รู้แล้วจะหนาว!โมนิก้าและทีมงาน

*ท่ามกลางบรรยากาศสายฝนโปรยปราย สลับกับมีแดดจ้าในบางจังหวะนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเหตุการณ์ปกติที่พบได้เป็นประจำในยามนี้ แต่สิ่งที่ผิดแผกไปจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ คงเป็นเหตุการณ์ “ลับๆ ล่อๆ” ของผู้คนที่อยู่ในแวดวงตลาดหุ้น หลังจากเรื่องแดงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนข่าวสารมากมายพรั่งพรูเข้ามาหาเดี๊ยนเยอะแยะไปหมด จึงขอทำตัวเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นต่อไปอีกวันเจ้าค่ะ

*เนื่องจากรูปแบบกวัดแกว่งของดัชนีในช่วงหลังๆ ไม่ค่อยมีนัยสำคัญสักเท่าไหร่ ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีกำลังควานหาฐานแนวรับสำคัญที่มั่นคง “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,455.65 จุด ลบไป 1.07 จุด ด้วยมูลค่า 5.52 หมื่นล้านบาท เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่า บริเวณ 1,450 จุดเป็นจุดเทขายทำกำไร หากยืนระยะได้สำเร็จ ไปต่อแน่นอน..หากยืนไม่สำเร็จ ไหลลงต่อแน่ๆ นะจะบอกให้

*วันนี้เลยขอเม้าท์ถึงเรื่อง WEH ต่ออีกสักยก เพราะข้อมูลลึกลับซ่อนเงื่อนกำลังถูกสังคมช่วยกันตีแผ่ออกมาไม่หยุดหย่อน ซึ่งข้อมูลชุดล่าสุดมีการเม้าท์ถึงการทำสัญญาซื้อขายอีกฉบับหนึ่งในต่างประเทศ ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับการจ่ายเงินระหว่างกลุ่ม KPN กับ เฮีย น. อย่างรัดกุม จึงทำให้ผู้คนในแวดวงสงสัยถึงแหล่งที่มาของเงินทุนกันพักใหญ่ๆ..จำกันได้ไหมคะ

*ล่าสุดเกิดประเด็นร่ำลือกันอย่างหนาหู จ่ายเงินไม่ครบ! ตามที่เคยทำดีลกันไว้ จึงเตรียมเปิดศึกฟ้องร้องกันขึ้นอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้  แต่เผอิญมีคนกลางมาไกล่เกลี่ย พร้อมกับหยิบยื่นข้อเสนอที่น่าจะ win-win ชนิดที่ว่า บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น ซึ่งเป็นการคิดค้นวิธีตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่ง โดยมีเป้าหมายหลักในการทำหน้าที่รวบรวมหุ้นอีกทอดหนึ่งไงล่ะค่ะ

*ว่ากันว่า คนที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีก็คือทนายหน้าหอ ซึ่งเป็นคนที่คร่ำหวอดในวงการตลาดหุ้นมาอย่างยาวนาน และสาเหตุที่ขรัวเฒ่ารายนี้อยากได้ดีลนี้มาทำเอง ก็มาจากการชักชวนของดีลเมกเกอร์รายหนึ่ง ซึ่งคนในวงการต่างชี้นิ้วอย่างพร้อมเพรียงกันว่า ก็เขาคนนี้แหละ! “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเจาะลึกอะไรลงไปมากกว่านี้ เพราะยังมีรายละเอียดลึกๆ อีกหลายเรื่องที่สังคมไม่กล้าพูดกันบนโต๊ะ จึงต้องดูกันต่อไปว่า ใครจะเป็นคนออกมาแฉการหักกันไปหักกันมาของกลุ่มคนก๊วนนี้เจ้าค่ะ

*ส่วนที่เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต และไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นศึกคนรวย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่า “อากู๋” กับทนายความคนเก่งอย่าง “วิชัย ทองแตง” ออกอาการหวานแหววจนน่าหมั่นไส้ พร้อมกับเชื่อว่า ลิขสิทธิ์บอลยูโร 2016 จะทำให้เขาทั้งคู่มีความสุขทั้ง 2 ฝ่าย  แต่ไปๆ มาๆ กลับเปิดฉากฟ้องกันแหลกแบบนี้ คำโบราณเขาถึงย้ำหนักย้ำหนาว่า “เงินทองไม่เข้าใครออกใคร” เจ้าค่ะ

*โดยประเด็นที่มีการป้องปากเม้าท์กันอย่างกว้างขวาง มันเริ่มต้นจาก “อากู๋” ไปคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโรมาครอบครอง พร้อมกับเอาแบงก์การันตีของตัวเองไปวางค้ำประกัน ต่อจากนั้นทนายคนเก่งก็เข้ามารับช่วงลิขสิทธิ์ต่ออีกทอดหนึ่ง พร้อมกับมีการสัญญาใจกันไว้ว่า เมื่อได้ค่าขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ก็จะนำเงินก้อนดังกล่าวมาปลดภาระให้ในทันที แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมนำเงินมาปลดภาระให้สักที!

*เรื่องนี้ถึงต้องหาทางออกด้วยการฟ้องกันไว้ก่อน “โมนิก้า” ในฐานะคนนอกเลยขอดูเรื่องนี้แบบห่างๆ เพราะไม่รู้ว่า อันไหนจริง..อันไหนเท็จ  และไม่ขอมีอารมณ์ร่วมเป็นอันขาด หรือหากทั้ง 2 ฝั่ง อยากจะมีอะไรชี้แจงผ่านให้สังคมได้รับรู้เดี๊ยนก็ยินดีที่จะเป็นสื่อกลางในการทำหน้าที่ดังกล่าว เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สังคมอยากจะรับรู้อย่างใจจดใจจ่อนะคะ

*กลายเป็นเรื่องตลกหกเก้าขึ้นมาในทันที เมื่อบรรดาลูกหาบของ KTBST ออกมาส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวรับกันเป็นลูกระนาดเอกแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นสงครามน้ำลายที่น่าติดตามชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้กลายเป็นการเปิดหน้าชนกับหน่วยงานผู้คุมกฎอย่าง ก.ล.ต. แบบไม่ต้องอ้อมค้อมอะไรทั้งสิ้น เดี๊ยนถึงมองว่า เรื่องนี้มีสิทธิ์จบไม่สวยอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะท่อนที่พูดไปในทางที่ว่า I don’t care!  พร้อมเดินหน้างาน Co-Underwriter หลังถูกพักใบอนุญาต FA มันเหมือนเป็นการแสดงอาการแข็งขืน เพื่อตอบโต้อะไรบางอย่างหรือเปล่า? “โมนิก้า” ในฐานะคนชอบเผือกจึงขอเกาะติดประเด็นนี้อย่างเต็มตัว หลังโบรกเกอร์ปากกล้าขาสั่นรายนี้ มีการทิ้งทายแบบเจ็บแสบไว้ว่า หุ้นน้องใหม่ที่จะทำ IPO เพื่อเตรียมเข้าตลาดหุ้น ต้องฟูมฟักอีกไม่ต่ำกว่า 18 เดือน การโดนแบน 2 ปีเลยไม่ส่งผลกระทบ!…เดี๊ยนถึงสงสัยว่า ก่อนหน้านี้ไซโคใส่หน่วยงาน ก.ล.ต. ทำไมล่ะน้องชาย!..อิอิอิ