หุ้นกินแห้วแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ผลการประมูลอย่างไม่เป็นทางการของโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่คณะกรรมการจัดประมูลของ ขสมก.ดำเนินการอย่างผิดปกติ ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับราคาหุ้น บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ที่ถือหุ้นร่วมในกิจการร่วมค้า เจวีซีซี มากถึง 50% ร่วงแรงเมื่อข่าวเผแพร่ออกไปว่า “กินแห้ว”


ผลการประมูลอย่างไม่เป็นทางการของโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่คณะกรรมการจัดประมูลของ ขสมก.ดำเนินการอย่างผิดปกติ ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับราคาหุ้น บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ที่ถือหุ้นร่วมในกิจการร่วมค้า เจวีซีซี มากถึง 50% ร่วงแรงเมื่อข่าวเผแพร่ออกไปว่า “กินแห้ว

งานนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า ผลการแข่งขันเสนอราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ราคา 3,389.70 ล้านบาท โดยต่ำกว่าราคากลาง 632 ล้านบาท จากราคากลางที่ 4,021.70 ล้านบาท

หลังจากนี้ ฝ่ายบริหาร ขสมก. จะนำผลการประมูล เสนอต่อคณะกรรมการ ขสมก.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ซึ่งกำหนดวันประชุมในวันที่ 27 ก.ค.นี้ และคาดว่าหลังจากนั้นจะสามารถลงนามสัญญาได้

รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม…สมใจขาโจ๋ไปตามๆ กัน

โครงการประมูลดังกล่าว มีผู้เข้าแข่งขันกันแค่ 2 ราย ….เพราะที่ผ่านมาคุณสมบัติมีแค่นั้น…ประกอบด้วย 2 ราย คือ  1.กิจการร่วมค้า เจวีซีซี (บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ถือหุ้น 50% และบริษัท ช.ทวีขอนแก่น จำกัด บริษัทย่อยของ CHO ถือหุ้น 50%) กับ 2.บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด จากจีน

บริษัททั้ง 2 นี้ ไม่ใช่อื่นไกล คือคู่แข่งเจ้าเดิมจากการประมูลครั้งต้นปี 2558 ที่มีการยกเลิกประมูลไปด้วยเหตุผลง่ายๆ ชนิดทำให้ ตลกระดับ แจ๊ส ชวนชื่น หมดมุก…..ว่า TOR บกพร่อง

ที่ต้องเรียกว่าตลกฝืดครั้งนั้น เกิดขึ้นเนื่องจาก การประมูลรถเมล์ เอ็นจีวีของ ขสมก. ผลปรากฏว่า   CHO เสนอเงื่อนและราคาดีที่สุด เพื่อแหวกวงล้อมให้ยกระดับจากบริษัทจดทะเบียนนอกสายตาจากขอนแก่น เป็นดาวรุ่งดวงใหม่ที่บรรดากองทุนต้องแห่กันเข้าไปเยี่ยมชมกิจการ…หากสามารถชนะการประมูล เป็นผู้ผลิตและประกอบรถประจำทาง NGV  มูลค่า 1.5 พันล้านบาท  พร้อมกับสัญญาซ่อมบำรุงอีกประมาณ 2.2 พันล้านบาทภายใน 10 ปีข้างหน้า

CHO ที่สร้างโอกาสหวังจะก้าวกระโดดจากรายได้ปีละประมาณ 1.5 พันล้านบาท กลายเป็น 3 พันล้านบาท หรือ 2 เท่าตัวในฉับพลัน แต่..ชะตากรรมพลิกผัน เพราะหลังจากการต่อสู้ตีความกันหลายศาล ที่ CHO ชนะทุกแห่ง ก็เกิดตาลปัตรกะทันหันเมื่อ คนกลุ่มน้อยที่อยากมีตำแหน่งอำนาจ แต่ขี้ขลาด…ไม่ยอมรับผิดชอบ..พากันตัดช่องน้อย

คณะกรรมการ ขสมก.มีมติยกเลิกการประมูลเสียยังงั้น..ปัดสวะหน้าตาเฉย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ตามประสาแมวอ้วน…ไม่ทำอะไร ก็ไม่ถือว่าทำผิด…แถมเขียนไว้ในเงื่อนไขอีกว่า ..ห้ามเอกชนที่เข้าประมูลฟ้องร้อง…เอากะเพ่เขาสิ…ทำได้ลงคอ!!!!

