MAX ยกเลิกลงทุนโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 2 โครงการ-ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าในประเทศ
MAX ยกเลิกลงทุนโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 2 โครงการ-ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าในประเทศ
บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 49,583,851,118 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายในราคาหุ้นละ 0.05 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 5 หุ้นใหม่ ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินเพิ่มทุนประมาณ 2,479.79 ล้านบาท แต่ภายหลังการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมแล้ว บริษัทสามารถระดมทุนได้เป็นเงินจำนวนรวมทั้ง สิ้น 500,717,714.85 บาทเท่านั้น
บริษัทจะยกเลิกการสำรองลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าของบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) และ บริษัท ราชบุรี-อีอีพี รีนิวเอเบิ้ล เอนเนอจี้ จำกัด (R-EEP) ที่ก่อนหน้านี้มีแผนลงทุนราว 500 ล้านบาทภายในปี 60 , ยกเลิกการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น 2 โครงการที่มีแผนลงทุน 100 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 , ยกเลิกลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีแผนลงทุน 383 ล้านบาทในไตรมาส 2/60
พร้อมทั้งยกเลิกการสำรองเงินทุนไว้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการโรงไฟฟ้าและอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งใช้ชำระหนี้ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจโรงไฟฟ้า และอสังหาริมทรัพย์และไม่มีภาระหนี้สิ้น
อนึ่ง ตามมติคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 3 ก.พ.60 ได้มีมติสละสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ R-EEP แต่บริษัทจะเจรจาขอเลื่อนการชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน และหากได้รับการพิจารณาอนุมัติให้เลื่อนการชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ ทางบริษัทก็จะพิจารณาการซื้อหุ้นเพิ่มทุนต่อไปความทราบแล้วนั้น ซึ่งภายหลังจากการเพิ่มทุน (RO) แล้ว บริษัทได้รับเงินเพิ่มทุนไม่ครบตามจำนวนประมาณการที่วางไว้ บริษัทจึงไม่สามารถจัดสรรเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไว้สาหรับลงทุนเพิ่มเติมใน R-EEP
สำหรับ R-EEP ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ ปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรเป็นที่เรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างการทดสอบเครื่องจักร คาดว่ากำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาสที่ 2/60 โดย MAX เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 10%
ส่วน PPTC ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอผลการอนุมัติจากเจ้าหนี้สถาบันการเงินของ PPTC คาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในไตรมาส 2/60 ซึ่ง MAX จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 21.50%