AMC ปีนี้สดใส
มีข้อมูลจากผู้บริหาร AMC ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2560 จะเติบโตกว่าปี 2559 อย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้มีปัจจัยบวกที่ส่งผลให้การบริโภคเหล็กภายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่ราคาเหล็กทั่วโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
–คุณค่าบริษัท–
มีข้อมูลจากผู้บริหาร บริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ AMC ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2560 จะเติบโตกว่าปี 2559 อย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้มีปัจจัยบวกที่ส่งผลให้การบริโภคเหล็กภายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่ราคาเหล็กทั่วโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้เชื่อว่าในปี 2560 อุตสาหกรรมเหล็กจะอยู่ในทิศทางขาขึ้น เนื่องจากการที่ภาครัฐได้ออกการมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping:AD) จากหลายประเทศ จึงส่งผลให้มีการส่งเสริมการซื้อขายเหล็กจากผู้ประกอบการภายในประเทศ จึงทำให้บริษัทมียอดขายที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันในปี 2560 งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเริ่มมีแนวโน้มที่จะทยอยออกการประมูล และส่วนโครงการที่ได้เปิดประมูลแล้วก็ได้มีการทยอยการก่อสร้าง ดังนั้นจึงทำให้ปริมาณการบริโภคเหล็กภายในประเทศจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ หลังจากที่ภาครัฐเร่งกระตุ้นการบริโภคเหล็ก โดยการประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานแล้วยังมีส่วนช่วยทำให้ภาคเอกชนเริ่มมีความมั่นใจ และเริ่มลงทุนก่อสร้าง เช่น อาคาร และคอนโดมิเนียม รวมถึงที่อยู่อาศัยอื่นๆ
ด้วยปัจจัยบวกจากราคาเหล็กทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกับมีโครงการภาครัฐเร่งกระตุ้นการบริโภคเหล็ก จะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนให้ AMC สดใสเพิ่มขึ้นในปี 2560
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,287.66 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,012.24 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจาก ปริมาณการขายสินค้าบางประเภทที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงส่งผลให้ยอดขายสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 57.99 ล้านบาท หรือ 0.12 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 128.93 ล้านบาท หรือ 0.27 บาทต่อหุ้น
สำหรับผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3,932.36 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,403.56 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 301.28 ล้านบาท หรือ 0.63 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 206.80 ล้านบาท หรือ 0.43 บาทต่อหุ้น แสดงให้เห็นสักภาพของความต้องการเหล็กที่มีขึ้น
เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทเพื่อนำมาเป็นหนึ่งในตัวแปรที่สำคัญในการตัดสินใจต่อการลงทุน ก็พบว่า ฐานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 1,720.18 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียน 1,303.33 ล้านบาท และเมื่อนำมาเปรียบเทียบค่า CURRENT RATIO ได้ที่ระดับ 1.32 เท่า แสดงว่าสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทยังมีอยู่
อีกส่วนที่ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อตัวบริษัทมากขึ้นก็คือ เมื่อนำเอาหนี้สินรวมที่มีอยู่ 1,320.32 ล้านบาท มาเทียบกับ ส่วนของผู้ถือหุ้นที่ระดับ 1,829.24 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.73 เท่า คือเครื่องยืนยันว่า ปัญหาหนี้สินยังไม่ได้มารบกวนการดำเนินงานของบริษัท
สิ่งสำคัญ คือ หุ้นตัวนี้ยังมีค่า P/E ที่ยังไม่แพงมากนัก โดยค่า P/E อยู่ที่ 8.55 เท่า อีกทั้งเมื่อนำมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ 3.81 บาท มาคำนวณค่า P/BV ที่ระดับ 1.50 เท่า ซึ่งเป็นการคำนวณแบบอนุรักษ์นิยม จะได้ราคาเหมาะสมที่ระดับ 5.72 บาท และเมื่อนำเทียบกับราคาหุ้นบนกระดานที่ระดับ 4.70 บาท แสดงว่า ยังเหลือแก๊ปให้นักลงทุนเข้าเล่นอีกเยอะพอสมควร
AMC นับเป็นหุ้นเหล็กที่น่าจับตา!!
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
1.นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ 76,700,000 หุ้น 15.98%
2.คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล 69,000,000 หุ้น 14.37%
3.นายวีระชัย สุธีรชัย 46,432,400 หุ้น 9.67%
4.น.ส.เพ็ญจันทร์ โยธินอุปไมย 40,000,000 หุ้น 8.33%
5.นายวินท์ สุธีรชัย 39,900,000 หุ้น 8.31%
รายชื่อกรรมการ
1.นาย วีระชัย สุธีรชัย ประธานกรรมการ
2.นาย วีระชัย สุธีรชัย ประธานกรรมการบริหาร
3.นาย ชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ
4.นาย ชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการ
5.นาง เพ็ญจันทร์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการ