BAFS มั่นใจปีนี้รายได้-กำไรทำนิวไฮ ตั้งเป้าปี 60 ปริมาณเติมน้ำมันโตต่อเนื่อง

BAFS มั่นใจปีนี้รายได้-กำไรทำนิวไฮ ตั้งเป้าปี 60 ปริมาณเติมน้ำมันโตต่อเนื่อง


นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในปี 60 ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานน่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3-4% โดยอาจจะมีปริมาณสูงถึง 6,000 ล้านลิตร จากปีนี้อยู่ที่ประมาณ 5,700 ล้านลิตร ซึ่งเป็นเติบโตตามการคาดการณ์ของภูมิภาค

“รายได้ปี 60 ก็น่าจะเป็นไปตามประมาณการที่ปกติรายได้จะสูงกว่าปริมาณเติมน้ำมัน เพราะควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ไม่มีเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน และมีเงินปันผลรับจากบริษัทลูก”นายประกอบเกียรติ กล่าว

สำหรับผลงานในปีนี้บริษัทยังมั่นใจว่าทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานเพิ่มขึ้น โดยปีก่อนบริษัทมีกำไรสุทธิ 957.69 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรสุทธิแล้ว 879 ล้านบาท และแนวโน้มไตรมาส 4/59 ปริมาณการเติมน้ำมันยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น สถานการณ์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี รวมถึงสายการบินต่าง ๆ เปิดเส้นทางการบินใหม่เพิ่มขึ้นด้วย

ในส่วนของรายได้ปีนี้คาดจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 3,359 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกมีรายได้แล้ว 2,768 ล้านบาท ด้านปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 8% ยังคงเป็นไปตามเป้า โดย 10 เดือนอยู่ที่ 4,900 ล้านลิตร และไตรมาส 4 กำลังจะเข้าไฮซีซั่นอีกด้วย

“ทั้งสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภมิของไทย เป็น 2 สนามบินที่คนเดินทางหรือจำนวนนักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้ามาสูงที่สุดในโลก ซึ่งการเติบโตของดอนเมืองปี 59 ยังโตอยู่ อาจจะโตจากสายการบินต้นทุนต่ำที่ผู้โดยสารมีโอกาสเดินทางด้วยสายการบินเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะน้ำมันถูกลง เมื่อน้ำมันถูกลงทำให้ low cost ขยายตัวมากขึ้น”นายประกอบเกียรติ กล่าว

ขณะที่อัตรากำไรสุทธิช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 32.9% ซึ่งทั้งปีก็ไม่น่าจะต่ำไปกว่าระดับดังกล่าว เพระไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นด้วย รวมทั้งเหตุการณ์บ้านเมืองก็เป็นปกติดี นักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้นจากปีก่อนทั้งปีที่ 28.5%

นายประกอบเกียรติ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลในการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญจากจีน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เพราะยังไม่เห็นการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ รายได้ของ BAFS ขึ้นอยู่กับจำนวนเที่ยวบิน ไม่ใช่จำนวนนักท่องเที่ยว

“ที่บอกว่านักท่องเที่ยวจีนลดยังไม่เห็นชัดเจนว่าตัวเลขปริมาณเติมน้ำมันและเทียวบินลดลง เพราะยังไม่สะท้อนมาในปริมาณน้ำมันที่ยังเพิ่มขึ้นอยู่ ซึ่งยังไม่เห็นในไตรมาส 4 นี้ ส่วนช่วงต่อไปก็ต้องรอดูก่อน”นายประกอบเกียรติ กล่าว

บริษัทยังเดินหน้าตามแผนลงทุนของกลุ่มในระยะ 4 ปี (59-62) ซึ่งในปีนี้ใช้ไปแล้ว 1,970 ล้านบาท และกำหนดใช้ในปี 60 ที่ 3,457 ล้านบาท, ปี 61 ที่ 2,900 ล้านบาท และปี 62 ที่ 671 ล้านบาท โดยหลักเป็นการลงทุนของ บริษัทย่อย คือ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ (FPT) ที่ BAFS ถือหุ้น 75% ซึ่งมีโครงการขยายระบบท่อส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือ เส้นทางพิจิตร-ลำปาง มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปี 62 ขณะนี้ได้วางศิลาฤกษ์ทั้งที่พิจิตรและลำปางแล้ว อยู่ในช่วงหาผู้รับเหมาก่อสร้างและเจรจาซื้อท่อส่งน้ำมัน พร้อมทั้งสร้างถังและคลังน้ำมันไปพร้อมกัน

นายประกอบเกียรติ กล่าวว่า ตามแผนโครงการนี้จะเสร็จปี 62 หลังจากนั้นบริษัทก็มีแผนจะขยายการส่งน้ำมันจากลำปางต่อขึ้นไปทางเหนือ และขยายไปยังเมียนมา ลาว และจีน เบื้องต้นได้มีการศึกษาไปบ้างแล้ว เพราะมองว่าเส้นทางนี้เป็นโอกาสที่ขยายธุรกิจไปได้ และหากในอนาคตโครงการท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมทวายเกิดขึ้น บริษัทก็จะมีโอกาสที่จะขยายธุรกิจไปได้อีก

ทั้งนี้ หลังจากโครงการขนส่งน้ำมันทางท่อไปภาคเหนือแล้วเสร็จ บริษัทคาดหวังว่าสัดส่วนรายได้จากขนส่งน้ำมันทางท่อจะเพิ่มเป็น 40% และสัดส่วนรายได้จากปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 80% จากเดิมอยู่ที่ 10:90 และจะปรับเป็น  20:80 ปลายปีนี้ โดยรายได้จากขนส่งน้ำมันทางท่อเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างกระเงินสดได้ดีอย่างต่อเนื่องท่ามกลางแนวโน้มความต้องการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

                

Back to top button