“แอสเซทพลัส” เฮ! NMG ตั้งบอร์ดสำเร็จ หมดข้ออ้างเบี้ยวหนี้ตั๋วบี/อี

ผู้สื่อข่าวรายงาน มติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ว่า จากการประชุมเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองและโดยการรับมอบฉันทะรวมทั้งสิ้น 367 ราย นับจำนวนหุ้นได้ 2,835,896,681 หุ้น หรือคิดเป็น 69.71% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยที่ประชุมฯมีมติในวาระต่างๆ รวมทั้งหมด 3 มติด้วยกัน ประกอบด้วย

1) อนุมัติแต่งตั้ง นายวิฑูร พึงประเสริฐ ผู้ถือหุ้นซึ่งมาเข้าร่วมประชุมเข้าเป็นประธานในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้

2) อนุมัติเลือกตั้งกรรมการจำนวน 8 ตำแหน่ง เพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการแทนตำแหน่งกรรมการที่ว่างลง

3) อนุมัติให้แก้ไขอำนาจกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทจากเดิม

โดยวาระที่เป็นจุดสนใจมากที่สุดสำหรับการประชุมวานนี้ (7 พ.ย.) คือ วาระที่ 2 หรือ การเลือกกรรมการบริษัททั้ง 8 ตำแหน่ง

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ NMG เคยผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงินบี/อี มูลค่า 100 ล้านบาท กับเจ้าหนี้ คือ บลจ.แอสเซท พลัส ไปเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมกับถูกทริสเรทติ้งปรับลดอันดับเครดิตองค์กรลงสู่ระดับ D จากการผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าว โดยอ้างเหตุว่าเป็นผลจากการที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. มีคำสั่งให้กรรมการ 8 รายของบริษัท ณ เวลานั้น ขาดคุณสมบัติการเป็นกรรมการและผู้บริหาร

ขณะที่ คำสั่งดังกล่าวจากทางสำนักงาน ก.ล.ต. ถูกนำไปกล่าวอ้างว่า เป็นสาเหตุทำให้เกิดสุญญากาศในการบริหารงานหรือดำเนินธุรกิจ ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของ NMG และส่งผลให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ดังนั้น จากมติที่ประชุมฯวานนี้ ซึ่งมีการอนุมัติแต่งตั้งกรรมการใหม่ 8 ราย แล้วเสร็จ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อการชำระหนี้ในรอบหน้าที่จะถึง คือ รอบครบกำหนดชำระในวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากงบการเงินของ NMG พบว่า บริษัทอยู่ในสถานะ ซึ่งมีความสามารถในการชำระหนี้ได้อย่างไม่น่ามีปัญหา

โดยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้ ถึงแม้มีผลขาดทุนสุทธิ 341.78 ล้านบาท แต่หากวัดจากจำนวนหนี้สินรวมทั้งสิ้น 3.91 พันล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.43 พันล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E Ratio อยู่ที่ระดับประมาณ 1.14 เท่า เท่านั้น ซึ่งทั่วไปถือเป็นระดับที่สามารถบริหารจัดการหนี้สินได้อย่างคล่องตัว

อีกทั้ง อัตราส่วนชี้วัดสภาพคล่องทางการเงินตัวอื่นยังถือว่า อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี ยกตัวอย่าง คือ สินทรัพย์หมุนเวียนอยู่ที่ระดับ 2.67 พันล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียน 2.27 พันล้านบาท ทำให้อัตราส่วนทุนหมุนเวียน หรือ Current Ratio อยู่ที่ระดับ 1.18 เท่า ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นตัวบ่งชี้ว่า สภาพคล่องทางการเงินของ NMG ยังอยู่ในระดับปกติ

อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีที่แย่ที่สุด คือ NMG ไม่สามารถชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน บี/อี ด้วยเงินหมุนเวียนได้ บริษัทยังสามารถนำเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่มีอยู่ราว 316.52 ล้านบาท มาชำระหนี้แทนก่อนได้ หรือเมื่อมองเปรียบเทียบจากระดับ D/E Ratio ณ ปัจจุบัน กับหลักการทั่วไปบ่งชี้ว่า NMG ยังสามารถขอรับเงินกู้เพื่อทำการรีไฟแนนซ์ได้อย่างไร้ปัญหาอีกด้วย

ทั้งนี้ ความสำเร็จในการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการชุดเดิม จำนวน 8 ราย จากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 วานนี้ ประกอบกับสถานะทางการเงินซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถในการชำระหนี้ของ NMG ยังมีอยู่สูง ส่งผลให้โอกาสที่บริษัทจะผิดนัดชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ ซึ่งกรณีนี้ คือ บลจ.แอสเซท พลัส อีกครั้ง นั้นเหลือน้อยเต็มที หรือแทบจะไม่มีเลย