรงซื้อที่หนาแน่นให้ “ผู้ชม ผู้ฟัง ผู้ดู” เป็นที่เรียบร้อย “โมนิก้า” ก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน แต่ที่น่าเสียใจอย่างหนึ่งก็คือ หุ้นไม่แรงเหมือนอย่างที่คิดไว้!! จึงเชื่อว่า ในเร็วๆ นี้..หุ้นจะแกว่งตัวหาฐานแนวรับที่มั่นคง จึงอยากให้นักลงทุนแฟนพันธุ์แท้ หาจังหวะเข้าซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวนะจ๊ะ
*ส่วนที่มีข่าวดีไม่รู้จักจบจักสิ้นก็คือ CKP ราคาหุ้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสันมานานแล้ว แต่ในช่วงหลังๆ มักออกสเต็ป “ขึ้นแรง ลงแรง” จนทำให้ผู้รู้มองราคาเป้าหมายข้างหน้าไม่ต่ำกว่า 3.50 บาท และจะเป็นฐานบันไดให้หุ้นไต่ระดับขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า รอบนี้มีลุ้นอย่างแน่นอน เพราะหุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.10 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 7.64% เท่านั้นเองค่ะ
*ส่วนหุ้นที่เหมาะต่อการเล่นรอบก็คือ IRPC ราคาหุ้นแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ในกรอบ 4.90-5.20 บาทในช่วงแรกๆ ต่อจากนั้นก็ปรับกรอบเล่นรอบใหม่เป็น 4.60-4.90 บาท และเป้าหมายที่ทุกคนรับรู้กันอย่างกว้างขวางก็คือ 5.50 บาทเป็นอย่างต่ำ!!..แต่ล่าสุดราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.80 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 0.84% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นแบบนี้..น่าเล่นเหลือเกินจริงไหม!!..เดี๊ยนขอแนะนำให้แฟนคลับ “ฟังหู ไว้หู” เดี๋ยวจะหาว่า ชี้นำไปเสียทุกเรื่องนะคะ
*มาถึงรายของ DIMET ซึ่งเคยฝากผลงาน “เร็ว แรง ทะลุ (นรก)” ไว้ให้เชยชมแล้วหลายครั้งด้วยกัน ล่าสุดขึ้นอีกวัน มาปิดที่ 4.40 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 12.82% ด้วยมูลค่า 143 ล้านบาท งานนี้พกสตอรี่เรื่องรายได้พันล้านมาโม้ให้ใครต่อใครฟัง “โมนิก้า” ไม่รู้เป็นความเจ้าเล่ห์หรือความเพ้อฝันของคนบางกลุ่มกันแน่! ก็แหม…เพิ่งคิดค่า P/E ได้ครั้งแรกในรอบหลายปีแบบนี้ แถมยังสูงปรี๊ดอย่างกับตึก “เบอร์จ คาลิฟา” แล้วอยากให้เดี๊ยนคิดเห็นเช่นไรล่ะเจ้าคะ…เทิร์นอะราวด์?…ก็ไม่รู้สินะ!
*อีกตัวที่เรียกว่าแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ เจ้าค่ะ! สำหรับหุ้นรถไฟฟ้ามาหานะเธอ BTS ราคาขึ้นต่อเนื่อง 5 วันซ้อน “สุดๆ ไปเลย” ล่าสุดมาปิดที่ 9.70 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.04% ด้วยมูลค่า 352 ล้านบาท งานนี้คงมีประเด็นข่าวให้เก็งกำไร ทั้งการประมูลรถไฟฟ้าหลากสีที่ใกล้เวลาเปิดซองเข้ามาทุกขณะ รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วมมือกับ SIRI ก็มีแนวโน้มเติบโตดี พื้นฐานแน่นเปรี๊ยะ แบบนี้ สถานีต่อไป “โมนิก้า” เล็งแล้วน่าจะจอดแถวๆ 12 บาทตามโบรกฯแนะ เห็นแบบนี้แล้วรีบเกาะขบวนไปลงป้ายหน้ายังทันนะเจ้าคะ
*ตบท้ายกันที่หุ้น IPO สุดฮอต! ตัวแรกของครึ่งปีหลัง ALT ราคาหุ้นปิดเหนือจองจ้า ซึ่งปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 7.55 บาท บวกไป 2.85 บาท หรือ 60.64% ด้วยมูลค่า 3.59 พันล้านบาท จากราคาเสนอขาย IPO 4.70 บาท บอกเลยว่าเหมือนที่เจ๊พูดไว้ไม่มีผิด เป็นเพราะฝีมือที่ปรึกษาทางการเงินมือทองล้วนๆ แถมธุรกิจ ICT ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ถึงแม้จำนวนหุ้นที่จดทะเบียนเป็นพันล้าน แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค…นู่นแหนะ ฟอร์มดีอย่างงี้เดี๊ยนว่าราคาหุ้นยังวิ่งไหวอยู่นาเจ้าคะ