PAP ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% พร้อมทุ่มงบ 200 ลบ. ปรับปรุงการผลิต
PAP ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 10% รายได้ 15% ตามงานภาครัฐที่เพิ่มขึ้น-ราคาเหล็กม้วนปรับตัวสูงขึ้น, เตรียมงบลงทุนราว 200 ลบ. ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
นายพฤทธิ์ ลี้วิไลกุลรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 60 เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 7.15 พันล้านบาท สอดคล้องกับปริมาณยอดขายที่คาดว่าจะเติบโตราว 10% จากปีก่อนที่มียอดขายท่อเหล็กราว 3.2 แสนตัน โดยมีปัจจัยหนุน คือการลงทุนของภาครัฐบาลในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นภาคเอกชนที่ได้เข้าไปรับงานของรัฐบาล
สำหรับแนวโน้มผลประกอบไตรมาส 1/60 บริษัทคาดว่าจะดีกว่าช่วงไตรมาส 4/59 เพราะราคาเหล็กม้วน ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยช่วงต้นปีนี้าราคาอยู่ที่ 20 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 59 เฉลี่ยอยู่ที่ 17-18 บาท/กิโลกรัม และยังส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในปีนี้น่าจะอยู่ในระดับสูงจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 13.91% และ 7.64% ตามลำดับ
พร้อมกันนั้น ในปีนี้บริษัทยังจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกจากปัจุจุบันอยู่ที่ 5% ให้เป็น 10% โดยตลาดส่งออกของบริษัทกระจายไปทั้งสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และในกลุ่มประเทศ CLMV ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก แต่ในแง่ของมาร์จิ้นอาจจะไม่สูงเท่ากับการจำหน่ายในประเทศ
ส่วนงบลงทุนในปี 60 บริษัทตั้งไว้ที่ 100-200 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยปัจจัยบริษัทใช้กำลังการผลิตที่ 70% หรือ 4.5 แสนตันต่อปี และคาดว่าปีนี้จะใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 80% สอดคล้องกับงานที่จะเพิ่มขึ้น
นายพฤทธิ์ เปิดเผยอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุน (JV) กับพันธมิตรในประเทศเพือร่วมกับดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ ซึ่งหากมีข้อสรุปการร่วมทุนเกิดขึ้นบริษัทก็มีแหล่งเงินทุนเพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.5 เท่า ขณะที่บริษัทมีนโยบายจะรักษา D/E ไม่ให้เกิน 2 เท่า