อย่าเผลอ !โมนิก้าและทีมงาน

*หลังจากเผือกเรื่องของชาวบ้านมาพักใหญ่ๆ “โมนิก้า” คิดว่า ต้องกลับมาพูดถึงบรรยากาศการลงทุนสักหน่อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันเหมือนเป็นการฉีกกฎทุกอย่างที่เคยมีการบัญญัติไว้ รวมทั้งเป็นการสะท้อนภาพความมั่นใจในการลงทุน ณ เวลานี้ มันมีมากกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว จึงทำให้ดัชนีขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,450 จุดได้อย่างมั่นคงไงล่ะค่ะ


*หลังจากเผือกเรื่องของชาวบ้านมาพักใหญ่ๆ “โมนิก้า” คิดว่า ต้องกลับมาพูดถึงบรรยากาศการลงทุนสักหน่อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันเหมือนเป็นการฉีกกฎทุกอย่างที่เคยมีการบัญญัติไว้ รวมทั้งเป็นการสะท้อนภาพความมั่นใจในการลงทุน ณ เวลานี้ มันมีมากกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว จึงทำให้ดัชนีขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,450 จุดได้อย่างมั่นคงไงล่ะค่ะ

*ประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุดของจังหวะดังกล่าวก็คือ การที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,468.39 จุด บวกไป 12.74 จุด ด้วยมูลค่า 5.96 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนตัมที่ทำให้นักเล่นเกิดอาการฟินกันอย่างถ้วนหน้า (ยิ่งกว่า โรนัลโด้ ได้แชมป์ยูโร 2016 เสียอีก)  เพราะหุ้นที่ขึ้นแรงของวานนี้ ล้วนเป็นตัวทีเด็ดของนักลงทุนสถาบันแทบทั้งสิ้น และเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งแรง ก็ไม่รู้ว่า เกิดจากอะไรกันแน่เจ้าค่ะ

*ฉะนั้นต้องดูกันให้ดีว่า ดัชนีกระชากขึ้นแรงสุดๆ พร้อมกับเปิดแก๊ปกว้างทิ้งไว้ตั้งแต่หัววัน รวมถึงสัญญาณ doji evening star ที่ขึ้นไล่หลังเป็นครั้งคราว มันเป็นการส่งสัญญาณให้รู้หรือเปล่าว่า ดัชนีจะต้องปรับฐานก่อนทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม ส่งผลให้จังหวะการเข้าเล่นเที่ยวนี้มีลักษณะ “เข้าเร็ว ออกเร็ว” ห้ามเผลอใจไปกับบรรยากาศของตลาดหุ้นเป็นอันขาดนะคะ

*เม้าท์เรื่องเผลอใจขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอพูดถึงหุ้นถุงยางที่กำลังจะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ใน SET  มันเป็นการสร้างกระแสเรื่อง “ทอลค์ ออฟเดอะ ทาวน์” ให้กับหุ้น TNR” ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว! เพราะทุกคนอยากรู้ว่า ของชำร่วยที่จะแจกให้กับนักลงทุนรายย่อยจะเป็นถุงยางคนละกี่กล่อง? และเจลหล่อลื่นจะแจกด้วยไหม?…งานนี้ใครรู้บ้าง ช่วยกริ๊งกร๊างบอกเป็นการส่วนตัวด้วย เพราะมีหลายคนที่อยากรู้น่ะสิ…555

*ในแง่ของCPF แม้ว่าอยู่ในข่ายรายชื่อบริษัทที่ถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังตั้งแต่ปี 53-58 แต่งานนี้ “โมนิก้า” เชื่อว่าเป็นแรงกดดันระยะสั้นๆ เท่านั้น ขอบอก ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าธุรกิจหลักยังสดใสต่อเนื่องยาวไปถึงไตรมาส 4  หลังธุรกิจกุ้งเริ่มฟื้นตัว มาร์จิ้นของธุรกิจหมูสูงขึ้น ธุรกิจในต่างประเทศดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบถูกล็อกยาว…วานนี้ราคาหุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ 28 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่า 1.68 พันล้านบาทไงล่ะค่ะ

