คนรัก MAX ดูหรือยัง? เปิดราคา MAX-W2 ก่อนลุยเทรดพรุ่งนี้

คนรัก MAX ดูหรือยัง? เปิดราคา MAX-W2 ก่อนลุยเทรดพรุ่งนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ใช้ชื่อย่อใบสำคัญแสดงสิทธิ MAX-W2 จะเข้าทำการซื้อขายใน SET โดยจำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 9,253,000,075 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 2 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.18 บาท/หุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งออกวันที่  3 ส.ค.59 และวันครบกำหนดอายุตรงกับวันที่ 2 ส.ค. 60 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 2 ส.ค.60 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 2 ส.ค.60

โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งได้เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่ามีการคาดการณ์ถึงราคาหลักทรัพย์ MAX-W2 ว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกด้วยราคาไม่ต่ำกว่า 0.05 บาท โดยคำนวณจากราคาหุ้นแม่ได้ดังนี้ 

อนึ่งราคาหุ้น MAX ปิดตลาดภาคเช้า (16 ส.ค.59) อยู่ที่ 0.21 บาท ปรับตัวขึ้น 0.01 บาท หรือ 5% ด้วยมูลค่าซื้อขายที่ 32.09 ล้านบาท

 

ด้านผลประกอบการของ MAX นายอิทธิชัย อรุณศรีแสงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MAX เปิดเผยว่า ในปีนี้มีกำไรผลตอบแทนจากการลงทุนแน่นอน เนื่องจากปีนี้มีโปรเจ็คโรงไฟฟ้าเข้ามาถึง 2 แห่ง อย่างบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) ก็เริ่มขายไฟเชิงพาณิชย์ รับรู้รายได้แล้ว และโรงไฟฟ้าเขื้อเพลิงจากขยะ ของบริษัท  ราชบุรี-อีอีพี  รีนิวเอเบิ้ล เอนเนอจี้ จำกัด (R-EEP) ที่แพรกษา จะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในเดือนธ.ค.59 นี้ และเริ่มรับรู้รายได้ปี 60 ส่วนดีลใหม่ที่เล็งไว้อีก 2-3 แห่งคาดว่าจะสำเร็จภายในปีนี้แน่นอน

สำหรับธุรกิจพลังงานมีแผนลงร่วมทุนต่อเนื่องอีกหลายโครงการ โดยเป้าหมายคือ ร่วมทุนโรงไฟฟ้า ครบ 1,000 เมกะวัตต์ (MW)เพราะจุดแข็ง คือ ทีมบริหาร และประธานกรรมการ ที่เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) จึงมีความชำนาญและประสบการณ์ในการคัดสรร โครงการที่มีศักยภาพสูง ความโชคดีของทีมงานและกรรมการ MAX ชุดนี้คือ ความหลากหลายด้านความรู้ของคณะกรรมการ ที่จะทำให้แผนธุรกิจของ MAX สำเร็จได้ โดยเฉพาะเป้าหมายที่บอร์ดชุดนี้โฟกัส คือ การลงทุนโรงไฟฟ้า ซึ่งหากเป้าหมายเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ปีหน้าจะได้เห็นการเทิร์นอะราวด์ของธุรกิจ

“ภายหลังจากการเข้ารุกธุรกิจพลังงานและอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นหลักด้านพลังงาน ทั้งพลังงานหลักและพลังงานทางเลือก เพราะมีรายได้มั่นคง โดยเน้นร่วมทุนกับโครงการที่มีรายได้แล้วและมีศักยภาพในการขยายต่อไปในอนาคต”นายอิทธิชัย กล่าว        

ขณะที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เน้นลงทุนในโครงการที่ราคาไม่สูงมากและมีรายได้มั่นคง โดยบริษัทฯ มีเงินทุนสำรองอยู่ 900 ล้านบาท และเงินที่คาดว่าได้จาก Private Placement อีก 1,500 ล้านบาท และจากการเพิ่มทุน TSR ตามสัดส่วนอีก 700 ล้านบาท และจากวอร์แรนต์  อีกกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งใช้สิทธิในปี 60 อีกทั้งยังได้รับความสนใจจากการออกขายตั๋ว BE กู้ยืม จากสถาบันทั้งในและต่างประเทศ

Back to top button