ผลพวงจากการยกเลิกคือ  CHO ต้องแบกรับค่าเสียโอกาสจากต้นทุนจากการชะลอรับงานในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของปี 2558 เพื่อรองานโครงการนั้น ส่งผลให้งบการเงินงวดสิ้นปี 2558 มีกำไรสุทธิลดลงฮวบฮาบ

ราคาหุ้นที่ขาประจำเคยมั่นใจและคาดว่าจะทะลุแนวต้านไปเหนือ 5.00 บาท ถึงกับร่วงและซึมยาวมาจนต่ำกว่า 2.00 บาท

 ตลกฝืดครั้งนั้น ถึงกับทำให้ CHO จำต้องรักษาสิทธิ์ตามกฎหมายบริษัทมหาชนจดทะเบียน ด้วยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ขสมก.ต่อศาลปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีที่ ขสมก.ยกเลิกการประมูลที่กิจการร่วมค้า เจวีซีซี เป็นผู้ชนะ…โดยคดี ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล

ครั้งนี้ ขสมก.เปิดประมูลใหม่อีกครั้ง CHO ก็ยังไม่เข็ด เสนอตัวเข้าประมูลอีกครั้ง และทำท่าจะซ้ำรอยเดิมเพราะใครๆ ก็พูดว่า TOR ของการประมูลใหม่นี้ คนระดับ “มหาหิน” เรียกป๋า กันเลยทีเดียว

แล้วในที่สุด หลังจากผ่านขั้นตอนของ TOR ครบก็ถึงเวลาประมูลแบบ e-Auction วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2559 ซึ่งตามกติกาทั่วไปก็น่าจะเรียบร้อย แต่..ก็มีเหตุเข้าแทรกให้เห็นถึงความผิดปกติ

การประมูลในเวลาไม่นาน ก็จบลง ซึ่งตามปกติแล้ว ผลลัพธ์เบื้องต้นควรจะทราบกันในทันทีว่าใครชนะการประกวดราคาซึ่งควรเปิดเผยต่อสาธารณะ และ บอกกับผู้เสนอราคาประมูลว่า รายใดเสนอได้ต่ำสุด แต่คณะกรรมการประมูล ขสมก.กลับทำยึกยักเสียยังงั้น…อุบเงียบ ไม่ประกาศผลผู้ชนะการประกวดราคา

เหตุผลที่นำมาอ้างก็แสนทื่อมะลื่อ บอกแค่เพียงว่า  ต้องรอตรวจเอกสารให้เรียบร้อยก่อน และ ต้องรายงานให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก.รับทราบช่วงปลายเดือนนี้ก่อน จึงจะประกาศผลการประมูลราคาอย่างเป็นทางการว่าใครประมูลได้ในราคาต่ำสุด

ข่าวที่แพร่ออกไปถึงความผิดปกติ ทำให้เกิดอาการร้อนตัว กดดันให้ นายสุระชัย ต้องออกมาประกาศผลการประมูลเมื่อวานนี้ เร็วกว่ากำหนด…ซึ่งก็เป็นไปตามคาด..งานนี้ CHO กินแห้วอีกครั้ง…เป็นครั้งที่สอง

ราคาหุ้น CHO วานนี้ จึงผันผวนรุนแรง จากราคาเปิดตลาดที่ 2.42 บาท อันเป็นราคาสูงสุดของวัน  ร่วงลงต่ำสุดที่ 2.12 บาท แล้วผันผวนกับแรงขายต่อเนื่องทั้งวัน ท้ายสุดมาปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดของวัน 2.08 บาท ลดลง 0.34 บาทหรือ 14.05%  มูลค่าซื้อขาย 144.83 ล้านบาท

งานนี้ เท่ากับว่า ประตูสำหรับการประมูลรถ ขสมก. ปิดรับอย่าง CHO อย่างไม่เป็นทางการ และคงจะไม่มีการหวนคืนอีกครั้ง…เท่ากับว่าเส้นทางนี้ของ CHO ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของความพยายามของเสี่ยจิง นาย สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ที่รับงานประมูลผลิตและประกอบรถเฉพาะทางมาแล้วทั่วโลก…ไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับใครบางคนใน ขสมก.

งานนี้ เสี่ยจิง..คงต้องทำใจยามที่ต้องกินแห้วอีกครั้ง..และ คนถือหุ้นของ CHO ก็คงต้อง “ไล่ล่าหาอนาคต” ที่ไม่มี ขสมก.กันต่อไป

…เจ็บนี้ ไม่ลืม เจ็บลึก กว่าเคย….

 

 

Back to top button