UPA บ่อเก่าหมด บ่อหน้าไม่โผล่

บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA มีข่าวร้ายอีกครั้ง ...ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่...แม้ว่าผู้บริหารจะพยายามลิตข่าวบวกมาโดยตลอด 2 ปีมานี้


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

 

บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA มีข่าวร้ายอีกครั้ง …ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่…แม้ว่าผู้บริหารจะพยายามลิตข่าวบวกมาโดยตลอด 2 ปีมานี้

ข่าวร้ายล่าสุด เปิดเผยโดย นายกวิน เฉลิมโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุว่า  บริษัท อันดามัน เพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้สิ้นสุดเวลาของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับลงวันที่ 26 มิถุนายน 2557 กับ Electric Power Generation Enterprise (EPGE) รัฐบาลเมียนมา เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 6-20 เมกะวัตต์ ในอำเภอกันบก จังหวัดทวาย รัฐทะนินทายี …และไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการทดลองจ่ายไฟฟ้าอีกต่อไป

ข้อมูลที่…ทำให้นักลงทุนรู้ดีว่าเสียค่าโง่มาตลอด..อยู่ที่ว่า สัญญาดังกล่าว มีข้อกำหนดให้จำหน่ายไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 6-20 เมกะวัตต์ มีระยะเวลาของสัญญา 24 เดือนนับแต่วันเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ และสัญญาดังกล่าวได้รับการขยายระยะเวลาเพิ่มเติมชั่วคราวโดยรัฐบาลเมียนมา จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560…ข้อมูลดังกล่าว เป็นสิ่งที่ UPA ไม่เคยพูดถึง หรือพูดถึงน้อยมากตลอด  2 ปีที่ผ่านมา

                 ไม่ได้โกหก แต่พูดความจริงไม่หมด หรือ จงใจให้ไขว้เขวอย่างนี้…เป็นเล่ห์เพทุบายที่ไม่น่ายินดีเอาเสียเลย

UPA ระบุต่อไป…เพื่อให้ดูดี….ว่าโครงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าดังกล่าวเป็นเพียงโครงการนำร่อง (Pilot Project) เพื่อให้บริษัทย่อยของบริษัทสามารถมีโอกาสในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในอนาคต

โครงการแห่งอนาคตที่ว่าคือโครงการของ บริษัท เมียนมาร์ ยูพีเอ จำกัด (Myanmar UPA Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ UPA ที่กำลังเจรจากับทางตัวแทนของรัฐบาลเมียนมา คือ EPGE เพื่อทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ขนาด 200 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นสัญญาระยะยาวที่มีระยะเวลา 30 ปี… และยังไม่มีใครรู้ว่า จะสามารถบรรลุเป้าหมายการเจรจาเมื่อใด

โครงการสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 200 MW ดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ผู้บริหารระดับนายสมพรต สาระโกเศศ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ และกรรมการ ของ UPA พร่ำพูดมาทุกครั้งในรอบ 1 ปีนี้ว่า อยู่ระหว่างเตรียมเซ็นสัญญา (MOU) กับบริษัท มารูเบนิ (Marubeni) จากญี่ปุ่น และบริษัท Jera Power (Thailand) จำกัด รวมถึงบริษัทจดทะเบียนไทยอีก 1 ราย เพื่อร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซธรรมชาติ ขนาด 200 เมกะวัตต์ ภายใต้ชื่อ MUPA1 ณ เมืองกันบก ทวาย มูลค่าลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่ง UPA จะเข้าถือหุ้นลงทุนในสัดส่วน 25% หรือ 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปี 2565…แต่ก็ยังไม่เคยเป็นรูปธรรม

ของเก่าที่ก็ไม่ได้ทำกำรี้กำไรอะไรเลย ก็จะยกเลิก การสร้างรายได้ ขณะที่แหล่งรายได้ใหม่ก็ยังไม่มีเป้าหมายชัด…เสมือนลมที่ลอยในเวิ้งฟ้า..ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด…เป็นความเสี่ยงภัยมากกว่าน่าชื่นชม

ไม่รู้ว่า ผู้บริหาร UPA ทำธุรกิจประสาอะไร…และจะไปสู่หนไหน

เรื่องนี้ ถือว่า เป็นปกติวิสัยของ UPA ที่รับสืบทอดมรดกมาจากCYBER ที่กลุ่มผู้ถือหุ้นปัจจุบัน เข้ามาเทกโอเวอร์เมื่อ ปี 2557 แล้วเปลี่ยนธุรกิจจากเดิมมาเป็นมุ่งสู่การทำพลังงานและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่หลากหลาย แต่ยังไม่เคยทำกำไรเลย แม้ว่าจะมีการเพิ่มทุนให้ฐานะแกร่งอยู่ได้นานหลายปีก็ตาม

จากตำนานของราคาหุ้นที่ทำเอาแมงเม่าเลือดสาดกระจายมารุนแรงในต้นปี 2558 จนถึงล่าสุด UPA พยายามอย่างยิ่งกับการทำธุรกิจพลังงานในเมียนมา แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าผลตอบแทนที่ได้รับกลับมาไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

ตัวอย่างการสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 20 MW ของบริษัท อันดามัน เพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด ที่สร้างเสร็จแล้วขายไปเพียงแค่ 6 MW และมีการทำสัญญา COD เพียงแค่ 2 ปี สะท้อนให้เห็นความอ่อนหัดในการทำธุรกิจอย่างยิ่ง

อีกด้านหนึ่งธุรกิจผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ ในนามบริษัท อินฟอร์เมติกซ์ พลัส จำกัด ผู้พัฒนา mobile communication platform ระบบสื่อสารสำหรับองค์กร ก็ยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้มากมายนัก แค่เลี้ยงตัวเองและฆ่าเวลารอธุรกิจพลังงานจะบันทึกกำไรกลับคืนเท่านั้น

ตำนานของการสร้างกระแสข่าวดีๆ เพื่อเอามาประคองราคาหุ้น จึงไม่ค่อยได้ผล เพราะผลลัพธ์กับข่าวประชาสัมพันธ์สวนทางกัน ทำให้ UPA กลายเป็นหุ้นที่ทำให้นักลงทุนไม่กล้าคาดหวังอะไร

ข่าวร้ายครั้งนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่ออกมาสลายความคาดหวังของนักลงทุน…ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

เพราะฝันไม่เคยเป็นจริง

อิ อิ อิ

Back to top button