ALT พลิกเกมหนีอนาคต
ธุรกิจโทรคมนาคมไทยกำลังพลิกผันหนัก เพราะถูกเทคโนโลยีแห่งอนาคตไล่ล่า สินค้าที่เคยขึ้นหิ้ง กลายเป็นสินค้าแบกะดิน ... คำถามว่าใครจะรอดไปกำหนดอนาคต ไม่ตกเป็นเหยื่อเสียเอง ยังไม่ชัดเจน สมดังภาษิตที่ว่า ในธุรกิจนวัตกรรม ทุกคนเป็นมือสมัครเล่นหมด
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
ธุรกิจโทรคมนาคมไทยกำลังพลิกผันหนัก เพราะถูกเทคโนโลยีแห่งอนาคตไล่ล่า สินค้าที่เคยขึ้นหิ้ง กลายเป็นสินค้าแบกะดิน … คำถามว่าใครจะรอดไปกำหนดอนาคต ไม่ตกเป็นเหยื่อเสียเอง ยังไม่ชัดเจน สมดังภาษิตที่ว่า ในธุรกิจนวัตกรรม ทุกคนเป็นมือสมัครเล่นหมด
นาง ปรียาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ หรือ คุณอ๋อย ซีอีโอผู้น่ารักของ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ที่เข้ามาจดทะเบียนกลางปีที่แล้ว มีภารกิจหนักหน่วงกว่าปกติ นอกจากต้องทำงานปรับธุรกิจที่ผกผันรุนแรงแล้ว จะต้องหาทางดูแลสื่อสารให้นักลงทุนผู้ถือหุ้นเข้าใจสถานการณ์
“เราไม่อยากบอกนักลงทุนว่า สถานการณ์ตอนนี้ดีมาก เพราะจะเป็นการหลอกนักลงทุน พอเห็นงบออกมาจะย้อนกลับมาทิ่มแทงเราเอง” คำปรารภนี้ บอกถึงความหนักใจในอนาคตได้ชัดเจน
คุณอ๋อยย้ำว่า การที่ราคาหุ้น ALT สองสัปดาห์ที่ผ่านมาทำท่าวิ่ง เพราะมีคนเชียร์ เกิดจากราคาหุ้นของบริษัทถูกบรรดากองทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเก็บเข้าพอร์ต โดยที่ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารไม่เกี่ยวข้องเลย อาจจะเป็นเพราะราคาหุ้นถดถอยมาลึกมาก และเชื่อมั่นว่าแผนระยะยาวของบริษัทในการสร้างรายได้ จะค่อยๆ ผลิดอกออกผลในอีกหลายปีข้างหน้า รวมทั้งการที่มีการจับมือกับกลุ่มเกาหลีตั้งกิจการร่วมค้าเข้ารับงานในระยะอันใกล้
ปีนี้ คุณอ๋อยยอมรับตรงๆ ว่า ผลประกอบการครึ่งแรกของปี ของ ALT น่าผิดหวัง (รายได้ลดลงมาก และกำไรถดถอยชัดเจน) แต่เป็นสถานการณ์ที่เกิดจาก disruptive technology ที่ทุกคนได้รับผลกระทบทั่วหน้า และเป็นห่วงโซ่ที่ส่งต่อจากบนลงล่าง
ธรรมชาติของธุรกิจ ALT ถือว่า มีรายได้จาก 3 ส่วน คือ 1) งานรับเหมาติดตั้งระบบ เช่น สร้างสถานีฐาน, วางสายเคเบิลใยแก้วนำแสง และติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคม (รับจ้างทำของ) ที่มูลค่าเกิน 50% ของรายได้ 2) การขายและให้เช่าอุปกรณ์โทรคมนาคม จำพวกสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (ซื้อมาขายไป) 3) รายได้จากการให้เช่าโครงข่ายในฐานะของผู้ให้บริการเครือข่าย (เน็ตเวิร์ค โพรไวเดอร์)
2 อย่างแรกเคยเป็นรายได้หลัก ถูกเทคโนโลยีทำให้รายได้ลดลง เพราะโอเปอเรเตอร์พากันลดต้นทุนในการขยายเครือข่ายรุนแรง ในขณะที่รายได้หลังสุดที่เริ่มเติบโตชัดเจนยังต้องการเวลาในการปรับธุรกิจซึ่งยังไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปของ 2 อย่างแรกได้
ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยรุนแรงจนกระทบกับยุทธศาสตร์ขยายตัวของ ALT จากรายได้ระยะสั้นของการ “รับจ้างทำของ” และ “ซื้อมาขายไป” ที่ถดถอยลงมาเป็น “การลงทุนก้อนใหญ่เพื่อหารายได้จากค่าเช่า” ทำให้กระทบต่อความสามารถทำกำไรของกิจการอย่างรวดเร็วเกินคาด
คำรำพึงรำพันว่า “อย่าเชียร์แขก” กันมากนักของคุณอ๋อย จึงมีเหตุผลรองรับ
