หุ้นเล็ก ราคาจี๊ด!

เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สถานการณ์ทางด้านหุ้นขนาดเล็กอยู่ในทิศทางลบเสียส่วนใหญ่ จากแรงเทขายออกมาของนักลงทุน เพื่อไปเก็งกำไรเลือกเล่นรายตัวในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางมากกว่า


เส้นทางนักลงทุน

เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สถานการณ์ทางด้านหุ้นขนาดเล็กอยู่ในทิศทางลบเสียส่วนใหญ่ จากแรงเทขายออกมาของนักลงทุน เพื่อไปเก็งกำไรเลือกเล่นรายตัวในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางมากกว่า

ทำให้ภาพรวมของดัชนี mai ตลอดทั้งเดือนปรับตัวลง 4.83% หรือลง 27.79 จุด คำนวณจากดัชนีปิดที่ 547.16 จุด (ณ วันที่ 30 พ.ย. 2560) เทียบกับดัชนีปิดที่ 574.95 จุด ( ณ วันที่ 31 ต.ค. 2560)

นั่นก็เห็นได้ชัดว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)  หมดเสน่ห์ไปอย่างปริยาย

จากสถานการณ์โดยรวมของหุ้นกลุ่มตลาดเอ็ม เอ ไอ ที่ไม่สู้ดี แต่อย่างไรก็ตาม “เมื่อมีด้านมืด ก็ย่อมมีด้านสว่าง” เพราะยังมีหุ้นที่สามารถปรับตัวขึ้นสวนภาวะดัชนีได้ แต่เด่นๆ คือราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 5% ได้แก่ TPAC, FC, SPVI, SPA, COMAN, TMW, 2S, AGE, AU, CHEWA, AF, HPT และ PHOL เป็นต้น (การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นดูจากตารางประกอบ)

อย่างไรก็ดี แม้ว่าหุ้นดังกล่าวราคาจะปรับตัวขึ้น แต่เชื่อว่า มีเพียงหุ้น TPAC, COMAN และ CHEWA ยังคงมีเสน่ห์ในการที่จะเข้าไปลงทุนต่อเนื่อง เพราะบริษัทคงมีข่าวดีสนับสนุน 

เช่น บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPAC ทางผู้บริหารคาดว่า รายได้ปี 2561 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1.52 พันล้านบาท หลังบริษัทจะเข้าซื้อกิจการ Sunrise Containers Limited (Sunrise) ในประเทศอินเดีย ประกอบธุรกิจผลิตหลอดพรีฟอร์ม (Preforms) และบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติก PET และ PP โดยบริษัทจะใช้เงินลงทุนในการเข้าซื้อมูลค่า 2.2 พันล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่ากระบวนการซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นในช่วงกลางปี 2561

หลังจากกระบวนการเข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จ บริษัทจะมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพิ่มเป็น 60,000 ตันต่อปี จากระดับ 23,000 ตันต่อปีในปัจจุบัน โดยปัจจุบัน Sunrise มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 37,000 ตันต่อปี ซึ่งบริษัทจะใช้เป็นฐานรองรับการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้กับลูกค้าในประเทศอินเดียที่มีความต้องการใช้เติบโตสูงเฉลี่ย 15-20% ต่อปี

รวมถึงการรองรับการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับลูกค้าอื่นๆ ในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันกำลังการผลิตในประเทศไทยใช้เพื่อรองรับการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้กับลูกค้าในประเทศเป็นส่วนใหญ่ และในปี 2561 คาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 10% หลังจากที่บริษัทมีฐานการผลิตในอินเดียเข้ามาเสริม

ต่อมา บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ COMAN ทางนักวิเคราะห์ มองว่าผลประกอบการปี 2561 จะกลับมาเติบโตหลังจากที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้ที่ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ขณะที่ผลประกอบการในปีหน้าจะเติบโตได้ตามภาคการท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวและร้านอาหารที่เปิดใหม่ และรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการบริษัท ซินเนเจอร์ เทคโนโลยี จำกัดในปีนี้เข้ามาเต็มปีในปีหน้า

นอกจากนี้ ผลจากการเดินหน้าซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อต่อยอดไปเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างครบวงจรอีก 1-2 แห่งต่อปีตลอด 2 ปีข้างหน้า จะทำให้เกิด Synergy และหนุนให้กำไรสุทธิเร่งตัวขึ้นเหมือนที่เกิดกับดีลเข้าซื้อกิจการซินเนเจอร์ฯ

ขณะที่ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2561 อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีนี้ที่คาดว่ามีรายได้อยู่ที่ 2 พันล้านบาท เนื่องจากในปี 2561 บริษัทจะมีการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่มีการโอนมาต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2560 และโครงการแนวราบรวม 3 โครงการ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก, โครงการคอนโดมิเนียมชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ และโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้เข้ามาในครึ่งปีแรกของปี 2561 ราว 2 พันล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอนที่มีอยู่ ณ สิ้น 30 ก.ย. 2560 ที่ 3.23 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2561 เบื้องต้นวางแผนเปิดทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมเกือบ 4 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบ ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการชีวารมย์ พุทธมณฑล สาย 1, โครงการแนวราบทำเลประชาอุทิศ และโครงการแนวราบทำเลรังสิต-คลอง 4 อีกทั้งยังมีโครงการแนวราบที่เป็นโครงการร่วมทุน 2 โครงการ คือ โครงการชีวาฮาร์ท สุขุมวิท 62/1 และสุขุมวิท 62

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม เบื้องต้นวางแผนจะเปิด 1 โครงการ ในทำเลทองหล่อ ส่วนโครงการอื่นๆ บริษัทจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับการซื้อที่ดิน หากได้ที่ดินใหม่รองรับก็มีโอกาสที่จะเปิดเพิ่มได้

หุ้นดังกล่าวนักลงทุนที่ชอบเล่นหุ้นขนาดเล็กก็สามารถนำไปใช้ประกอบการลงทุนได้ในช่วงถัดไป !!

Back to top button