4 หุ้นน้ำตาล “หวานหอม” ต้องสอยด่วน!ราคาน้ำตาลดิบโลกทำนิวไฮในรอบ 4 ปี

ช่วงนี้ราคาน้ำตาลดิบโลกทะยานขึ้นมาทำนิวไฮในรอบ 4 ปี จากความกังวลต่อสถานการณ์ขาดดุลสูงถึง 4.3 ล้านตันในปีผลผลิต 2559/60 นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แน่นอนบรรยากาศดังกล่าวส่งผลบวกเต็มที่ต่อผู้ประกอบการน้ำตาลในปี 60

ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย และธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่ได้จากการผลิตน้ำตาลทราย

แน่นอนปัจจัยดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน อาทิ KSL,KTIS,KBS และ BRR ขณะเดียวกันราคาหุ้นทุกตัวมีเทคนิคเป็นขาขึ้นทุกตัว ประกอบกับนักวิเคราะห์มีข้อมูลให้ได้พิจารณาเป็นรายตัวตรงนี้ก็น่าจะเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้พิจารณาหุ้นดังกล่าวไว้ลงทุนอีกครั้ง

 

ราคาน้ำตาลตลาดนิวยอร์ค ณ วันที่ 19 ก.ย.59

 

บล.เอเซีย พลัสระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาน้ำตาลดิบโลกล่าสุดอยู่ที่ 22.47 เซ็นต์/ปอนด์ ปรับเพิ่มขึ้นถึง 6.2% ในวันที่ 16 ก.ย. 59 ทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยราคาน้ำตาลเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีบัญชี 2558/59 (สิ้นงวด ต.ค.) เท่ากับ 16.68 เซ็นต์/ปอนด์ เพิ่มขึ้นถึง 25.7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ บ.อ้อยและน้ำตาลทราย (อนท.) ได้ทำสัญญาขายน้ำตาลดิบล่วงหน้าปี 2558/59 ไว้ทั้งหมดแล้วที่ 15.0 เซ็นต์/ปอนด์ จึงไม่ได้ประโยน์จากราคาน้ำตาลโลกที่เพิ่มขึ้นในปี 2558/59 แต่จะได้ประโยชน์ในปี 2559/60 แทน สำหรับส่วนที่ยังไม่ได้ทำสัญญาขายล่วงหน้า ทั้งนี้ อนท. ได้ทำสัญญาขายน้ำตาลดิบล่วงหน้าปี 2559/60 ไว้เพียง 50% ที่ราคาเฉลี่ย 20 เซ็นต์/ปอนด์ สูงกว่าสมมติฐานที่ฝ่ายวิจัยกำหนดไว้ที่ 19 เซ็นต์/ปอนด์ ถือเป็น upside ต่อประมาณการ

ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของสหรัฐฯ (USDA) คาดการณ์ปริมาณน้ำตาลโลกปี 2559/60 จะขาดดุล 4.3 ล้านตัน ลดลงจากที่ขาดดุล 6.9 ล้านตันในปี 2558/59 เนื่องจากปัญหาภัยแล้งในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในอินเดีย จีนและไทย ทำให้ปริมาณอ้อยออกสู่ตลาดลดลง

นอกจากนี้ สภาพอากาศในประเทศบราซิลช่วงต้นเดือนก.ย.59 หนาวมาก ทำให้เกษตรกรได้ออกไปเก็บเกี่ยวอ้อยเร็วกว่าปกติ ซึ่งอ้อยยังไม่พร้อมเข้าหีบมากนัก ส่งผลให้แนวโน้มผลผลิตน้ำตาลจะออกสู่ตลาดน้อยกว่าคาดการณ์เดิม แต่ความต้องการบริโภคน้ำตาลในปี 2559/60 ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 1.1%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 173.6 ล้านตัน ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น  

ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองบวกต่อ KSL ซึ่งจะได้รับผลบวกเต็มที่ในปีผลผลิต 2559/60 (เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.59) จากสถานการณ์ราคาน้ำตาลโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หนุนคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559/60 ของ KSL จะเพิ่มขึ้นถึง 37.9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นสู่ระดับ 874 ล้านบาท

ส่วนคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2560 ของ KTIS จะเพิ่มขึ้นถึง 179.2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น เป็น 713 ล้านบาท โดยได้ประโยชน์จากราคาน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน และจะมีโรงไฟฟ้าใหม่ 2 โรง กำลังการผลิตรวม 100 MW ที่จะดำเนินการผลิตได้เต็มที่ในปี 2560 

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังเลือก KSL (ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท) เป็น top pick ของกลุ่มฯ และซื้อ KTIS (ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท) KBS และ BRR ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำตาลที่เป็นขาขึ้น