EIC ตัดเนื้อร้าย TPIL สะสางปัญหาบอร์ดเก่าทิ้งไว้
EIC ตัดเนื้อร้าย ขายหุ้น "ไทยไพร์ม อินเวสท์เม้นท์ ลิมิเต็ด" ทิ้ง หวังลดภาระค่าใช้จ่าย แก้ไขปัญหางบการเงินที่คณะกรรมการชุดเก่าทิ้งไว้
EIC ตัดเนื้อร้าย ขายหุ้น “ไทยไพร์ม อินเวสท์เม้นท์ ลิมิเต็ด” ทิ้ง หวังลดภาระค่าใช้จ่าย แก้ไขปัญหางบการเงินที่คณะกรรมการชุดเก่าทิ้งไว้
บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ได้มีมติให้ขายหุ้น บริษัท ไทยไพร์ม อินเวสท์เม้นท์ ลิมิเต็ด จำกัด หรือ TPIL จำนวน 2 หุ้น คิดเป็น 100% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของ TPIL โดยมอบอำนาจให้ฝ่ายจัดการดำเนินการเจรจากับนักลงทุนที่สนใจลงทุนใน TPIL ในราคาที่สูงสุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งนี้เนื่องจากการประเมินมูลค่ากิจการทั้ง 3 บริษัท ได้แก่ TPIL, GLS และ SEI แล้ว ทั้ง 3 บริษัทไม่มีมูลค่ากิจการเลย ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2559 บริษัทได้ตกลงจำหน่ายหุ้น TPIL จำนวน 2 หุ้น ในราคาเท่ากับมูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ มูลค่ารวม 2 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 72.30 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2559 : 1 ดอลล่าร์สหรัฐ เท่ากับ 36.15 บาท) ให้แก่บริษัท ไวด์ แอดวานซ์ จำกัด ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ และ ความเกี่ยวโยงกับบริษัทหรือบริษัทย่อยของบริษัท พร้อมจ่ายคืนหนี้แทน TPIL อีกจำนวน 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน) ให้แก่บริษัท
อนึ่งสืบเนื่องมาจากการที่บริษัทได้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท TPIL จำนวน 2 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ มูลค่ารวม 2 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 72.30 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2559 : 1 ดอลล่าร์สหรัฐ เท่ากับ 36.15 บาท) รวมทั้งให้เงินกู้ยืมระยะยาวแก่ TPIL ประมาณ 136.64 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในธุรกิจกีฬาผ่านบริษัทร่วม ได้แก่ บริษัท สปอร์ต อีเว้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ SEI และ บริษัท โกลเบิล ลีเจินส์ เซอร์รี่ ลิมิเต็ด จำกัด หรือ GLS หากแต่การลงทุนในหุ้นดังกล่าว ส่งผลต่องบการเงินของบริษัท เนื่องจากผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขมาโดยตลอด จากการที่ผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริงของ GLS และ SEI เมื่อเปรียบเทียบกับประมาณการแล้วมีความแตกต่างกัน จนเกิดการด้อยค่าเงินลงทุนทั้งจำนวน และตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสำหรับเงินให้กู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างรับทั้งจำนวน และเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งให้บริษัทต้องถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กล่าวโทษและเปรียบเทียบปรับเรื่อยมา
ส่วนประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับในการขาย TPIL ครั้งนี้คือ การลดภาระค่าใช้จ่ายที่บริษัทจะต้องจ่ายค่าจัดทำบัญชีและค่าสอบบัญชีแทนให้แก่ GLS และ SEI และเพื่อให้การจัดทำงบการเงินรวมของบริษัทเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการจัดทำงบการเงินรวมของบริษัทฯ ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวมีการตั้งด้อยค่าไปหมดแล้ว บริษัทจะสามารถรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนจำนวนนี้ได้