DCORP เละเป็นโจ๊ก?

ประเด็นของหุ้น DCORP เป็นเรื่องที่อาจารย์พูดคุยกับนักลงทุนบ่อยมาก ทั้งที่เคยเตือนไปแล้วหลายหน พร้อมกับแนะนำอย่าไปสนใจหุ้นตัวนี้อีกเลย แต่กลับมีคนอยากรู้เรื่องของบริษัทนี้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากๆ เพราะหุ้นดีมีตั้งเยอะแยะ เหตุใดนักลงทุนสนใจหุ้นที่ยังมองไม่เห็นอนาคตล่ะครับ


ตีแผ่บจ.ดัง

คุณอนุวัติ จากบางเขน กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น DCORP หรือ บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เละจนไม่หลงเหลือสภาพของหุ้นน่าลงทุน รวมทั้งข่าวคราวที่นักเล่นหุ้นนินทาลับหลังก็มีแต่เรื่องชวนปวดหัว จึงอยากให้อาจารย์ช่วยประเมินสถานการณ์ของบริษัทว่าจะย่ำแย่ถึงขนาดไหน? เพราะอยากรู้อนาคตของหุ้นตัวนี้จะเป็นอย่างไรครับ

 

ประเด็นของหุ้น DCORP หรือ บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นเรื่องที่อาจารย์พูดคุยกับนักลงทุนบ่อยมาก ทั้งที่เคยเตือนไปแล้วหลายหน พร้อมกับแนะนำอย่าไปสนใจหุ้นตัวนี้อีกเลย แต่กลับมีคนอยากรู้เรื่องของบริษัทนี้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากๆ เพราะหุ้นดีมีตั้งเยอะแยะ เหตุใดนักลงทุนสนใจหุ้นที่ยังมองไม่เห็นอนาคตล่ะครับ

ด้วยเหตุนี้ทำให้อาจารย์ขอพูดถึงบทความเก่าๆ ที่เคยตอบนักลงทุนไปก่อนหน้านี้ เพื่อทำให้เห็นว่า วันนี้ยังคงยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลมาจากยังมองไม่เห็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้หุ้นตัวนี้เทิร์นอะราวด์แบบยั่งยืน และไม่เชื่อว่า ทีมผู้บริหารชุดปัจจุบันจะพลิกฟื้นธุรกิจขึ้นมาได้นั่นเอง

สำหรับประเด็นก่อนหน้านี้ที่เคยพูดไว้คือ DCORP เป็นอะไรที่พื้นๆ ไม่ต้องสืบค้นประเด็นต่างๆ ให้เสียเวลา เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวกับ “เกมหุ้น” มากกว่าปัจจัย “พื้นฐาน” ส่งผลให้การทะยานขึ้นของราคาหุ้นในแต่ละรอบมีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นประจำ

ที่สำคัญคือ กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่มีการเปลี่ยนมือกันตลอดเวลา ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของหุ้นดูย่ำแย่มากๆ ในสายตาของอาจารย์ และดูเหมือนกลุ่มคนที่เจนจัดในเรื่องตลาดหุ้นก็ไม่ค่อยชอบกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาช่วยกันปั่นหุ้นตัวนี้สักเท่าไหร่นะครับ

เนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏสู่สาธารณชนไม่ได้เป็นความจริงสักเท่าไหร่ แต่ในระหว่างทางมักมีการดันราคาหุ้นโชว์ เพื่อทำให้เห็นว่า คนที่เข้ามาซื้อหุ้นในเที่ยวนี้ ล้วนเป็นคนที่เชื่อมั่นบริษัท และเชื่อในอนาคตที่สดใสของบริษัท ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำอีกในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (ดูกราฟประกอบ)

สิ่งหนึ่งที่คนวงในพูดกันเป็นเสียงเดียวก็คือ ฉากหลังของนักลงทุนก๊วนดังกล่าวมีการสาดหุ้นทิ้ง หลังเห็นสถานการณ์ของธุรกิจไม่เป็นเหมือนกับที่อยากให้เป็น ส่วนนักลงทุนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาผสมโรงมักมาพร้อมกับขายฝันที่เว่อร์ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ทุกคนถึงเห็นราคาหุ้นเหวี่ยงตัวไปมารุนแรง

นอกจากนี้ในส่วนของงบการเงินที่แสดงประกอบให้เห็นนี้ก็ยังบอกให้รู้ว่า ธุรกิจที่พร่ำบอกชาวหุ้นเป็นประจำว่า “เวิร์ก” สุดท้ายก็ไม่เคย “เวิร์ก” สักครั้ง จึงน่าจะได้ข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ว่า ของมันแย่มาตั้งแต่ต้น ทำอย่างไรมันก็แย่อยู่ดี!

ตรงนี้นำไปสู่ข่าวลือเรื่องผู้บริหารโดนจับฟอร์ซเซลล์ หลังราคาหุ้นร่วงลงอย่างรุนแรงจนติดฟลอร์ แม้ถัดมาอีกวันราคาหุ้นจะถีบตัวขึ้นอย่างร้อนแรง แต่ภาพดังกล่าวได้กลายเป็นตราบาปของหุ้นตัวนี้ไปแล้ว เพราะทั้งหมดมันทำให้รู้ว่า หุ้นตัวนี้ไม่มีพื้นฐานรองรับนั่นเอง

วันนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องไปเตือนใครทั้งสิ้น เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า “ของร้อน” คนกล้าเล่นต้องเก่งพอตัวนะครับ

กราฟประกอบคอลมัน์ : Aspen, ราคาปิด  วันที่ 10 พ.ย.60

Back to top button