ERW ลุ้นกำไร Q1/61 โตแกร่ง รับยอดนักท่องเที่ยวพุ่ง โบรกฯ ชู Domestic Play

จากสภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำให้เลือกลงทุนหรือพักเงินลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic Play เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์เพิ่มเติมของหุ้นบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW

ทั้งนี้เนื่องจากนักวิเคราะห์มองว่า ERW ถือว่าเป็น 1 ในหุ้นกลุ่ม Domestic Play ซึ่งกำไรในไตรมาส 1/61 มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยได้รับผลดีจากนโยบายท่องเที่ยวเมืองหลักเมืองรองของรัฐบาล และตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดย นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ ERW ให้ราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาทต่อหุ้น โดยคาดกำไรไตรมาส 1/61 โตแกร่งทั้งเมื่อเทียบจากปีก่อนและเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และการขยายโรงแรม รวมถึงการมี Economy of scale การขยาย Hop Inn ยังทำต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังคาดว่ากำไรทั้งปี 61 โต 15% และกำไรปี 62 โต 17%

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ERW ให้ราคาเป้าหมาย 10 บาทต่อหุ้น ยังคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 61 อยู่ที่ 586 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบจากปีก่อนจากการขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งยังคาดว่า แนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 1/61 จะเติบโตได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องจากเป็นช่วง High Season นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 1/61 ไม่มีการ Renovate ของ JW Marriot ประกอบกับ ในส่วนของ Hop-Inn ยังมีการเปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 1/61 อีก 2 แห่งในไทย ที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดสุรินทร์ และอีก 1 แห่งที่ฟิลิปปินส์

พร้อมทั้ง นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ ERW ให้ราคาเป้าหมาย 9 บาทต่อหุ้น และเลือกเป็นหุ้นเด่นเดือนเม.ย.นี้ โดยคาดว่ากำไรในไตรมาส 1/61 โตเด่นทั้งเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนและเทียบจากปีก่อน รวมถึงเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่อยู่ในช่วง Peak Season และตัวเลขนักท่องเที่ยวล่าสุดช่วง 2 เดือนแรกปี 61 ที่โตสูงถึง 14.9% เมื่อเทียบจากปีก่อน

รวมทั้งได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนท่องเที่ยวของภาครัฐฯและกระแสเที่ยวเมืองเก่ามากที่สุด เพราะมีโรงแรมกระจายตัวทั่วประเทศ และเป็น Pure Hotel Operator ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรทั้งปี 61 จะอยู่ที่ 623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากทั้งการเปิดโรงแรมใหม่ และ Margin ที่ขยายตัวจาก Operating Leverage

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ ERW เป็นหุ้น Domestic Play ที่ยังโตแกร่ง พร้อมเป็นหลุมหลบภัย

รวมทั้ง นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ เน้นสะสม Domestic Play อาทิ ERW, KBANK, BBL, TMB, TOA, CK, STEC, PYLON, CPALL, HMPRO, BH และ AOT

ด้าน ราคาหุ้น ERW ปิดตลาดวานนี้ (2 เม.ย.) อยู่ที่ 8.15 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 1.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 30.08 ล้านบาท ทั้งนี้ยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาท อยู่ 29%