ความจำเป็นของ ALT ในการเร่งเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์โดยกำหนดให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการสร้างฐาน ผ่านการดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อให้เช่า ทั้งโครงการที่ลงทุนเองโดยตรง และลงทุนผ่านบริษัทร่วมทุนหรือกิจการร่วมค้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของโครงสร้างกำไรที่มาจากธุรกิจที่มีรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) เป็น 50% ของผลกำไรรวมภายใน 5 ปี
โครงการต่างๆ ตามแผนที่กำหนดไว้ ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดดอกออกผลภายในเร็ววัน เพราะมีลักษณะ “น้ำซึมบ่อทราย” …นั่นหมายความว่า ความมั่นคงและแข็งแกร่ง รวมทั้งกำไรที่งดงาม มีแน่นอน แต่ไม่ใช่ใน 1-2 ปีข้างหน้า
การดำเนินการสร้างโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงให้เช่าบนแนวเสาโทรเลขตามทางรถไฟ โครงการนำสายสื่อสารลงท่อใต้ดิน ตลอดจนการเตรียมวางโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงความเร็วสูงเฟสแรกในเขตโรงงานนวนครปทุมธานี และมีดำเนินการโดยกิจการร่วมค้า (IH) อยู่อีก 3 โครงการ
อย่างหลังสุดนี้ รวมถึงการจับมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในเกาหลีใต้ อย่าง Lotte Data Communication Co.,Ltd. ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าไม่ธรรมดาแน่นอน แต่คุณอ๋อยก็อุบไต๋ไว้ก่อน…ตามกติกา ก.ล.ต.
การดำเนินโครงการที่จะมีรายได้ “บานช้าช้า แต่ว่ายั่งยืน” เรียกร้องให้บริษัทจำต้องรักษาสภาพคล่องทางการเงินมากกว่าปกติ
การเอาเงินมาจ่ายปันผล แถมจ่ายได้นิดเดียว…อาจจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี สำหรับความรู้สึกของนักลงทุนที่ถือหุ้น เพราะบางคนสนใจกับเงินปันผลมากกว่าส่วนต่างราคา
วิศวกรรมการเงินที่นักการเงินทั้งหลายชื่นชอบตามแบบ “ยิงกระสุนนัดเดียว ได้นกหลายตัว” จึงเกิดขึ้นโดยมติกรรมการของ ALT ล่าสุด
ALT เปิดเผยต่อตลาดเมื่อวานนี้ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรร ALT-W1 จำนวนไม่เกิน 250 ล้านหน่วย อายุ 3 ปีให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิม ต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า
มติดังกล่าว มีการออกแบบให้ อัตราการใช้สิทธิวอร์แรนต์ในอนาคต 1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น และด้วยราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญที่ 3.00 บาทต่อหุ้น และมีอายุการใช้สิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
เพื่อให้ กระบวนการครบถ้วน ทำให้ ALT จำต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทเป็น 625 ล้านบาท จากเดิม 500 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 250 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของ ALT-W1
การแจกวอร์แรนต์ ภายใต้เงื่อนไข หุ้นเดิม 4 หุ้น ต่อ 1 วอร์แรนต์ …หากคิดแค่หยาบๆ กะทันหัน สามารถบอกได้ว่า ราคาปัจจุบันระดับ 6 บาท ราคาแปลงสิทธิ์ 3.00 บาท ราคาของวอร์แรนต์ ALT-W1 ก็ควรจะอยู่ที่ระดับต่ำสุด 3.00 บาท
หากเอา 4 หารเพื่อจะพิจารณาว่า หากลงทุนถือหุ้นเพื่อรับวอร์แรนต์ จะได้ผลตอบแทนเท่าใด จะได้ผลตอบแทนประมาณหุ้นละ 0.75 บาท ต่อหุ้น ถือว่าได้ปันผล 12.5%
บริษัทประหยัดเงิน ไม่ต้องจ่ายปันผล แถมได้เงินคืนอีก เพราะพาร์ 50 สตางค์ แต่ราคาแปลง 3 บาท ไม่เสียหายอะไร…..นักลงทุนก็ยิ้มเพราะไม่ต้องรอปันผล
ใครบอกว่าผลตอบแทนต่ำไป …ยกมือขึ้น
คำรำพึงรำพัน ของคุณอ๋อย….จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป
ก็ดูแลกันขนาดนี้แล้ว….ใครขืนโกรธก็ไม่รักกันจริง
อิ อิ อิ