* ด้าน ICHI  ดันขึ้นมาปิดที่ 13 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือ 10% มูลค่าซื้อขาย 500 ล้านบาท หลังมีข่าวกระทรวงการคลังชะลอเรื่องการเก็บภาษีเครื่องดื่มออกไปแบบไม่มีกำหนด  ทั้งที่ก่อนหน้านี้เปรยเป็นนัยว่า น่าจะรู้ผลภายใน 1 เดือน “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเกมโหดที่ทุกคนต้องเข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้เสียก่อน เพราะในไม่ช้าเรื่องนี้จะถูกดึงขึ้นมาพิจารณาอีกรอบ…พร้อมกันนี้อย่าลืมว่า นี่เป็นบริษัทอีกหนึ่งแห่งที่มีน้ำตาลปนอยู่ในเครื่องดื่มเยอะสุดแบบนี้ ก็คงโดนภาษีเยอะสุดนะจะบอกให้

*ด้าน TRUE วิ่งขึ้นมาติดในกระดาน Most Active เป็นอันดับหนึ่ง ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 6.72 พันล้านบาท พร้อมกับกระชากขึ้นมาปิดที่ 8.30 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือพุ่งไปเกือบ 8% กลายเป็นหุ้นเนื้อหอมจน “โมนิก้า” คันไม้คันมืออยากเข้าไปร่วมแจมด้วยสักคน บวกกับมีข่าวมือที่มองไม่เห็นเข้ามาเก็บสะสมหุ้นผ่านช่องทาง NVDR เป็นเวลาทั้งสิ้น 6 วัน จนยอดซื้อทะลุไปถึง 1 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการฉีกตำราที่เล่าเรียนมาแบบไม่เหลือซากแบบนี้..สงสัยของเขาจะสู้มือจริงๆ นะคะ

*เหมือนกับในรายของ THANI  จู่ๆ เด้งขึ้นมาปิดที่ 5.45 บาท บวกไป 0.63 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นแพทเทิร์นที่น่าสนใจ เพราะสามารถปลุกเร้าให้นักเล่นกระโจนเข้าใส่ แต่เผอิญสัญญาณทางเทคนิคเริ่มไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับติดตามดูสถานการณ์ตรงนี้กันสักหน่อย เพื่อจะได้หาทางหนีทีไล่ได้ทันเจ้าค่ะ

*ส่วนที่ไม่ต้องหนีไปไหน และควรเฝ้าติดตามสถานการณ์ให้ดีๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง ILINK ซึ่งเป็นหุ้นสุดรักสุดเลิฟที่มีแต่เรื่องดีๆ ให้ชื่นใจเป็นประจำ ล่าสุดก็เป็นตัวเต็งที่จะคว้างานก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท  แถมยังมีข่าวดีเกี่ยวกับบริษัทลูกกำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น ล้วนเป็นแวลูที่จะทำให้หุ้นไต่ระดับขึ้นไปอีก และทำให้ราคาปิดที่ 19 บาท เป็นจังหวะของการเข้าเก็บนะจ๊ะ

*พลิกล็อกแบบไม่น่าเชื่อ! เมื่อคนที่เคยเป็นผู้ชนะอย่าง CHO วืดงานประมูลรถเมล์ NGV พร้อมกับโรงซ่อมมูลค่า 4 พันล้านบาท โดยคนที่เข้าวินในเที่ยวนี้กลายเป็นคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง “เบสท์ริน กรุ๊ปฯ” ซึ่งเสนอราคาไปที่ 3,389.70 ล้านบาท และประเด็นดังกล่าวก็ทำให้ราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ 2.08 บาท ลบ 0.34 บาท หรือร่วงกว่า 14% ด้วยมูลค่า 144 ล้านบาท พร้อมกับทำให้ชาวเม่านักเก็งกำไรผิดหวังกันไปตามๆ กัน “โมนิก้า” จึงขอเอาใจช่วยให้ผู้บริหารที่ไม่เคยย่อท้ออย่าง “เสี่ยจิง” ผ่านช่วงเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไปได้ไวๆ สาธุ…สาธุ..สาธุ

*ป.ล.เที่ยวนี้กองทุนตัวแสบซื้อหุ้นไปกว่า 3.70 พันล้านบาท เท่ากับเป็นการตอกย้ำว่า “อย่าเผลอ” เป็นอันขาด เพราะรอบก่อนก็ซื้อหนักๆ แต่หลังจากนั้นก็ขายหนักๆ นะจะบอกให้

Back to top button