“รพ.ราชพฤกษ์” คาดเคาะราคา IPO 14 ก.พ.นี้ จ่อเทรด SET ก.พ.-ต้นมี.ค.60
"รพ.ราชพฤกษ์" หรือ RPH ปลื้มโรดโชว์กระแสตอบรับดี คาดเคาะราคา IPO จำนวน 163.78 ล้านหุ้นใน 14 ก.พ.นี้ จ่อเทรด SET ก.พ.-ต้นมี.ค.60 โดยมี บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายแพทย์ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH เปิดเผยว่า บริษัทคาดจะลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 14 ก.พ.60 พร้อมเปิดเผยราคา IPO และคาดว่าจะสามารถเปิดให้จองซื้อได้ในสัปดาห์หน้า ก่อนจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือนก.พ.นี้ หรือต้นเดือนมี.ค.60 ในหมวดธุรกิจบริการการแพทย์
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 163.78 ล้านหุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ โดยแบ่งเสนอขายต่อประชาชน จำนวน 155.78 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการและผู้บริหาร 8 ล้านหุ้น
โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำเงินที่ได้ไปใช้ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ใน จ.ขอนแก่น บนพื้นที่ 10 ไร่ มูลค่าโครงการทั้งหมดอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรองรับจำนวนเตียงผู้ป่วยได้ถึง 202 เตียง และที่ผ่านมาได้ดำเนินการก่อสร้างมาแล้วตั้งแต่ปีก่อน คาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในเฟสแรกเดือนธ.ค.60 และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในไตรมาส 2/61
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเริ่มแรกเพิ่มเป็นจำนวนกว่า 100 เตียง ขณะเดียวกันบริษัทฯก็ตั้งเป้าหมายในปี 69 จะมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเต็มเฟส อย่างไรก็ตามปัจจุบันโรงพยาบาลราชพฤกษ์ มีจำนวนเตียงผู้ป่วยจดทะเบียนรวม 50 เตียง และเปิดใช้งานจริงเต็มจำนวน โดยมีห้องตรวจทั้งหมด 12 ห้อง
สำหรับการเดินสายโรดโชว์แก่นักลงทุนสถาบันในช่วงที่ผ่านมา มีจำนวนรวม 10 สถาบัน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากธุรกิจโมเดลที่มีความโดนเด่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจ.ขอนแก่น โดยมีมาร์เก็ตแคปไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และมีมาร์เก็ตแชร์อยู่อันดับที่ 2 จากโรงพยาบาลเอกชนในจ.ขอนแก่นที่มีอยู่ทั้งหมด 3 แห่ง
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีรายได้เติบโตเฉลี่ยกว่า 5% ขณะที่ช่วง 9 เดือนของปี 59 มีรายได้เติบโตราว 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯก็คาดว่ารายได้น่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากปริมาณการเข้าใช้บริการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น และการปรับเพิ่มค่าบริการโดยรวมราว 5% ต่อปี
อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะไม่ขึ้นราคาค่าบริการในอัตราที่สูงมาก หรือไม่สูงกว่าโรงพยาบาลเอกชนรายอื่น ขณะที่ในอดีตมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 28-30% และอัตรากำไรสุทธิที่ 12-13% และได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 59 อยู่ที่ 16%
ขณะที่ปัจจุบันโรงพยาบาลมีสัดส่วนรายได้มาจากผู้ป่วยใน 55-56% และผู้ป่วยนอกราว 45% ซึ่งคาดว่าในอนาคตสัดส่วนผู้ป่วยในจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
อนึ่ง โรงพยาบาลราชพฤกษ์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการในระดับทุติยภูมิ ซึ่งให้บริการครอบคลุมพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุดรธานี รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอินโดจีน