TAE เร่งประเมินความเสียหายงบฯ Q4 ด่วน! หลังโรงงานสุพรรณบุรีถูกสั่งหยุดผลิตเอทานอล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่โรงงานผลิตเอทานอลของบริษัทใน จ.สุพรรณบุรี ของ บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE ปล่อยน้ำเสียปะปนน้ำฝนและสร้างความเสียหายแก่หมู่บ้านและพื้นที่เกษตรกรรมบางส่วนที่มวลน้ำไหลผ่าน หลังจากเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ได้เกิดฝนตกหนักในอำเภอด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ในบริเวณบ่อกักเก็บน้ำกากส่าซึ่งผ่านการบำบัดแล้วของโรงงานผลิตเอทานอลของบริษัทฯ และบริเวณใกล้เคียงรอบโรงงานเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้คันบ่อเก็บกักน้ำกากส่าบางส่วนชำรุดพังทลายและน้ำกากส่าบางส่วนได้ไหลล้นปะปนกับมวลน้ำฝนที่หลากไหลจากพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรในบริเวณใกล้เคียง มวลน้ำเหล่านี้ได้ไหลลงสู่ที่ราบต่ำและสร้างความเสียหายแก่หมู่บ้านและพื้นที่เกษตรกรรมบางส่วนที่มวลน้ำไหลผ่าน

ทั้งนี้จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรมจึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ให้บริษัทฯ ยุติการผลิตเอทานอลเป็นการชั่วคราวและให้บริษัทฯ จัดการซ่อมแซมคันบ่อที่ชำรุด และเพิ่มแนวป้องกันน้ำหลากที่มั่นคงแข็งแรง และจัดทำแผนหรือมาตรการการลดปริมาณน้ำกากส่าในบ่อกักเก็บให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย และเร่งดำเนินการกำจัดน้ำกากส่าที่ตกค้างในแหล่งน้ำสาธารณะ บ้านเรือน และไร่นาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560

โดยหากบริษัทฯ สามารถดำเนินการตามคำสั่งและผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงอุตสาหกรรมได้ก่อนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ก็จะได้รับการพิจารณาให้เปิดดำเนินการผลิตเอทานอลก่อนกำหนดต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุบริษัทฯ ได้เร่งช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยเร่งซ่อมแซมบูรณะบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ตลอดจนการจัดอาหารและยารวมถึงสิ่งของที่จำเป็นและจ่ายเงินชดเชยเบื้องต้นแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งร่วมกับเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นสำรวจความเสียหายในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป หากมีความคืบหน้าประการใดบริษัทฯจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

โดยปัจจุบัน บริษัทฯไม่มีเอทานอลในสต๊อกสินค้าเพื่อจำหน่าย เนื่องจากได้นาเอทานอลที่มีอยู่ในสต็อกส่งมอบให้แก่ลูกค้าแล้วทั้งหมด

สำหรับผลกระทบในไตรมาส 4/60 จากกรณีที่ไม่สามารถผลิตและส่งมอบเอทานอลแปลงสภาพให้กับลูกค้า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าหากมีข้อมูลที่ชัดเจนแล้วบริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง