พาราสาวะถี อรชุน
ภาพถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนวันเดินทางมาศาลทหารของ 7 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ยังทุ่มเถียงกันไร้ข้อยุติว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ มาในวันนี้แม้จะได้รับการปล่อยตัวจากการประกันตัว แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มนักศึกษาดังกล่าวยังไม่หมดเคราะห์กรรม เพราะมีคนพยายามทำให้สังคมเห็นว่าเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญที่ทำขึ้นมาแจกจ่ายให้ประชาชนนั้นเป็นร่างรัฐธรรมนูญปลอม
ภาพถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนวันเดินทางมาศาลทหารของ 7 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ยังทุ่มเถียงกันไร้ข้อยุติว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ มาในวันนี้แม้จะได้รับการปล่อยตัวจากการประกันตัว แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มนักศึกษาดังกล่าวยังไม่หมดเคราะห์กรรม เพราะมีคนพยายามทำให้สังคมเห็นว่าเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญที่ทำขึ้นมาแจกจ่ายให้ประชาชนนั้นเป็นร่างรัฐธรรมนูญปลอม
ความหมายและความแตกต่างระหว่างเอกสารแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกับร่างรัฐธรรมนูญปลอมนั้น ต่างกันโดยสิ้นเชิงอยู่แล้ว แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างยิ่งสำหรับเป้าหมายของผู้ที่พยายามจะให้เป็นร่างรัฐธรรมนูญปลอมนั่นก็คือ ความผิดของผู้ที่ถูกกล่าวหาแตกต่างกันอย่างลิบลับ เพราะการแสดงความเห็นต่างไม่เป็นความผิด แต่หากบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญหรือทำปลอม โทษสูงสุดคือจำคุก 10 ปี
นี่หรือเปล่าที่มีความพยายามจะทำให้เอกสารความเห็นแย้งของนักศึกษากลุ่มนี้กลายเป็นร่างรัฐธรรมนูญเก๊ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีขบวนการกล่าวหาเรื่องเงินที่ใช้ในการผลิตเอกสารดังกล่าว โดยใช้ฐานความเป็นนักศึกษามาเป็นตัวปูพื้นว่า จะมีเงินมากมายขนาดไหนมาจัดทำ ดังนั้น จึงเชื่อว่ามีนายทุนอยู่เบื้องหลัง พร้อมๆ กับการประกาศจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย
เป็นการแสดงออกของการกลัวพลังนักศึกษา ถึงขั้นที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ หากผู้มีอำนาจเชื่อมั่นตามปากที่พล่ามบอกว่าเป็นประชาธิปไตย 99.99 เปอร์เซ็นต์ จะต้องไม่แสดงธาตุแท้หรือวิธีการแบบเผด็จการสุดขั้วเช่นนี้ อย่างไรก็ดี ทางขบวนการประชาธิปไตยใหม่ก็ได้ออกมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว
โดยได้แถลงข่าวไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ตึกกิจกรรมชั้น 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ชี้แจงแนวทางการรณรงค์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาจากการใช้อำนาจรัฐคุกคามการเผยแพร่ความรู้ร่างรัฐธรรมนูญ สาระสำคัญของการแถลงประกอบคือ เตรียมฟ้องเอาผิดมาตรา 157 ต่อเจ้าที่ทั้งหมดที่จับกุมและดำเนินคดีนักกิจกรรมและนักศึกษา 13 คน ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา
พร้อมยืนยันว่าเนื้อหาในเอกสารทั้งหมดที่ขบวนการประชาธิปไตยใหม่แจกจ่ายประชาชนไม่บิดเบือน ไม่หยาบคาย และยืนยันว่างบประมาณทั้งหมดในการทำกิจกรรมและจัดพิมพ์เอกสาร เป็นงบบริจาคจากประชาชน ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้มีการประกาศที่ฝ่ายความมั่นคงต้องเงี่ยหูฟังและจับตากันอย่างใกล้ชิดคือ จะเดินหน้ารณรงค์ต่อไปและมีเวทีใหญ่ในวันที่ 17 กรกฎาคม, 24 กรกฎาคม และ 31 กรกฎาคมนี้ ส่วนสถานที่จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ประกาศโต้งๆ กันอย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นการเรียกแขกสร้างปัญหาให้กับกลุ่มก้อนของเด็กกลุ่มนี้หรือไม่ แต่นั่นแหละคือ วิถีของนักประชาธิปไตย ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะรู้ว่ามีอะไรก็อยู่ ย่อมไม่สะทกสะท้านหรือหวาดกลัว ต้องไม่ลืมว่าบทเรียนในอดีตที่ผ่านมาการจะได้ประชาธิปไตยทุกครั้งนั้นต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง แต่ก็ยังไม่เคยได้ประชาธิปไตยแบบเต็มใบและสมบูรณ์เสียที
กรณีเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังถูกยัดเยียดให้เป็นร่างรัฐธรรมนูญปลอมนั้น จาตุรนต์ ฉายแสง ช่วยยืนยันอีกแรงว่าไม่เป็นความจริง เพราะยังไม่เห็นมีใครทั้งคสช. รัฐบาลและกรธ.นำหลักฐานมาแสดงให้เห็น แต่เอกสารร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นที่นิยมมากหน่อยคือ ร่างของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของความเห็นต่อร่างของกรธ.
