ตลท.เตือนผู้ถือหุ้น UPA ศึกษาข้อมูลก่อนอนุมัติสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 200MW ในพม่า
ตลท.เตือนผู้ถือหุ้น UPA ศึกษาข้อมูลก่อนอนุมัติการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 200MW ในพม่า หลังที่ปรึกษาทางการเงินอิสระชี้ไม่ควรอนุมัติ เหตุมองผลตอบแทนเป็นลบ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ผู้ถือหุ้นของบริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA ศึกษาข้อมูลก่อนให้สัตยาบันการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยบริษัทย่อย เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าและจัดจำหน่ายไฟฟ้า 200 เมกะวัตต์ ในประเทศเมียนมาร์ มูลค่ารวม 9,778 ล้านบาท เข้าข่ายเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ พร้อมทั้งขอให้ผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเองโดยเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเดอะแกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ
โดยมีสาเหตุมาจากที่ปรึกษาการเงินอิสระ (IFA) เห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติให้สัตยาบันแก่การลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เนื่องจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเฟส 2 อาจจะให้ผลตอบแทนที่เป็นลบในการลงทุน และการลงทุนมีความไม่เหมาะสม โดยการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเฟส 2 มีมูลค่าปัจจุบันจากกระแสเงินสดโครงการ (379) – 62 ล้านบาท ซึ่งมีบางช่วงติดลบ มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 10.37%ต่อปี ซึ่งมีบางช่วงต่ากว่าต้นทุนทางการเงินถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนักของบริษัท และมีระยะเวลาคืนทุนถึง 10.82 ปี
ขณะที่คณะกรรมการของบริษัทเห็นว่า รายงานของ IFA อ้างอิงผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในเบื้องต้นที่จัดทาขึ้นโดยอาศัยมูลค่ามาตรฐานในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั่วไป และจัดทาขึ้นตามหลักความระมัดระวัง จึงเพิ่ม Risk Premium ของโครงการและประเทศเมียนมาร์ขึ้นจากอัตราส่วนลดปกติจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่ชัดเจนและไม่แน่นอนซึ่งเป็นผลจากการวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 ซึ่งมีเงื่อนไขบังคับก่อนหลายข้อที่จะต้องดาเนินการในระหว่างปี 2559-2560 เช่น การจัดหาผู้สนับสนุนสินเชื่อทางการเงิน การขอรับใบอนุญาตต่างๆ และการเจรจาและร่างสัญญาเช่าที่ดินเพื่อเป็นที่ตั้งโครงการโรงไฟฟ้า ซึ่งภายหลังการดาเนินการดังกล่าวจะช่วยให้ประเด็นต่างๆ มีความชัดเจนมากขึ้น
ตลอดจนความเสี่ยงอาจลดลงหรือหมดไป ดังนั้น คณะกรรมการจึงได้พิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบโดยคานึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและเพื่อไม่ให้บริษัทเสียโอกาสทางธุรกิจ จึงยังคงมีมติเห็นชอบอนุมัติลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้า เฟส 2
อนึ่ง UPA จะเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาให้สัตยาบันแก่การลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยบริษัท เมียนมาร์ ยูพีเอ จำกัด (บริษัทย่อย : UPA ถือหุ้น 100%) กับการไฟฟ้าแห่งสหภาพเมียนมาร์ เพื่อดำเนินการก่อสร้างและจัดจำหน่ายไฟฟ้า 200 เมกะวัตต์ (โครงการโรงไฟฟ้าเฟส 2) มูลค่ารวม 9,778 ล้านบาท เป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการ 338%ของสินทรัพย์รวมของ UPA