SAMCO แย้มผลงานQ2โตกว่าQ1 เล็งเปิด 3 โครงการใหม่ใน Q4

SAMCO แย้ม Q2/60 ดีกว่า Q1/60 หลังบุ๊ครายได้โอนเพิ่มขึ้น-ตลาดอสังหาฯเริ่มฟื้นตัวทำยอดขายพุ่งกว่า 300 ล้านบาท เล็งเปิด 3 โครงการ มูลค่ารวม 2.34 พันล้านบาทใน Q4/60


นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/60 น่าจะดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้รวม 225.49 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิที่ 2.78 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้ยอดขายรอโอน (Backlog) ในมือ

ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 2/60 บรรยากาศตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หนุนการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 2/60 บริษัทมียอดขาย (Presale) อยู่ที่กว่า 300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส1/60 แต่ในช่วงไตรมาส 2/60 ส่งมอบโครงการได้มากกว่าไตรมาส 1/60 เนื่องจากบรรยากาศตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น

โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอนในมือมูลค่ารวมประมาณ 230 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทยังมีสินค้าพร้อมโอน (สต๊อก) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 950 ล้านบาท ทั้งจากโครงการโครงการคอนโดมิเนียม และจากโครงการแนวราบ

ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,246.86 ล้านบาท โดยจะมาจากการขายโครงการเดิมที่มีในมือ และการเปิดขายโครงการใหม่ ซึ่งโครงการใหม่ที่จะเปิดขายจะเป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่สามารถรับรู้รายได้ทันทีหลังการขาย

สำหรับแผนในปีนี้ บริษัทเตรียมจะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,336 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการสัมมากร อเวนิว สุวรรณภูมิ เป็นทาวน์โฮม จำนวน 322 ยูนิต บนพื้นที่31 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ซึ่งเริ่มก่อสร้างเฟส 1 จำนวนกว่า 20 ยูนิต ปัจจุบันงานก่อสร้างโครงสร้างเสร็จแล้ว ส่วนงานสาธารณูปโภคคืบหน้าไปแล้วประมาณ 60%

2.โครงการสัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน เป็นทาวน์โฮม 292 ยูนิต บนพื้นที่ 27 ไร่ มูลค่าโครงการ 876 ล้านบาท ซึ่งเริ่มก่อสร้างเฟส 1 จำนวนกว่า 40 ยูนิต ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วประมาณ 60-70%และ 3.โครงการออฟฟิศ พาร์ค รามอินทรา-วงแหวน เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น 24 ยูนิต บนพื้นที่ 3 ไร่ มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างเฟส 1 จำนวนกว่า 12 ยูนิต ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ โดยทั้ง 3โครงการ จะสามารถเปิดขายอย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาส 4/60

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เรามองว่าน่าจะทรงตัว เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวก หรือปัจจัยลบที่จะกระทบต่อตลาด ขณะเดียวกันปัญหาเรื่องหนี้สินครัวเรือนยังคงกดดันอยู่ สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากผู้บริโภคเองยังคงมีหนี้สินครัวเรือนอยู่” นายกิตติพล กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะมีการจัดโปรโมชั่น เช่น แถมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน แถมสวนบริเวณบ้าน เป็นต้น หรือการออกแคมเปญ โดยการจับมือกับสถาบันการเงิน หาแหล่งเงินทุนที่มีดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้บริโภค เป็นต้น

Back to top button