นอกนั้นเป็นเอกสารร่างรัฐธรรมนูญของนักวิชาการ ซึ่งร่างเหล่านี้เป็นเรื่องของความเห็นที่แย้งกับร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่อ้างว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญปลอม และเนื้อหาของร่างไม่มีการบิดเบือนหรือผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด พูดง่ายๆ คือ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยมีปัญหามากอยู่แล้ว การจะไปปลอมเนื้อหาที่แย่กว่านี้คงทำได้ยาก
ในมุมของจาตุรนต์เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย เป็นร่างที่มีเนื้อหาบิดเบือนหลักการประชาธิปไตย โดยเฉพาะเรื่องที่เปิดทางให้ส.ว.ลากตั้ง 250 คนมาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี การมีแผนยุทธศาสตร์ชาติซึ่งอาจมีผลต่อไป 20 ปี ทำให้มีลักษณะของการสืบทอดอำนาจ เพียงแค่ไปวิจารณ์ที่เนื้อหาของร่างก็ทำให้เห็นปัญหาได้อย่างชัดเจนแล้วโดยไม่ต้องไปปลอม เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาเกินกว่าคนทั่วไปจะยอมรับได้อยู่แล้ว
การที่คสช.จะไปสืบหาข้อมูลว่า การทำเอกสารเห็นแย้งกับร่างรัฐธรรมนูญ เอาทุนมาจากไหน ใครอยู่เบื้องหลัง จริงๆ แล้วไม่มีเหตุผลอะไรต้องทำอย่างนั้น และการทำเอกสารที่เห็นแย้งกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับกรธ.ก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย การแจกจ่ายเอกสารก็ไม่ผิดกฎหมาย จึงไม่จำเป็นต้องไปสืบหาทุนมาจากไหน เว้นเสียแต่ว่า ฝ่ายที่ออกมาขู่จะลุแก่อำนาจนั่นก็อีกเรื่อง
โดยข้อเสนอของเดอะอ๋อยหากคสช.สนใจเรื่องเกี่ยวกับเงินทุน ควรจะไปดูว่าที่ภาครัฐใช้งบประมาณมหาศาลให้เจ้าหน้าที่ชี้นำ พร้อมกับการบิดเบือน เช่น ถ้าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ คสช.จะไปเร็วหรือร่างผ่านแล้วจะได้พรรคการเมืองที่ต้องการมาเป็นรัฐบาล อันนี้เป็นสิ่งที่ควรไปตรวจสอบมากกว่า เพราะทั้งหลอกลวง บิดเบือนและชี้นำครบสูตร
มุมของเรื่องการตรวจสอบเอกสารและเลยเถิดไปถึงขั้นตรวจสอบเงินทุนนั้น จาตุรนต์มองเหมือนอย่างที่หลายฝ่ายเห็นตรงกันนั้นก็คือ เพื่อต้องการดิสเครดิตเอกสารที่เห็นแย้งรัฐธรรมนูญฉบับกรธ. เพราะมันมีน้ำหนักและทำให้ประชาชนเข้าใจอะไรมากขึ้น จึงพยายามข่มขู่เพื่อไม่ให้มีการแจกเอกสารดังว่า ทั้งๆ ที่การแจกเอกสารโต้แย้งรัฐธรรมนูญ ชี้ปัญหาร่างรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งชอบด้วยกฎหมาย
สิ่งที่แสดงออกจึงเป็นอาการหวั่นไหว เพราะยิ่งประชาชนได้ข้อมูล ยิ่งเห็นว่าร่างนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย นั่นหมายถึงปลายทางของผลที่มันจะออกมาไม่ได้ดั่งใจ แต่การที่ฝ่ายมีอำนาจพยายามข่มขู่ ปิดกั้นการแสดงความเห็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ โอกาสที่การทำประชามติจะไม่เป็นที่ยอมรับยิ่งสูงขึ้น ยิ่งล่าสุดพลเอกประยุทธ์พูดถึงการตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุมจนเลือกตั้งไม่ได้เหมือนก่อนการรัฐประหาร
มันเหมือนกับการประจานตัวเอง เพราะกลุ่มคนที่ไปปิดหน่วยเลือกตั้งจนทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะนั้นก็คือพวกเดียวกันที่เคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดคสช. โดยคนที่ขัดขวางการเลือกตั้งยังไม่ถูกลงโทษมาจนถึงวันนี้ มิหนำซ้ำ ยังประกาศสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แบบสุดลิ่มทิ่มประตู สรุปแล้วไม่ว่าจะมองไปทางไหน ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลร้อยแปดพันประการ คงจะทำให้คนคล้อยตามและมองว่านี่เป็นการกระทำที่ชอบธรรมยาก เพราะคนที่อ้างว่าเป็นกลางนั้นแท้ที่จริงได้เลือกข้างตั้งแต่จะก้าวมายึดกุมอำนาจแล้ว